ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Aston Martin AM-RB 003 เปิดตัวตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา โดยเป็นรถแนวคิดซูเพอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลางลำ พร้อมประกาศว่าจะผลิตจำหน่ายในปี 2564 แต่จนครึ่งหลังของปี 2567 แล้วก็ยังไม่มีการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ยังพบรถต้นแบบวิ่งทดสอบในสนามแข่ง Nurburgring
แม้ยังไม่ได้ผลิตแต่จะคุ้นเคยกับปีกดักลมขนาดใหญ่ในด้านหลัง ชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถถูกขึ้นรูปอย่างประณีตมากกว่ารถแนวคิด ชุดแอโรพาร์ทรอบคันสามารถสร้างแรงกดได้เกินกว่า 600 กก. ที่ความเร็ว 240 กม./ชม. ตัวรถภายนอกถูกปิดบัง และอำพรางเพื่อปกปิดการออกแบบขั้นสุดท้าย กระจกข้างเป็นบานเลื่อนแบบรถแข่งทางเรียบ แม้ Valhalla ที่เปิดตัวในปี 2564 ใช้กระจกข้างแบบธรรมดาแล้ว
เสียงจากปลายท่อไอเสียลดลง จึงมั่นใจว่าไม่ใช่เครื่องยนต์ของ Aston Martin แม้แผนการพัฒนารถในระยะแรกจะเลือกใช้เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ทวินเทอร์โบ ความจุ 3.0 ลิตร แต่อาจเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ทวินเทอร์โบ ความจุ 4.0 ลิตร ของ Mercedes-AMG ซึ่งใช้เพลาข้อเหวี่ยงแบบ Flat-Plane ที่มีสุ้มเสียงเร้าใจ และเป็นเอกลักษณ์
เครื่องยนต์ให้กำลัง 588 กิโลวัตต์/800 แรงม้า ทำงานผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังสุทธิ 734 กิโลวัตต์/998 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ไม่มีระบบเกียร์ถอยหลัง แต่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในล้อหน้าทั้งสองฝั่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนถอยหลัง ซึ่งช่วยลดน้ำหนักของระบบเกียร์ถอยหลังได้ มอเตอร์ชุดที่ 3 ถูกติดตั้งกับชุดเกียร์ เพื่อเสริมพลังขับเคลื่อนไปยังล้อหลัง ทั้งทำหน้าที่สตาร์ทติดเครื่องยนต์ และเป็นเจเนอเรเตอร์ด้วย
คาดว่าใช้เครื่องยนต์ชุดนี้แน่นอน ซึ่งทำให้ Valhalla มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 350 กม./ชม. เมื่อขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนจะทำความเร็วได้ 129 กม./ชม. หากเดินทางด้วยโหมด EV จะวิ่งได้ 15 กม. ตัวรถมีน้ำหนัก 1.55 ตัน (ไม่รวมของเหลว)
Aston Martin Valhalla จะเริ่มการผลิตในปีนี้จำนวน 999 คัน และเป็นคู่แข่งในระดับเดียวกับ McLaren Artura, Lamborghini Temerario ที่เพิ่งเปิดตัว และ Ferrari รุ่นใหม่ที่จะมาแทน SF90 Stradale แม้ยังไม่ประกาศราคา แต่คาดว่าต่ำกว่ารถระดับเรือธงอย่าง Valkyrie แน่นอน