ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Tesla Roer เจเนอเรชันที่ 2 ถูกเลื่อนกำหนดการวางตลาดตั้งแต่ปี 2563 แม้ Elon Musk เคยประกาศในทุกปีว่ารถรุ่นนี้กำลังจะส่งมอบมาหลายปีแล้ว
ข่าวอัพเดทล่าสุด การผลิต Tesla Roer จะเริ่มช่วงปลายปี 2567 และพร้อมส่งมอบในปี 2568
Elon Musk แจ้งผ่าน “X” ว่า ได้มีการแจ้งข้อมูลจำเพาะของ Tesla Roer ใหม่แล้ว ซึ่งเป็นการส่งข่าวครั้งแรก ตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งสุดท้ายในปี 2560 ทั้งยังเสริมอีกว่า “ถ้าเรียกเครื่องจักรคันนี้ว่า "รถ" จะไม่มีรถคันไหนในโลกที่เหมือนกับรถคันนี้”
นอกจากนั้น ยังเสริมว่า SpaceX มีส่วนร่วมในการออกแบบรถใหม่นี้ด้วย ทำให้มีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. โดยใช้เวลาน้อยกว่า 1 วินาที ซึ่งแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้สำหรับรถปกติ
การเปิดตัวรถแนวคิด Roer ในครั้งแรก Tesla ให้ข้อมูลสมรรถนะว่าสามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 1.9 วินาที, 0-160 กม./ชม. ใน 4.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 400 กม./ชม. มาพร้อมแบทเตอรีขนาด 200 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยมีระยะเดินทางถึง 1,000 กม.
ต่อมา Elon Musk กล่าวว่า Tesla Roer จะมีแพคเกจเพิ่มเติม คือ “ระบบเครื่องยนต์จรวด SpaceX” ทำให้มีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 1.1 วินาที และในการเปิดเผยล่าสุด มีแผนจะนำเสนอเครื่องยนต์จรวดที่มีกำลังสูงกว่าเดิม ซึ่งทำให้มีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ต่ำกว่า 1 วินาที
การเปิดตัวในปี 2560 มีการตั้งราคา Tesla Roer รุ่นมาตรฐาน อยู่ที่ 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.16 ล้านบาท) ส่วนรุ่น Founders Series Model ที่ผลิตจำนวนจำกัด ราคา อยู่ที่ 2.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.95 ล้านบาท) โดยบริษัทเปิดรับสั่งจองหลังจากการเปิดตัว โดยต้องวางเงินมัดจำ 50,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) สำหรับ Roer รุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Founders Series Roer ต้องจ่ายเต็มจำนวน 2.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.95 ล้านบาท) และไม่มีการยืนยันว่าราคารถจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ขณะนี้บริษัทฯ ถูกมองว่าไม่รักษาสัญญา โดยความล่าช้าไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอีกต่อไป เพราะ Tesla ไม่สามารถส่งมอบรถได้ตรงตามกำหนด รวมถึงเรื่องการปรับราคาเพิ่ม และสมรรถนะไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ตอนแรก โดยเฉพาะ Tesla Cybertruck ที่ส่งมอบด้วยราคาที่เพิ่มขึ้น และมีระยะเดินทางได้น้อยกว่าที่แจ้งไว้มาก
สำหรับ Tesla Roer เจเนอเรชันที่ 2 ไม่ได้เป็นรถใหม่เพียงรุ่นเดียวของค่าย เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา Tesla ได้ประกาศว่าจะพัฒนาพแลทฟอร์มใหม่ ที่เตรียมไว้สำหรับผลิตรถรุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่า Model 3 และ Model Y ซึ่งจะเป็นรถราคาประหยัด โดยรถแบบแรกที่จะมากับพแลทฟอร์มใหม่ คาดว่าเป็นครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2568