ชตุทท์การ์ท-Porsche AG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีออนไลน์ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย Oliver Blume ประธานคณะกรรมการบริหาร ได้แสดงความพึงพอใจต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท และอธิบายกลยุทธ์ปัจจุบันที่ฝ่ายบริหารมุ่งมั่นที่จะดำเนินต่อไป ในปี 2023 Porsche (โพร์เช) ประสบความสำเร็จอย่างเยี่ยมยอดตามเป้าหมายท้าทายที่ตั้งไว้ สถานะทางการเงินของเรามีความแข็ง แกร่ง แม้เราจะเผชิญกับความไม่แน่นอน เรายังคงทำกำไรได้อย่างมากมาย ในขณะเดียวกัน เรายังสามารถสร้างสมดุลที่ดีขึ้นสำหรับยอดขายของเราในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
สำหรับ Porsche ปี 2024 คือ ปีแห่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท โดยภายในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 5 รุ่น ซึ่งในปีนี้จะทำให้เรามีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Porsche
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นงานที่ซับซ้อน และมีความท้าทายสำหรับบริษัท ขณะนี้เรากำลังสั่งสมแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะพาเราไปสู่ความก้าวหน้าในปี 2025 และเป็นการวางรากฐานสำหรับผลกำไรในอนาคต และเงินปันผลในปีต่อๆ ไป
Dr. Wolfgang Porsche ประธานคณะกรรมการกำกับดูแล กล่าวขอบคุณพนักงานทั้ง 42,000 คน ในนามของคณะกรรมการกำกับดูแลทั้งหมด ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างยิ่ง ด้วยความมุ่งมั่น และใส่ใจในหน้าที่ที่ยอดเยี่ยม พวกคุณทุกคนมีส่วนสำคัญในการทำให้ปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง แม้จะเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่เราก็ยังสามารถสร้างมาตรฐานใหม่จากผลิตภัณฑ์ของเราในปี 2023
ตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล คณะกรรมการบริหาร และกำกับดูแล ได้เสนอต่อที่ประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น เพื่อจ่ายเงินปันผลประจำปี 2023 ประมาณ 2.1 พันล้านยูโร คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 41 % ของกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัท อยู่ที่ 2.30 ยูโร ต่อหุ้นสามัญ และ 2.31 ยูโร ต่อหุ้นบุริมสิทธิ์ จากแผนระยะกลาง Porsche วางแผนที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นประมาณ 50 % ของกำไรสุทธิของกลุ่ม
นอกเหนือจากการลงมติเรื่องข้อเสนอการจ่ายเงินปันผล วาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ยังรวมถึงการเลือกตั้งคณะกรรมการผู้แทนผู้ถือหุ้นชุดใหม่ ซึ่งวาระจะสิ้นสุดเมื่อปิดการประชุมสามัญประจำปี โดยคณะกรรมการกำกับดูแล เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ให้เลือกคณะกรรมการผู้แทนผู้ถือหุ้นชุดเดิมทั้ง 10 ท่าน เข้าดำรงตำแหน่งต่อไป
ปีงบประมาณ 2023 อัตราผลตอบแทนต่อหุ้นสามัญอยู่ที่ 5.66 ยูโร และอัตราผลตอบแทนต่อหุ้นบุริมสิทธิ์อยู่ที่ 5.67 ยูโร ยอดขายรวมของกลุ่มในปี 2023 อยู่ที่ 40.5 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 7.7 % (จากปีก่อน 37.6 พันล้านยูโร) กำไรจากการดำเนินงานของกลุ่ม เพิ่มขึ้น 7.6 % อยู่ที่ 7.3 พันล้านยูโร (จากปีก่อน 6.8 พันล้านยูโร) อัตราผลตอบแทนจากการขายของกลุ่ม ยังคงอยู่ที่ 18 % แม้ว่าจะมีการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และการลงทุนที่สูงเป็นพิเศษในด้านดิจิทอล ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรม และการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ ในส่วนของกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานด้านยานยนต์ อยู่ที่ 4.0 พันล้านยูโร ในปีงบประมาณ 2023 (จากปีก่อน 3.9 พันล้านยูโร)
Porsche ส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าทั้งสิ้น 320,221 คันในปี 2023 เพิ่มขึ้น 3.3 % เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยภูมิภาคการขายต่างๆ มีความสมดุลกันมากขึ้นกว่าในปี 2022 Oliver Blume กล่าวว่า “ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท Porsche ได้ปรับโฉมรถยนต์ครอบคลุมทั้ง รุ่น Cayenne (คาเยนน์), Panamera (พานาเมรา), Macan (มาคัน), Taycan (ไทคานน์) และ 911 การปรับโฉมครั้งนี้ ทำให้เราสามารถลดอายุเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของเราลงครึ่งหนึ่ง ในด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ กำลังสร้างมาตรฐานในอุตสาหกรรมยานยนต์ เรามีไพ่ใบสำคัญอยู่ในมือ และตอนนี้เป็นเวลาที่จะเผยไพ่ใบนี้ออกมา” นอกจากนี้ Oliver Blume ยังกล่าวกับผู้ถือหุ้น เกี่ยวกับรถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง Macan ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2024 ว่า “รถยนต์รุ่นนี้เป็นรุ่นขายดีติดอันดับต้นๆ ของเรามาอย่างยาวนาน และจะยังคงเป็นรุ่นที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ประเภทเดียวกันในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า 100 %” พร้อมกล่าวถึงรถยนต์ Porsche 911 รุ่นปรับโฉมที่เปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ว่า “ผมมั่นใจว่า 911 รุ่นนี้ จะสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นอีกครั้ง เพราะนับเป็น 911 รุ่นแรกที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฮบริด ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ท มาพร้อมกับพละกำลังที่มากขึ้น และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น บนสนามแข่ง Nürburgring Nordschleife 911 Carrera GTS (911 คาร์เรรา จีทีเอส) ใหม่ นี้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 8.7 วินาที เห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูงนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ 911 Carrera GTS”
แม้ประธานคณะกรรมการบริหารจะมีความมั่นใจและมีทัศนคติในเชิงบวก แต่เขายังได้อธิบายให้ผู้ถือหุ้นส่วนทราบถึงสิ่งที่เรียกว่า V Effect ของตลาด ที่เกิดควบคู่กับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทุกครั้ง กล่าวว่า สำหรับรถรุ่นก่อนหน้า เราจะมีการลดจำนวนการผลิตลง ในขณะเดียวกัน รถรุ่นใหม่ก็จะทยอยเปิดตัวตามความเหมาะสมของตลาด และตัวแปรต่างๆ กราฟยอดขาย และรายได้รูปตัว V นี้ถือเป็นเรื่องปกติ Porsche จะพยายามควบคุมรถแต่ละรุ่นให้ดีที่สุด เรามีแนวทางของตัวเองมาโดยตลอด และคำนึงถึงลูกค้าของเราเสมอ ยิ่งเวลาเราเผชิญกับแรงลมปะทะ เราก็ยิ่งไปได้ไกลขึ้น แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นก็ตาม นั่นเป็นเพราะเรามองด้วยวิสัยทัศน์ในระยะยาว
Oliver Blume กล่าวเพิ่มเติม Porsche ไม่ได้เพียงแค่เปิดตัวรถรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นลงทุนสำหรับอนาคตอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย ปีที่แล้วเพียงปีเดียว เราได้ลงทุนไปประ มาณ 5 พันล้านยูโรในด้านการวิจัย และพัฒนา รวมถึงการลงทุนภายในระบบนิเวศของ Porsche ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท เรากำลังพัฒนาระบบดิจิทอลภายในบริษัทอย่างเต็มที่ ด้วยเงินทุนถึง 4 พันล้านยูโร ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ และจะมีการใช้เงินกว่า 350 ล้านยูโร เพื่อลงทุนด้านข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ