Mazda ผนึกผู้จำหน่ายทั่วประเทศรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เข้าร่วมประชุมประจำปีงบประมาณ FY2024 หรือ Mazda Dealer National Conference ภายใต้ธีม Mazda Mirai 2024 และแนวคิด “Reinvent for a Sustainable Future” ประกาศยึดมั่นนโยบายการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด Customer Experience Management สร้างสรรค์ประสบการณ์ลูกค้า และมอบสิทธิประโยชน์เกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง
ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การประชุมผู้จำหน่ายประจำปี หรือ Mazda Mirai 2024 Mazda ได้นำเสนอนโยบาย และแผนธุรกิจระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทำให้ผู้จำหน่ายเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สร้างความเชื่อมั่น และเกิดความร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน ภายใต้แนวคิด Reinvent for a Sustainable Future ผ่าน 3 คีย์เวิร์ดสำคัญ คือ Reinvention หมายถึงการปรับ และเปลี่ยนวิธีคิดการทำงานเพื่อให้ทันกับสถานการณ์โลกธุรกิจในปัจจุบันที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว Sustainability คือการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ไม่เพียงในแง่ของการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่รวมถึงผู้คนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โลกของเรายังคงสวยงาม เพื่อสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และ Future คือ อนา คตที่พวกเราจะก้าวเดินไปพร้อมกัน ระหว่าง มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ และผู้จำหน่าย ประสานมือสร้างพันธกิจร่วมกัน โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้า Mazda ตลอดไป
"ปีงบประมาณ 2567 Mazda ยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนในระยะยาว สิ่งสำคัญที่จะทำให้ Mazda เกิดความแข็งแกร่งจึงไม่ใช่การขายรถใหม่เพียงอย่างเดียว ทุกภาคส่วนต้องสร้างความรัก ความผูกพัน ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่ดี จนเกิดเป็นความประทับใจ กลับมาซื้อซ้ำ และเป็นเจ้าของรถยนต์ Mazda ได้ทุกรุ่น ทุกช่วงเวลาของชีวิต กลายมาเป็น “Mazda Family” นั่นคือ แก่นแท้ของการดำเนินธุรกิจในรูปแบบของ Retention Business คือ การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าให้ดีที่สุด รวมถึงการแนะนำจุดเด่นของรถ Mazda ให้แก่คนอื่นๆ ต่อไป
Mazda เชื่อว่าแนวทางการทำธุรกิจด้วยวิถีนี้จะนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน พร้อมยกระดับประสบการณ์ลูกค้าอย่างเต็มกำลัง และให้ความสำคัญสูงสุดต่อการสร้างแบรนด์ Brand Value Management โดยเฉพาะการบริการหลังการขายให้ถือเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ตามกลยุทธ์ Retention Business Model ตั้งเป้าเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ลูกค้าเลือก Top Customer Retention และเป็นอัน ดับ 1 ด้านการบริการ Top Service Retention เพื่อส่งมอบรอยยิ้ม และความสุขให้ลูกค้า Joy Drives Lives โดยเฉพาะผลประกอบการของผู้จำหน่ายต้องแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน"
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ก้าวต่อไปของ Mazda คือ การสร้างธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืน โดยเฉพาะนโยบายด้านการขาย และการบริการ รวมถึงการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่แฟน Mazda เนื่องจากเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ Mazda ได้ดำเนินการมาตลอด 2-3 ปีนี้ และกำลังเห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อรักษาลูกค้าให้อยู่กับ Mazda ตลอดระยะเวลาที่ครอบครองรถ Mazda ถึงแม้ว่าวันนี้ลูกค้าจะมีทางเลือกที่หลากหลาย แต่เราก็ยังยืนหยัดที่จะเน้นนโยบาย เพื่อรักษา และดูแลฐานลูกค้าเก่าเป็นอันดับแรก นี่คือ จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญต่อการดำรงอยู่อย่างมั่นคงของ Mazda ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก และกำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยแผนการดำเนินธุรกิจ Retention Business Model ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ แต่เพิ่มเติมเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น คือ เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้าน Customer Retention เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเลือกเป็นอันดับแรก และให้บริการลูกค้าจนเกิดความพึงพอใจ นำเสนอคุณค่าของแบรนด์ผ่านประสบการณ์ และสร้างความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานระยะกลาง Mid-Term Plan หัวใจหลักสำคัญ คือ การสร้างมูลค่าแบรนด์สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้น การให้ความสำคัญกับการขายรถใหม่เพียงด้านเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจเกิดความแข็งแกร่งได้ แต่การเอาใจใส่ดูแลลูกค้าให้ครบทุกองค์ประกอบ คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของผู้จำหน่ายเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนเคียงข้างลูก ค้าตลอดไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นไปตามแนวทางการบริหารคุณค่าหลักของแบรนด์ Mazda หรือ PPV ประกอบด้วย Purpose การสร้างคุณค่า และเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้แก่ผู้คนที่ได้สัมผัสกับแบรนด์ Mazda ในทุกประสบการณ์ และทุกช่วงเวลาของชีวิต ตามด้วย Promise คำมั่นสัญญาจาก Mazda คือ การยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ครบทุกมิติได้อย่างสมดุล ทั้งทางด้านอารมณ์ความรู้สึก และกายภาพ รวมถึงชุมชน และสังคม และคุณค่าหลักที่สำคัญอย่างยิ่งที่บุคลากร Mazda ทุกคนยึดมั่น คือ Values หรือ คุณค่า ทัศนคติ แนวคิด และพฤติกรรม ให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้ จริง มีจิตวิญญาณนักสู้ ส่งมอบประสบการณ์ความประทับใจด้วยความใส่ใจ และเป็นมิตรโดยไม่คาดหวังรางวัลตอบแทน โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท
นี่คือ แนวทางในการสร้างแบรนด์ Mazda ให้แข็งแกร่ง และยั่งยืนตลอดไป เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในด้าน Customer Retention และ Service Retention เพื่อแทนคำมั่นสัญญาว่า Mazda จะเป็นแบรนด์ที่มอบความสุข และสร้างรอยยิ้มให้แก่ลูกค้า Joy Drives Lives แทนคำขอบคุณที่ลูกค้าไว้วางใจ และเลือกใช้รถ Mazda ให้เป็นรถคู่ใจไปตลอดการเดินทาง