บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด เดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์ และยนตรกรรมไฟฟ้าอย่าง The Kia EV5 รถเอสยูวีขนาดกลางไฟฟ้า 100 % ที่ให้ความอเนกประสงค์เต็มรูปแบบรุ่นแรกในไทย และ The Kia EV9 รถเอสยูวี 6 ที่นั่งรุ่นแรกในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง จัดงาน “Kia EV Playground” ด้วยการเนรมิตพื้นที่ 600 ตรม. ให้เป็น “EV Playground” สนามเด็กเล่นที่ Kia ชวนเด็กๆ มาเปิดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นครั้งแรกเกี่ยวกับเรื่องพลังงานสะอาด ผ่านเครื่องเล่นจำลองต่างๆ พร้อมเปิดให้ยลโฉมยนตรกรรม The Kia EV5 และ The Kia EV9 อย่างใกล้ชิด และทดลองขับ The Kia EV9 GT-Line AWD, The Kia Sorento Premium Plus PHEV, The Kia Carnival SXL 11 ที่นั่ง และ The Kia Carnival SXL Luxury 7 ที่นั่ง ได้ภายในงาน ที่ลาน Mega Plaza ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตั้งแต่วันนี้-วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 โดยงาน Kia EV Playground นับเป็นการคิคออฟโรดโชว์ของบริษัทฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมเตรียมจัดโรดโชว์ “Kia eXperience Roadshow” ให้ลูกค้าได้ยลโฉมยนตรกรรมอย่างใกล้ชิด อีก 4 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567
ฌอง-ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ คือ ก้าวสู่การเป็น "แบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน" (Sustainable Mobility Solutions Provider) โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่มอบประสบการณ์ขับขี่แบบไร้มลพิษ สำหรับในประเทศไทย บริษัทฯ ได้เริ่มจากการเปิดตัว The Kia EV9 ยนตรกรรมรุ่นเรือธงที่เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดของเรา และล่าสุดกับการเปิดตัว The Kia EV5 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคคนไทยเป็นอย่างมาก
“เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามเป้าหมายดังกล่าว บริษัทฯ จัดงาน “Kia EV Playground” ภายใต้คอนเซพท์ “พลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุด คือ พลังงานที่มาจากเด็กๆ” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นครอบครัวคนรุ่นใหม่ เพื่อเชิญชวนให้คุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกๆ มา ได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับพลังงานสะอาด โดยเราเชื่อว่าพลังจากเด็ก คือ พลังที่บริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งเปรียบได้กับโลกแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าของ Kia ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าบริสุทธิ์ 100 % จึงเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้แก่โลกของเรา โดยภายในงานมีไฮไลท์ คือ “EV Playground” สนามเด็กเล่นที่ Kia อยากให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้าง และการใช้พลังงานสะอาดในรถยนต์ไฟฟ้าจาก 3 เครื่องเล่น ได้แก่ 1. Kia สไลเดอร์ เด็กๆ จะได้สนุกไปกับการสไลด์บนโลโก Kia การเคลื่อนไหวบนสไลเดอร์นี้จะก่อให้เกิดพลังงาน 2. แท่นหมุน เด็กๆ สนุกกับการหมุนรอบแท่นหมุน การเคลื่อนไหวรอบแท่นหมุนจะก่อให้เกิดพลังงานได้เช่นกัน 3. ฐานกระโดด ที่เด็กๆ สามารถกระโดดจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง การกระโดดไปแต่ละจุดจะก่อให้เกิดพลังงาน โดยพลังงานจากการเคลื่อนไหวของเด็กๆ จะแสดงให้เห็นในรูปแบบของแสงสีต่างๆ ที่แสดงบนเครื่องเล่นแต่ละชิ้น เมื่อเด็กๆ เล่น และวิ่งไปยังสัญลักษณ์รูปแบทเตอรี พวกเขาจะได้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถนำมาใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายสำหรับเด็กๆ อาทิ เครื่องเล่น แทรมโพลีน มุมวาดภาพระบายสีเพื่อให้เด็กๆ ได้สร้างสรรค์ไอเดียงานศิลปะ และหากเด็กๆ เล่นกิจกรรมครบทุกสเตชันภายในงาน จะได้รับขนมสายไหมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ The Kia EV9 อีกด้วย”
อีกหนึ่งไฮไลท์ภายในงาน คือ การเปิดให้ยลโฉมยนตรกรรม The Kia EV5 และ The Kia EV9 อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกครอบครัวได้สัมผัสฟังค์ชันต่างๆ ของ The Kia EV5 และ The Kia EV9 ที่มาพร้อมดีไซจ์นล้ำสมัยในสไตล์รถเอสยูวี เน้นการนำเสนอพื้นที่ในตัวรถกว้างขวาง และฟังค์ชันการใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ โดย The Kia EV5 รถเอสยูวีขนาดกลางที่ให้ความอเนกประสงค์เต็มรูปแบบ โดดเด่นด้วยพื้นที่แถว 2 ที่กว้างขวางที่สุดในรถยนต์เซกเมนท์เดียวกัน เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ (Millennial Family) ที่อาศัยในเมือง และกลุ่มคู่รักวัยมิลเลนเนียลที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีความคล่องตัว มอบความสะดวกสบายที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นตู้แช่อเนกประสงค์ทั้งร้อน และเย็น (สำหรับรุ่น Earth Exclusive AWD) มาพร้อมฟังค์ชันปรับอุณหภูมิที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมเมนูให้คุณหนูๆ สำหรับทริพแคมพิงได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งรถยนต์ The Kia EV5 ทุกรุ่นยังมาพร้อมแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเป็นโต๊ะทานข้าวสร้างบรรยากาศให้สมาชิกในครอบครัวได้ดื่มด่ำทานอาหารไปกับบรรยากาศ Outdoor นอกจากนี้ ยังมีออพชันพิเศษกับโต๊ะอเนกประสงค์แบบพับได้สำหรับผู้โดยสารแถว 2 เพื่อนั่งทำงาน อ่านหนังสือ และทานอาหารได้ตามไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง
The Kia EV9 รถเอสยูวีพรีเมียมขนาดใหญ่ 6 ที่นั่ง เจ้าของรางวัลรถครอบครัวยอดเยี่ยมปี 2566 (Family Car of the Year) จากนิตยสารยานยนต์ที่โด่งดังของโลกอย่าง Top Gear รวมถึงได้รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกและรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมของโลกปี 2567 จากงาน World Car Awards ปี 2567 ที่ให้ความสะดวกสบายเทียบเท่ารถยนต์ MPV (Multi-Purpose Vehicle) โดยรถยนต์รุ่นนี้เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ที่มีการใช้งานแบบอเนกประสงค์ มีตัวเลือกการปรับที่นั่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมเบาะนั่งปรับหมุนได้ 180 องศา ใน The Kia EV9 Earth Long Range นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำเสนอฟังค์ชันนี้ในกลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่ในไทย เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้สร้างช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันตลอดการเดินทาง และหากผู้โดยสารต้องการความผ่อนคลายขณะเดินทาง ฟังค์ชันที่นั่งแบบเลาน์จ์มีที่พักเท้าแบบปรับด้วยไฟฟ้า มีระบบอุ่น และสามารถระบายอากาศได้ พร้อมฟังค์ชันการนวดแบบต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีระบบรองรับ Vehicle to Load (V2L) จ่ายไฟให้แก่อุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์อื่นๆ เช่น แลพทอพ สมาร์ทโฟน แทบเลท พโรเจคเตอร์ที่เนรมิตให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์เล็กๆ สำหรับคุณหนูๆ พร้อมจุด USB Charger ใช้งานได้หลายจุด หมดกังวลกับปัญหาการลืมอุปกรณ์ชาร์จไฟขณะเดินทาง
“ด้วยฟังค์ชัน และคุณสมบัติที่ครบครันเหล่านี้ นับเป็นจุดแข็งที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงมั่นใจว่า The Kia EV5 และ The Kia EV9 จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกๆ การเดินทางให้แก่ทุกครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นหนึ่งในทางเลือกแห่งอนาคตของผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยภายในงานยังเปิดให้ผู้สนใจทดลองขับ The Kia EV9 GT-Line AWD, The Kia Sorento Premium Plus PHEV, The Kia Carnival SXL 11 ที่นั่ง และ The Kia Carnival SXL Luxury 7 ที่นั่ง ได้ที่ลาน Mega Plaza ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตั้งแต่วันนี้-วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 และบริษัทฯ ได้เตรียมจัดกิจกรรมโรดโชว์ "Kia eXperience Roadshow" ให้ลูกค้าได้ยลโฉมยนตรกรรม Kia อย่างใกล้ชิดอีก 4 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ เซนทรัลลาดพร้าว ในวันที่ 23-29 พฤษภาคม, เซนทรัลอีสต์วิลล์ ในวันที่ 13-19 มิถุนายน, เซนทรัลเวสต์เกท ในวันที่ 26 มิถุนายน-2 กรกฎาคม และเซนทรัลพระราม 2 ในวันที่ 4-10 กรกฎาคม”