ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Lotus มีโครงการใหญ่สำหรับรถไฟฟ้าในอนาคต โดยเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถแนวคิดใหม่ชื่อว่า Theory 1 ในรูปแบบของรถสปอร์ท 2 ประตู มีกำลังสุทธิ 725 กิโลวัตต์/987 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ และมีน้ำหนักไม่เกิน 3,500 ปอนด์ หรือ 1.58 ตัน
Theory 1 แสดงแนวทางการออกแบบของ Lotus ในอนาคต ด้วยแรงบันดาลใจจาก Esprit รถสปอร์ททรงลิ่มไล่ มีจมูกหน้ารถคมคาย ชุดไฟหน้าทรงบูเมอร์แรง ตัวรถออกแบบสไตล์ห้องโดยสารล้ำไปข้างหน้า (cab-forward) สไตล์เดียวกับ Esprit รถสปอร์ทเครื่องวางกลางลำ ด้านท้ายออกแบบอย่างหลุดโลก, ชุดไฟท้ายเรียวบาง, ปีกดักลมหลังปรับยืดตัวได้สูงมาก, ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ ความสุดยอด คือ การทำงานของประตู ที่เปิดออกโดยการยกชายหลังประตูขึ้นด้านบน ส่วนหน้าประตูทิ่มลง และดันเลื่อนไปข้างหลังทั้งบาน ช่วยให้การเข้าสู่ห้องโดยสารสะดวกขึ้น
โครงสร้างตัวรถของ Theory 1 เหมือนอ่างคาร์บอน แบบ 3 ที่นั่ง มีเบาะที่นั่งคนขับอยู่ตรงกลาง, และเบาะนั่งผู้โดยสารทั้งสองฝั่งเยื้องหลังเล็กน้อยคล้ายกับ McLaren F1, ภายในห้องโดยสารมีระบบแสดงข้อมูลทั้งเฮดอัพดิสเพลย์ และจอแสดงผลใกล้เสาเอที่ตำแหน่งของกระจกส่องหลัง ที่แปลกสุด คือ ใต้ผ้าหุ้มเบาะนั่งมีถุงลมเล็กๆ รวมถึงที่ประตู และพวงมาลัย ทำหน้าที่นวด และการส่งสัญญาณเตือนคนขับด้วยการพองตัว ที่พักศีรษะของทั้ง 3 ที่นั่งติดตั้งลำโพงให้เฉพาะ พร้อมตาข่ายขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ
ภายในของ Theory 1 น่าสนใจด้วยปุ่มควบคุมออนดีมานด์ ด้วยวัสดุหุ้มที่ตอบสนองได้ กระจายอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ของห้องโดยสาร โดยจะดันวัสดุหุ้มขึ้นมาเมื่อจะใช้งาน และจะหายไปเมื่อไม่ต้องการใช้ ตัวอย่างการใช้งานของเทคโนโลยีนี้ เช่น ขณะขับรถแล้วมีรถอีกคันวิ่งใกล้เข้ามา ผ้าหุ้มเบาะจะดันตัวออกมาแตะที่ไหล่ของคนขับเบาๆ หากมีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา ปุ่มควบคุมโทรศัพท์จะนูนขึ้นมาเพื่อรับโทรศัพท์
หัวใจของ Theory 1 คือ แพคแบทเตอรีขนาด 70.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่น่าจะมีระยะทางวิ่ง 250 ไมล์ หรือ 402 กม. และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 ไมล์/ชม. หรือ 321 กม./ชม. แม้พละกำลังจะเทียบไม่ได้กับ Lotus Evija ที่มีกำลังสุทธิ 1,470 กิโลวัตต์/2,000 แรงม้า แต่ก็มีน้ำหนักน้อยกว่าถึง 660 ปอนด์ หรือ 300 กก. อย่างน้อยกลับไปนึกถึงแนวคิดของรถสปอร์ทน้ำหนักเบาในยุคของรถไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเกินพิกัด
ในยุคนี้ที่ค่ายรถต่างๆ พยายามแข่งขันให้มากกว่า และเหนือกว่า จนเข้ามาถึงจุดอิ่มตัวของสไตล์ และการใช้เทคโนโลยีก้าวหน้า Lotus กลับมีแนวคิดกลับกัน ที่ไม่ต้องการแข่งขันกันด้วยตัวเลขต่อไป