ปี 2023 ถือเป็นปีที่สำคัญของ OMODA เริ่มจากการเปิดตัวรถยนต์ OMODA E5 ในเดือนเมษายน อย่างยิ่งใหญ่ระดับโลก ต่อด้วยงานโชว์เคสในเดือนตุลาคม และปิดท้ายปีด้วยรางวัล และกระแสตอบรับที่ดีจากทั่วโลก รวมทั้ง โครงการใหม่ทางด้านพลังงานของ OMODA ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนา และเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าบริสุทธิ์รุ่นแรก E5 ที่มาช่วยเสริมทัพไลน์อัพพโรดัคท์ต่างๆ ของบริษัทให้แตกต่าง และหลากหลายมากขึ้น เติมเต็มระบบนิเวศของผู้ขับขี่ให้เป็น “มากกว่ายานยนต์” และก้าวเข้าสู่ขอบเขตใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
ด้วยกลยุทธ์ของ OMODA ทำให้แบรนด์ก้าวสู่การเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดยานยนต์ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ตลอดปี 2023 ที่ผ่านมา OMODA ได้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ด้วยยอดส่งออกรถยนต์มากกว่า 147,000 คัน ซึ่งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น OMODA มียอดส่งออกรถยนต์สูงถึง 13,677 คัน เติบโต 12.6 % เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ในฐานะผู้เล่นที่โดดเด่นในกลุ่มเซกเมนท์ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี
พโรดัคท์ใหม่ของ OMODA ได้รับความสนใจ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง มาจากความมุ่งมั่นเพื่อเข้าสู่ตลาดโลกของ OMODA
OMODA เปิดตัวรถยนต์ “OMODA E5” ในปีที่ผ่านมา เพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้ขับขี่รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นเส้นทางของพลังงานไฟฟ้าของ OMODA พร้อมทั้งได้เปิดตัว “OMODA C5” ที่เข้ามาบุกตลาดครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีระดับโลก ทำให้ OMODA กลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการตีตลาดรถยนต์ที่มีศักยภาพสูง 15 แห่ง ทั้งยุโรปตะวันออก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
OMODA E5 ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในงานเปิดตัวแบรนด์ระดับโลกเมื่อเดือนเมษายน 2023 ซึ่งได้นำเทคโนโลยีพลังงานใหม่มาผสมผสาน เพื่อส่งเสริมการลดคาร์บอน และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการแนะนำรถยนต์ OMODA E5 แก่สื่อมวลชน และผู้ใช้ทั่วโลก OMODA ได้จัดกิจกรรมทดสอบการขับขี่ในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เนปาล รวมถึงประเทศไทยอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ปี 2023 ยังเป็นปีที่ OMODA มีผลงานที่โดดเด่น และได้รับการยอมรับมากมาย เริ่มต้นที่ 2023 China Initial Quality StudySM (IQS) รายงานประจำปีจาก J.D. Power สถาบันที่ปรึกษา และการวิจัยชั้นนำของโลก ได้ยกย่อง OMODA ว่าเป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพอันดับต้นๆ ส่วนงาน GAIKINDO Indonesia International Auto Show 2023 จัดให้รถยนต์ของ OMODA เป็น “Best Test-Drive SUV” รวมไปถึง รางวัลจากประเทศมาเลเซียอีกมากมาย อาทิ รางวัล “Best Mid-Size Crossover/SUV” จาก Star Media Group รางวัลสาขา “Best 5-seater SUV” ซึ่งคัดเลือกโดยบรรณาธิการ จากงานประกาศรางวัล Carlist x Wapcar COTY 2023 Awards และรางวัล Outstanding Warrant จากงานประกาศรางวัล Malaysia Car of the Year Awards ครั้งที่ 19 อีกด้วย
การเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้งาน รวมถึงการสนับสนุนจากสื่อมวลชน และภาคอุตสาหกรรม ทั้งหมดนี้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ OMODA เป็นที่รู้จัก ซึ่งไม่เป็นเพียงแค่ข้อยืนยันถึงคุณภาพสินค้าของ OMODA เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแรงใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความทุ่มเทของแบรนด์ในการเจาะตลาดโลก โดยในอนาคต OMODA จะยังคงสานต่องานพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งการเรียนรู้ ความปลอดภัย พลังงาน และงานบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก และเป็นแรงผลักดันให้ OMODA เติบโตอย่างมั่นคงในตลาดยานยนต์ของโลก
ยึดมั่นในหลักการ “ผู้ขับขี่ต้องมาก่อน” และผลักดันระบบนิเวศที่เป็น “มากกว่ายานยนต์”
OMODA เข้าใจดีว่าในสภาพแวดล้อมของตลาดที่มีการแข่งขันสูง การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และมีนวัตกรรมที่ทันสมัยเป็นสิ่งสำคัญ แต่การดูแลความสัมพันธ์กับผู้ขับขี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น OMODA จึงมีแนวคิดหลักเกี่ยวกับการคำนึงถึงผู้ขับขี่ หรือผู้ใช้งานเป็นอย่างแรก จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่ดีให้แก่ผู้ใช้ ที่จะช่วยให้พวกเขาได้ก้าวออกนอกกรอบ และออกสำรวจความเป็นไปได้อื่นๆ อีกมากมาย
ในงาน Global User Ecosystem Co-creation Conference เมื่อเดือนตุลาคม ผู้ใช้รถยนต์ OMODA จาก 30 กว่าประเทศทั่วโลก ได้มารวมตัวกันเพื่อสร้างประสบการณ์กับแบรนด์ โดยในงานเล่าเรื่องราวความสำเร็จของ OMODA และความพร้อมเชื่อมโยงผู้ขับขี่ทั่วโลกในการสร้างสรรค์ และแชร์ประสบการณ์การขับขี่ร่วมกัน เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศที่เป็น “มากกว่ารถยนต์” พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ LOHAS หรือ Lifestyle of Health and Sustainability ของผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิต และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา OMODA รถยนต์ครอสส์โอเวอร์ที่มีรูปลักษณ์นำแฟชัน ได้ปล่อยแคมเปญ “Refitting Competition” ที่รวบรวมศิลปินนักสร้างสรรค์มาออกไอเดียตกแต่ง OMODA ในแบบของตัวเอง พร้อมนำเสนอมุมมองที่ไม่เหมือนใคร และเผยศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดให้ผู้ขับขี่อื่นๆ ได้เห็นไอเดียนอกกรอบใหม่ๆ ของ OMODA C5 และเสน่ห์อันน่าหลงใหลของวงการรถยนต์
นอกเหนือไปจากการมีระบบนิเวศ LOHAS และไลฟ์สไตล์การขับขี่ครอสส์โอเวอร์แล้ว OMODA ยังร่วมมือกับผู้ขับขี่เพื่อส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมอีก โดยเข้าไปมีส่วนร่วมกับองค์กรการกุศลที่หลากหลายในระดับโลก ผ่านกิจกรรม “New Journey New Life-Embracing Green Living” ปั่นจักรยานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ OMODA ได้ผนึกกำลังกับผู้ขับขี่หลายพันรายทั่วโลก สนับสนุนการเดินทางแบบคาร์บอนต่ำ และเป็นผู้นำด้านการมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับ Arturo Allende Islands ผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมจากเมกซิโก ที่ได้ริเริ่มโครงการการกุศลหลายด้าน อาทิ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การดูแลกลุ่มเปราะบาง และการคุ้มครองสัตว์
การเติบโตของแบรนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสร้างคอมมูนิทีของผู้ขับขี่ที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมสังคม และยังดึงดูดให้ผู้คนที่สนใจการขับขี่แบบเดียวกันเข้ามาใช้งาน เมื่อรวมกับผู้ขับขี่รถยนต์ OMODA ที่มีอยู่ จึงกลายเป็นชุมชนผู้ขับขี่ OMODA ที่ใหญ่ขึ้น ตอบโจทย์อนาคตของแบรนด์ที่เป็น “มากกว่ายานยนต์”
OMODA ถือกำเนิดขึ้นในฐานะแบรนด์รถยนต์ระดับโลก ที่มุ่งมั่นทะยานสู่การเป็นผู้นำตลาดรถครอสส์โอเวอร์ในเวทีโลก มุ่งหน้าพัฒนาแบรนด์ที่สะท้อนความต้องการของผู้ขับขี่ในภูมิภาคต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา OMODA E5 ได้รับการตอบรับจากผู้นำ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐในหลายประเทศ ท่ามกลางโลกที่ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด และการพัฒนาที่ยั่งยืน OMODA ได้มีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในประเทศต่างๆ เพื่อนำข้อมูลของแต่ละพื้นที่ไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนท้องถิ่น จากความมุ่งมั่นนี้ ทำให้แบรนด์ OMODA สามารถแข่งขันในตลาดรถยนต์ระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยส่งเสริมตลาดรถยนต์ต่างประเทศให้มีกลยุทธ์ที่เฉพาะเพื่อเข้าถึงตลาดท้องถิ่นอีกด้วย
ในปีที่ผ่านมา OMODA ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในตลาดโลก จากความพยายามที่ไม่หยุดนิ่ง และการมีกลยุทธ์ที่มีศักยภาพ สำหรับปี 2024 นี้ OMODA จะเสริมทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมระบบนิเวศของแบรนด์ร่วมกับผู้ขับขี่ทั่วโลก ผ่านมุมมอง เรื่องราว และการมีส่วนร่วมจากทุกคนในการพัฒนาคุณภาพ OMODA ให้เป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ระดับโลก