Yamaha (ยามาฮา) เผยแนวคิด และทิศทางการออกแบบนวัตกรรมยา Yamaha ในอนาคต หวังยกระดับการออกแบบให้สอดคล้อง และตอบสนองการใช้งานของผู้ขับขี่ในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น เตรียมสานต่อการออกแบบรถแข่งสำหรับเวทีมอเตอร์สปอร์ทในอนาคต
คิโนชิตะ ทาคูยะ Executive Officer & Chief General Manager of Creative Center บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า การออกแบบ “Yamaha Y/AI (ยามาฮา วาย/เอไอ)” สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Yamaha ในอีก 100 ปีข้างหน้า พร้อมเผยถึงทิศทางการออกแบบรถจักรยานยนต์ในระยะเวลา 3-5 ปี หลังจากนี้จะแบ่งการออกแบบเป็น 2 ส่วนหลักๆ โดย
ส่วนที่ 1 คือ การผสานระหว่างคนกับรถจักรยานยนต์ ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามาก เราอยากดีไซจ์นให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัย โดยนำเทคโนโลยี Interface มาใช้ และการนำข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน เข้าไปร่วมกับงานดีไซจ์น รวมถึงหมวกนิรภัยที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ในส่วนที่ 2 คือ การออกแบบภายนอก ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ Vintage, Futuristic และ Cus tomized โดยเฉพาะการ Customized เราตั้งคำถามว่าเราจะสามารถตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างไรบ้าง ส่งผลให้ต้องดีไซจ์นไปพร้อมๆ กับผู้ใช้งาน หรืออาจจะต้องสร้าง Community เพื่อเก็บข้อมูลมาใช้ในการออกแบบ
“Yamaha Y/AI” เป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมด ไม่ได้มีการนำรุ่นไหนมาเป็นต้นแบบ ทว่ายังคงไว้ซึ่งปรัชญาของ Yamaha อยู่ในการออกแบบรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน สำหรับ “Yamaha Y/AI” นับเป็นอีกความสำเร็จในการผสานความร่วมมือกับ Netflix ซึ่งทีมออกแบบ ได้คาดหวังไว้ 2 เรื่อง โดยอันดับแรกหวังว่าคนที่ไม่เคยใช้รถจักรยานยนต์ได้ดูแล้วรู้สึกอยากลองสัมผัส ลองใช้งานดู พร้อมเก็บรายละเอียดลูกค้าที่เข้ามาดู Netflix เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาในอนาคต และส่วนที่ 2 คือ อยากให้ “Yamaha Y/AI” เป็นที่จดจำ สร้างตัวตนของตนเองที่ชัดเจน
จากผลตอบรับที่ยอดเยี่ยมในการร่วมกับ Netflix ส่งผลให้ Yamaha พร้อมสานต่อแนวทางดังกล่าว และมองถึงการร่วมงานที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยในอนาคตจะมีการร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ 3 เซกเมนท์ ที่มีความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน ได้แก่ 1. เชิงธุรกิจ อยากพัฒนาต่อยอดในเรื่องของรถอีวี ทั้งยังมองถึงความจำเป็นและความสำคัญของ Infrastructure ที่ต้องดีไซจ์นควบคู่ไปด้วย 2. เชิงสัง คม เน้นในเรื่องสิ่งเแวดล้อมต่างๆ รวมถึงการแก้ปัญหาร่วมกัน เนื่องจากสินค้าของเราตอบสนองการใช้งานของลูกค้าทั่วโลก ดังนั้น พื้นที่ต่างๆ จึงถือเป็นสนามทดสอบสำหรับรถของเรา ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบ Mountain Bike ในญี่ปุ่นที่ช่วยกระตุ้นให้คนอยากท่องเที่ยวในแนวทางดังกล่าวมากยิ่งขึ้น และ 3. เชิงสร้างสรรค์ ในอนาคตเราอยากร่วมงานกับศิลปินระดับโลกอีกด้วย
นอกจากนี้ ทีมออกแบบ ยังได้เผยถึงแนวคิดการขับขี่โดยไร้คน ที่เป็นสารตั้งต้น และนำมาซึ่งการออกแบบ Motoroid ในก่อนหน้านี้ และเตรียมที่จะนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบในอนาคต โดยหวังให้รถสามารถเก็บข้อมูล และนำไปประมวลผลได้ด้วยตนเองได้ ซึ่งน่าจะได้เห็นหลังจากนี้ รวมถึงจะมีการยกระดับต่อยอดจาก Motoroid2 ด้วยเช่นกัน
หลังจากนี้ “Yamaha Y/AI” จะไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงนวัตกรรมต่างๆ โดยคาดว่าอาจจะเป็นในยุโรป และอเมริกา รวมถึงญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นงานแสดงยานยนต์เพียงเท่านั้น ก่อนจะทิ้งท้ายว่าหลังจากนี้ จะได้เห็นการพัฒนาต่อยอด “Yamaha Y/AI” ในทิศทางของมอเตอร์สปอร์ท ซึ่งในอนาคตอาจจะพัฒนาเป็นรถแข่งอีวี แทนที่เชื้อเพลิงเช่นในปัจจุบัน และอาจจะต่อยอดไปจนถึงเวที Formula E ต่อไป
ทีมออกแบบ Yamaha เผยถึงแรงบันดาลใจ และแนวคิดในการออกแบบ “Yamaha Y/AI” เรศไบค์ แห่งอนาคต หลัง ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ฯ อิมพอร์ท “Yamaha Y/AI” มาโชว์ตัวให้แฟน Yamaha ได้สัมผัสนวัตกรรมแห่งอนาคต ภายในงาน Motor Expo 2024
ซาโตชิ นากามูระ (ที่ 3 จากซ้าย) กลุ่มการออกแบบเชิงนวัตกรรม ฝ่ายการออกแบบ การวางแผน บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เผยถึงแนวคิดในการออกแบบว่า “Yamaha Y/AI” ว่า สำหรับ Yamaha Y/AI เป็นรถแข่งแห่งอนาคตในอีก 100 ปี ข้างหน้า ขับเคลื่อนด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่ง Yamaha ให้ความสำคัญกับฟีลิงการขับขี่ที่ยังคงเป็นการควบคุมโดยมนุษย์ ซึ่งส่วนที่เป็น Soft Part (สีแดง) เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ได้รับการออกแบบเน้นความอ่อนโยน ขณะที่ส่วนที่เป็น Hard Part ด้านล่าง สื่อถึงเครื่องจักรเครื่องยนต์
สำหรับความยูนีคของ R1 (อาร์ 1) และ Vmax (วีแมกซ์) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของ “Yamaha Y/AI” ในซีรีส์ Tokyo Override นั้น ซาโตชิ นากามูระ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ R1 เป็นรถรุ่นทอพในตระกูลเรศไบค์ ใช้คอนเซพท์เดียวกันกับ “Y/AI” ผสานการทำงานระหว่างมนุษย์ และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อน ส่วน Vmax เป็นรถสตรีทสไตล์รุ่นใหญ่ มีแนวคิดการออกแบบเช่นเดียวกับ Y/AI จะแตกต่างกันในเรื่องยุคสมัย
นอกจากนี้ ทีมออกแบบยังได้ถึงความเกี่ยวโยงกับรถรุ่นต่างๆ ของ Yamaha นับตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน รวมถึงรถต้นแบบอย่าง Motoroid ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบสำหรับรถในอนาคตอีก 100 ปีข้างหน้าอย่าง “Yamaha Y/AI” โดยเชื่อว่ารถต้นแบบสไตล์เรศไบค์นี้จะสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนารถแข่ง และหวังว่าในอีก 100 ปีข้างหน้า จะยังคงมีการขับเคี่ยวบนสังเวียนความเร็ว และเป็นหนึ่งในเอนเตอร์เทนเมนท์ในอนาคต
นอกจากนี้ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และอเลกซ์ ริน ดูโอนักบิดสังกัด Yamaha ที่มีส่วนร่วมในการออกแบบ “Y/AI” ยังกล่าวชื่นชมหลังได้ทดลองขี่ พร้อมทิ้งคำถามถึงทีมออกแบบว่า “Y/AI” เร็ว แรง แค่ไหน ผมตอบว่ามีความเร็วมากในอนาคตอีก 100 ปี”