VinFast คือ บริษัทผลิตรถยนต์ในเครือของ Vin Group บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 และเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2564 จากนั้นได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ในปี 2566 ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญซึ่งทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
นับจากนั้น VinFast ก็ค่อยๆ เริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดใหญ่ของโลก อย่างสหรัฐอเมริกา และแคนาดา โดยปัจจุบัน
กำลังสร้างโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าในรัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐฯ และอินเดีย และมีแผนจะสร้างโรงงานเพิ่มเติม
ในอินโดนีเซีย ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่เริ่มก่อตั้งได้ไม่นานเป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่ดี รวมทั้งการศึกษาวิจัยตลาดอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
จากประสบการณ์ในระดับโลกสู่ความสำเร็จในตลาดโลคอล
ในปีนี้ VinFast เล็งขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง โดยอาศัยประสบการณ์จากตลาดในสหรัฐอเมริกามาจับตลาดประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย และไทย ซึ่งได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน
จากการสำรวจของ Ipsos ในช่วงปลายปี 2566 พบว่าคนไทยถึงร้อยละ 84 มีแนวโน้มที่จะพิจารณาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในการซื้อรถคันต่อไป แม้ว่าการใช้รถ EV จะช่วยประหยัดได้ในระยะยาว โดย 65 % ของผู้ตอบแบบสำรวจของ Ipso เห็นว่าการประหยัดค่าเชื้อเพลิงเป็นเหตุผลหลักในการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า แต่ค่าใช้จ่ายก้อนโตก้อนแรกในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นอุปสรรคสำหรับคนไทยถึงเกือบครึ่ง หรือ 48 %
นอกจากนั้น กฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ยังได้คาดการณ์ว่ายอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในไทยจะสูงถึง 150,000 คัน ภายในสิ้นปี 2567 หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา
แนวโน้มดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าว่าตลาด EV ในประเทศกำลังขยายตัวขึ้นทุกปี ด้วยนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล
ซึ่งการเติบโตดังกล่าวนี้ย่อมหมายถึงศักยภาพทางธุรกิจสำหรับ VinFast
VinFast ประกาศแผนเปิดตัวรถยนต์หลากหลายรุ่นในประเทศไทยภายใน 2567 นี้ ประกอบด้วยรุ่น VF e34 ในเดือนมิถุนายน 2567 รุ่น VF 5 ในเดือนสิงหาคม หรือกันยายน 2567 และรุ่น VF 6 และ VF 7 ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์เชิงรุกที่กำหนดมาเพื่อแข่งขันกับแบรนด์ EV ของจีนที่เริ่มติดตลาดประเทศไทยแล้วในช่วงที่ผ่านมา
ฮานา วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินฟาสต์ ออโต้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เป้าหมายแรกของเรา คือ การวัดผลตอบรับของตลาดไทย เราอยากรู้ว่ารถยนต์รุ่นใดของ VinFast ที่โดนใจผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด
แม้ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะมีการแข่งขันสูง แต่ VinFast เชื่อมั่นว่ายังมีแนวโน้มที่ดีสำหรับการรุก
ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ยิ่งไปกว่านั้น เป็นที่รู้กันดีว่าผู้บริโภคชาวไทยมีความพิถีพิถัน และความต้องการรถยนต์ที่สะท้อนถึงตัวตนของเจ้าของ มากกว่าความเหมาะสมในการใช้งานจริง และมักเลือกใช้รถยนต์ที่สอดคล้อง และสะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ VinFast จึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย เช่นเดียวกับ
ในตลาดอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น รุ่น VF 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในประเทศไทยในปลายปีนี้ จะมุ่งเน้นความเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัว ซึ่งเหมาะสำหรับคนเมืองส่วนใหญ่
เมื่อมีการขยายธุรกิจไปทั่วโลก VinFast ได้ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งในด้านตัวผลิตภัณฑ์ และแผนธุรกิจของบริษัทที่พร้อมปรับตัวให้เข้ากับตลาดในประเทศต่างๆ
“ความยืดหยุ่นเป็นกุญแจสำคัญในแผนการจัดจำหน่ายของเรา และเราพร้อมที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับผลตอบรับ และความต้องการของตลาดประเทศไทย”
บริการแบทเตอรีแบบสมัครสมาชิก โซลูชันเพื่อคนไทย
ตลาด EV ที่กำลังเติบโตไม่ได้รับประกันว่าผู้เล่นทุกรายจะสามารถคว้าส่วนแบ่งได้เท่ากัน ด้วยบทเรียนจากประสบการณ์ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก VinFast ใช้อินไซท์จากลูกค้าเป็นข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยสำคัญหนึ่ง คือ ค่าใช้จ่าย
VinFast เชื่อว่าบริการแบทเตอรีรถไฟฟ้าในระบบสมัครสมาชิกของบริษัทซึ่งจะเตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ จะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โดย VinFast จะจำหน่ายรถยนต์ที่ไม่ได้ติดตั้งแบทเตอรี และผู้ซื้อรถสามารถเช่าแบทเตอรีโดยจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นรูปแบบที่ VinFast ใช้มาแล้วในอินโดนีเซีย
ด้วยการแยกแบทเตอรีซึ่งเป็นส่วนประกอบที่แพงที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้าออกจากตัวรถ VinFast เชื่อว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายก้อนแรกในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมาก และลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการใช้รถ EV สู่ระดับที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
บริษัทยังมีนโยบายหลังการขายที่ดีเยี่ยม ด้วยการบำรุงรักษา และการเปลี่ยนแบทเตอรีฟรีเมื่อพบว่าความจุของแบทเตอรีต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (หรือ 70 % ของความจุเดิม) เพื่อให้มั่นใจว่าแบทเตอรีมีสมรรถนะที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน
นธี กองเกตุใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นทียูนิตี้ มอเตอร์ จำกัด หนึ่งในตัวแทนจำหน่าย VinFast กล่าวว่า ความมุ่งมั่นในการให้บริการหลังการขายที่เป็นเลิศนี้จะเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของ VinFast ในการดึงดูดลูกค้าชาวไทย และประสบความสำเร็จในประเทศไทย
ด้วยฐานธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทรถยนต์หน้าใหม่จากเวียดนามรายนี้เชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์ในระดับโลก และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดโลคอล VinFast พร้อมจะเดินหน้าสู่ความสำเร็จในตลาดศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนแห่งนี้ได้ไม่ยากนัก