หลักจากงาน Beijing International Automotive Exhibition ปิดฉากไปอย่างยิ่งใหญ่ Omoda & Jaecoo ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน เผยโฉมเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ๆ สุดทึ่ง ในคอนเซพท์ “ผลิตภัณฑ์ใหม่+เทคโนโลยีใหม่+ระบบนิเวศใหม่” ที่ถือเป็นการกำหนดจุดยืนที่ชัดเจนในยุคแห่งพลังงานใหม่ ขณะเดียวกัน Omoda & Jaecoo ยังได้เปิดตัวหุ่นยนต์ “Mornine” หุ่นยนต์ไบโอนิคครั้งแรกของโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่ง “Mornine” เป็นหุ่นยนต์ไบโอนิคเดินได้ที่พัฒนาโดย Chery Automobile บริษัทแม่ของ Omoda & Jaecoo ที่ร่วมมือกับพันธมิตร AiMOGA
เปิดตัวหุ่นยนต์ “Mornine” หุ่นยนต์ไบโอนิคเดินได้ครั้งแรกของโลก
เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Omoda & Jaecoo คือ การสร้างความเชื่อมโยงของผู้ขับขี่ในระบบนิเวศ ตอกย้ำการเป็น “มากกว่ารถยนต์” หรือ “More than Cars” โดยได้พัฒนาระบบนิเวศต่างๆ ในการขับขี่ มุ่งเน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง และสถานการณ์การใช้ชีวิตในอนาคต รวมถึงการผสมผสานระหว่าง “Tech Life” “Fashion Life” และ “Off-Road Life” เข้าด้วยกัน พร้อมเป็นตัวช่วยในการตั้งแคมพ์ การแต่งรถ และคอมมูนิทีออนไลน์ (Geek Communities) ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย และเข้ากับตัวตน รวมถึงการเสริมระบบนิเวศการขับขี่ให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา แบรนด์ Omoda & Jaecoo ได้จัดงานแถลงข่าวระบบนิเวศการขับขี่ขึ้นที่เมืองอู๋หู ประเทศจีน และได้เปิดตัวหุ่นยนต์ “Mornine” หุ่นยนต์ไบโอนิคครั้งแรกของโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่ง “Mornine” เป็นหุ่นยนต์ไบโอนิคเดินได้ที่พัฒนาโดย Chery Automobile บริษัทแม่ของ Omoda & Jaecoo ที่ร่วมมือกับพันธมิตร AiMOGA
“Mornine” เป็นหุ่นยนต์สองเท้าอัจฉริยะเสมือนมนุษย์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ผลิตจากวัสดุเลียนแบบธรรมชาติ (Biomimetic) นวัตกรรมใหม่ เพื่อให้มีความใกล้เคียงมนุษย์ดิจิทอล โดยแบรนด์ Omoda & Jaecoo ได้กำหนดเป้าหมายการนำ “Mornine” มาใช้ ผ่านกลยุทธ์ “Three-Step” ในการเพิ่มศักยภาพทางเทคโนโลยี เพิ่มฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย และเปลี่ยนผ่านไปสู่การขาย และบริ การอัจฉริยะ นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาเชิงลึก และเพิ่มประสิทธิภาพในสถานการณ์เฉพาะให้แก่ “Mornine” ในระหว่างงานเปิดตัวแขกผู้มีเกียรติในงานได้มีส่วนร่วมโต้ตอบกับ “Mornine” พร้อมสัมผัสกับประสิทธิภาพของ AI ในการโต้ตอบในสถานการณ์ที่หลากหลาย และสร้างประสบการณ์ให้ผู้เข้าร่วมได้ดื่มด่ำกับเสน่ห์ของ “Mornine” ที่ชาญฉลาดอย่างเต็มที่
ด้วยวิสัยทัศน์ และเอกลักษณ์ของแบรนด์ในด้านเทคโนโลยี Omoda & Jaecoo มุ่งมั่นเดินหน้าทำตามแผนกลยุทธ์ของแบรนด์ในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี และระบบนิเวศของพลังงานใหม่ เพื่อเขียนหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์โลกให้ยั่งยืน
และเมื่อปีที่ผ่านมาแบรนด์ Omoda & Jaecoo ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นต่างๆ และมีการส่งออกมากกว่า 160,000 คัน ครองใจผู้ขับขี่กว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยรถยนต์ JAECOO ที่เปิดตัวในเดือนเมษา ยนปีที่แล้ว ด้วยแนวคิด “From Classic, Beyond Classic” ได้ปลดลอคประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ออฟโรด SUV สุดพรีเมียม พร้อมที่จะไปท่องโลกกับผู้ขับขี่ในทุกท้องถนน
“ผลิตภัณฑ์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่” กับไดเรคชันกลยุทธ์การใช้พลังงานใหม่
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานทั่วโลกที่รวดเร็วขึ้น Omoda & Jaecoo มุ่งเดินหน้าพัฒนาจุดแข็งจากผลิตภัณฑ์ และศักยภาพทางเทคโนโลยีของเราอย่างเต็มที่ ซึ่งในงาน Beijing Interna tional Automotive Exhibition เราได้นำเสนอยนตกรรมพลังงาน “ใหม่” ด้วยรถยนต์ Jaecoo 7 PHEV และ Jaecoo 8 PHEV
จากความสำเร็จของ Jaecoo 7 PHEV ในตลาดโลก ถือเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของ Jaecoo ในการพลิกโฉมวงการรถยนต์ออฟโรดแบบเดิมๆ ด้วยรถยนต์พลังงานใหม่ โดย Jaecoo ได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้แบรนด์สามารถชิงความได้เปรียบในตลาดรถยนต์ออฟโรดพลังงานใหม่ ผ่านโมเดลรุ่น Jaecoo 7 PHEV และ Jaecoo 8 PHEV
สำหรับรถยนต์ Jaecoo 7 PHEV ได้พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ออฟโรดพลังงานใหม่ ด้วยระบบอัจฉริยะขับเคลื่อน 4 ล้อ (ARDIS) โดยเฉพาะนวัตกรรมที่เหนือชั้น ได้แก่ Power Mode, Energy Conservation, Ultimate Safety, Four-wheel Drive Off-road, Smart Technology และ Outdoor Living ในขณะที่ Jaecoo 8 PHEV รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อออฟโรดประสิทธิภาพสูง ที่มอบประ สบการณ์การขับขี่ออฟโรดหรูหราเหนือระดับ โดย Jaecoo 8 PHEV ถือเป็นจุดสูงสุดของตลาดรถยนต์ออฟโรดพลังงานใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพแลทฟอร์มออฟโรดไฮบริดเจเนอเรชัน 3 ของ Jaecoo ทั้งหมดนี้ ถือเป็นการสร้างสรรค์คุณค่าในตลาดออฟโรดพลังงานใหม่
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ได้เปลี่ยนไปสู่การแข่งขันด้านเทคโนโลยี ซึ่ง Omoda & Jaecoo ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวอย่างยิ่ง ภายใต้ Chery Automobile บริษัทแม่ของ Omoda & Jaecoo ได้ฝากมรดกการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่าน “เทคโนโลยี” ในระดับสากลอย่างเต็มรูปแบบมาโดยตลอด ในยุคแห่งพลังงานใหม่นี้ Omoda & Jaecoo เดินหน้าให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี โดยยึดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นหัวใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และได้โชว์เทคโนโลยี “PHEV ไฮบริดเจเนอเรชัน 3” ในงานแถลงข่าวผลิต ภัณฑ์ใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งหมดนี้ ถือเป็นความท้าทายที่จะพัฒนาเพื่อผู้ขับขี่ทุกคน และพร้อมสำหรับการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด