BMW (บีเอมดับเบิลยู) ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับอนาคตของ BMW XM (เอกซ์เอม) แต่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าจะไม่มีรถตระกูล M Division (เอม ดิวิชัน) ในรูปแบบเอสยูวีอีกต่อไป เนื่องจากกระแสตอบรับ และยอดขายที่แย่ลง และจะยุติการผลิตในปี 2028
BMW M Division กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งหลังจากรถยนต์สไตล์สปอร์ทรุ่นแรกอย่าง BMW M1 เป็นรถเครื่องวางกลางรุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 1978 ได้กระแสตอบรับดีอย่างมาก และนำมาสู่การพัฒนามาหลากหลายรุ่นโด่งดังทั้งสิ้น โดย BMW ซึ่งกำลังพัฒนารถที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง และหรูหราในเวลาเดียวกันให้มากยิ่งขึ้น โจทย์นี้ BMW จึงเลือกแหวกแนวในการออกแบบครั้งใหม่ โดยตั้งเป้าให้รถ M Division คันล่าสุดอย่าง BMW XM เป็นรถยนต์ที่ฉีกกฎรถยนต์สมรรถนะสูงจากเดิม ที่มีทั้งความโดดเด่นจากงานดีไซจ์น และเป็นที่จดจำ ก้าวเข้ามาในตลาดรถยนต์ยุคใหม่ที่มีกระแสมาแรงที่สุดอย่างตลาด Flagship Luxury SUV
ในปี 2022 ผลลัพธ์นั้นเกิดมาเป็น BMW Concept XM ซึ่งเป็นรถยนต์ตระกูล M Division ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ว่ารถ BMW X ในรูปแบบสมรรถนะสูงจะมีลักษณะอย่างไรในอนาคต ผลที่ออกมา คือ คอนเซพท์คาร์เอสยูวี พลัก-อิน ไฮบริดขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่สีดำขนาดใหญ่ ไม่ใช่แนวตั้งแบบ M รุ่นอื่นๆ โลโกบริเวณกระจกหลัง เส้นสายด้านข้างเป็นรูปลักษณ์ทรงเหลี่ยมแปลกตา ให้ความดุดัน แต่ยังมาพร้อมความหรูหรา
BMW XM ถือเป็นรถรุ่นพิเศษที่สร้างความแปลก และประหลาดใจให้แก่แฟนๆ ของ BMW ทั่วโลก เปิดตัวครั้งแรกในฐานะรถที่มาสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาด Flagship SUV สมรรถนะสูง และเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จึงทำให้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายในแง่ลบ และบวกผสมกัน ทั้งจากการออกแบบดีไซจ์นล้ำเกินไป ภายในไม่ตรงจริตลูกค้า ค่าตัวที่สูงเกินไปกว่าคู่แข่งในตลาด การขับขี่ที่อารมณ์ไม่เหมือนรถ M Division ดั้งเดิม รวมไปถึงยอดขายรวมทั่วโลกต่ำสุด
ในช่วงที่ผ่านมาของปี 2023 ทำได้เพียงหลักหมื่นคัน และตัวเลขของครึ่งปีแรก 2024 ทำได้แค่ 3,807 คัน ตามรายงานยอดขาย BMW Global Sales ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า BMW รุ่นเรือธงทรงเหลี่ยมคันนี้จะเข้าสู่สภาวะขายไม่ออก แม้จะมีรุ่นพิเศษ Label Red มากระตุ้นตลาดจำกัดเพียง 500 คันทั่วโลกก็ตาม มีรายงานว่า BMW ได้ยกเลิกแผนการผลิต XM รุ่นไฟฟ้าล้วน และจะสิ้นสุดการผลิต XM ในปี 2028 โดยระบุว่า XM รุ่นไฟฟ้าล้วนนี้มีชื่อรหัสว่า G79 และคาดว่าผลิตที่โรงงานของ BMW ในเมืองสปาร์ทันเบิร์ก รัฐเซาธ์แคโรไลนา แต่ก็ต้องพับแผนเช่นเดียวกัน
อนาคตของ BMW มีเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์ BMW ในรูปแบบไฟฟ้าให้ได้ครึ่งหนึ่งของยอดขายของแบรนด์ ภายในปี 2030 โดยผู้ผลิตจากเยอรมนีรายนี้ ยังคงวางแผนที่จะผลักดันการผลิตแบบไฮบริด และการใช้ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยยังมีแผนที่จะยุติการผลิตรถยนต์ BMW 8 series (ซีรีส์ 8) รถสปอร์ทคันใหญ่ที่ฟื้นคืนชีพในปี 2018 แต่กระแส และยอดขายกลับทำได้ไม่ดีตามคาด ก็จะยุติการผลิตลงภายในปี 2026 รวมไปถึง BMW 4 Series (ซีรีส์ 4) ก็จะยุติการผลิตตามมาในไม่ช้านี้ในปี 2028
แม้ว่าการยุติการผลิต BMW XM ออกไปจากตลาดจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในรถ M Division ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจะไม่กลับมาทำรถเอสยูวีอีกแล้ว แต่ปัจจุบันรถคูเป และซีดานรุ่นใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพการใช้งาน มุ่งเน้นไปที่การขยายขอบเขตการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า หรือตระกูล BMW I (ไอ) หรือ IX (ไอเอกซ์) เป็นหลัก ซึ่งถือว่า BMW พัฒนาได้ตรงตามความต้องการลูกค้ามากขึ้นในส่วนนี้
ส่วนกระแส BMW M รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ที่อาจเป็นรถยนต์พลังไฮบริดหรือไม่ก็ได้ BMW จะต้องหาวิธีพัฒนารถให้สะท้อนหลากหลายรุ่นที่เรารู้จัก และชื่นชอบ และอาจจะนำมาพัฒนาในรูปแบบใหม่ๆ แต่ให้กลิ่นอายในอดีตก็เป็นไปได้