ธุรกิจ
สอท. เผยเดือนธันวาคม 2567 ผลิตรถยนต์ 104,878 คัน ลดลงร้อยละ 17.37
สภาอุตสาหกรรม เผยเดือนธันวาคม 2567 ผลิตรถยนต์ 104,878 คัน ลดลงร้อยละ 17.37 ขาย 54,016 คัน ลดลงร้อยละ 20.94 ส่งออก 76,346 คัน ลดลงร้อยละ 15.46 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1,198 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19,866.67 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 5,289 คัน ลดลงร้อยละ 39.58
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประ เทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนธันวาคม 2567 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนธันวาคม 2567 มีทั้งสิ้น 104,878 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 17.37 ลดลงจากการผลิตขายในประเทศลดลงร้อยละ 28.50 ตามยอดขายในประเทศที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 9.47 ตามยอดส่งออกที่ลดลง
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,468,997 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 19.95
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2567 ผลิตได้ 38,749 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 17.75 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 19,127 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 40.41
รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 1,198 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 19,866.67
รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 2,528 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 1,070.37
รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 15,896 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 7.47
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 มีจำนวน 558,440 คัน เท่ากับร้อยละ 38.02 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 13.53 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 349,934 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 28.66
รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 9,688 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 5,807.32
รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 7,981 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 11.22
รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 190,837 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 30.58
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนธันวาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 91.53
รถยนต์บรรทุก เดือนธันวาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 66,129 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 17.14 และตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 910,547 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 23.42
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 65,168 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 15.12 และตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 893,700 คัน เท่ากับร้อยละ 60.84 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 22.39 โดยแบ่งเป็น
รถกระบะบรรทุก 141,819 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 30.46
รถกระบะ Double Cab 592,547 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 21.48
รถกระบะ PPV 159,334 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 17.43
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนธันวาคม 2567 ผลิตได้ 961 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 68.29 รวมเดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ 16,847 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 55.04
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนธันวาคม 2567 ผลิตได้ 67,203 คัน เท่ากับร้อยละ 64.08 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 9.47 ส่วนเดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 1,009,141 คัน เท่ากับร้อยละ 68.70 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 12.07
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 14,611 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 39.40 และตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 295,353 คัน เท่ากับร้อยละ 52.89 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 10.54
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 52,592 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 4.93 และตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 713,788 คัน เท่ากับร้อยละ 79.87 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ12.69 โดยแบ่งเป็น
รถกระบะบรรทุก 61,551 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 19.89
รถกระบะ Double Cab 525,189 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 14.37
รถกระบะ PPV 127,048 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 0.23
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนธันวาคม 2567 ผลิตได้ 37,675 คัน เท่ากับร้อยละ 35.92 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 28.50 และเดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ 459,856 คัน เท่า กับร้อยละ 31.30 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 33.09
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 24,138 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 4.94 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ผลิตได้ 263,087 คัน เท่ากับร้อยละ 47.11 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ลดลงร้อยละ 16.66
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 12,576 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 52.82 และตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 179,912 คัน เท่ากับร้อยละ 20.20 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 46.14 ซึ่งแบ่งเป็น
รถกระบะบรรทุก 80,268 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 36.85
รถกระบะ Double Cab 67,358 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 52.33
รถกระบะ PPV 32,286 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 50.80
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนธันวาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 91.53
รถบรรทุก เดือนธันวาคม 2567 ผลิตได้ 961 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 68.29 และตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 16,847 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 55.04
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2567 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 202,614 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 0.74 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 153,702 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6.58 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 48,912 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 33.64
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,426,367 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 1.88 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,887,208 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 11.01 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 539,159 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 53.11
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนธันวาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 54,016 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 27.67 แต่ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 20.94 ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินจากหนี้ครัวเรือนสูง หนี้เสียรถยนต์ยังเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่ำ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงโดย ทำให้แรงงานมีอำนาจซื้อลดลง
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 32,305 คัน เท่ากับร้อยละ 59.81 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 18.22
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 14,374 คัน เท่ากับร้อยละ 26.61 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 18.12
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 5,289 คัน เท่ากับร้อยละ 9.79 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 39.58
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 287 คัน เท่ากับร้อยละ 0.53 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 168.22
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,355 คัน เท่ากับร้อยละ 22.87 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.58
รถกระบะ มีจำนวน 14,410 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 26.27 รถ PPV มีจำนวน 4,494 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 0.31 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 1,283 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 61.26 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,524 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 2.21
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 124,793 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 8.66 และลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 5.73
ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 572,675 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 26.18 แยกเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 341,956 คันเท่ากับร้อยละ 59.71 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 15.98
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 155,044 คัน เท่ากับร้อยละ 27.07 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 35.01
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 66,732 คัน เท่ากับร้อยละ 11.85 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 9.29
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 2,391 คัน เท่ากับร้อยละ 0.42 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 26.17
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 117,789 คัน เท่ากับร้อยละ 20.57 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 26.71
รถกระบะ มีจำนวน 163,347 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 38.30 รถ PPV มีจำนวน 36,843 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 38.89 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 16,046 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.03 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 14,483 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 9.93
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,683,239 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 9.35 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 1,683,039 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.30 รถจักรยานยนต์ BEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 52.38
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนธันวาคม 2567 ส่งออกได้ 76,346 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 14.84 แต่ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 15.46 ลดลงจากฐานสูงในปี 2566 และการระมัดระวังในการใช้จ่ายจากความไม่แน่นอนในความขัดแย้งระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการแข่งขันจากการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน และรถยนต์ใช้น้ำมันจากหลายประเทศรวมทั้งพื้นที่ในเรือไม่เพียงพอและจำนวนเที่ยวเรือลดลง รวมไปถึงมาตรการเข้มงวดการปล่อยคาร์บอนของรถยนต์ของประเทศคู่ค้าที่ทำให้รถยนต์บางรุ่นนำเข้าไม่ได้
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนธันวาคม 2567 แบ่งเป็น ดังนี้
รถกระบะ 49,931 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 65.40 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6.75
รถยนต์นั่ง ICE 12,566 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 16.46 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 41.61
รถยนต์นั่ง HEV 4,511 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.91 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 54.75
รถ PPV 9,338 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 12.23 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 24.20
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 52,414.34 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 16.14
เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,956.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 5.38
ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,009.67 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 10.97
อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,249.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 3.62
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนธันวาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 72,629.90 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 13.88
เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 1,019,213 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.80 แบ่งเป็น
รถกระบะ ICE 583,770 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 57.28 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 11.49
รถยนต์นั่ง ICE 250,184 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 24.55 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 20.91
รถยนต์นั่ง HEV 49,438 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4.85 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 233.03
รถ PPV 135,821 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.33 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 7.11
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 699,162.47 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 2.89 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 35,432.15 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 8.33
ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 191,290.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 0.95
อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 26,664.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 8.15
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 952,550.17 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 2.08
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2567 มีจำนวนส่งออก 81,175 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 0.06 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 6.01 โดยมีมูลค่า 5,361.58 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 6.98
ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 124.06 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 23.95
อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 181.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 27.40
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนธันวาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,667.26 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 6.63
เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 938,762 คัน (รวม CBU+CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 14.12 มีมูลค่า 63,968.75 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6.74
ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,522.96 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 13.75
อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,973.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 4.04
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 68,464.95 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 6.74
เดือนธันวาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 78,297.16 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ13.39
เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 1,021,015.12 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 2.41
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี 2568 โดยแยกเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประ เทศ ดังนี้
รถยนต์
ประมาณการการผลิตรถยนต์ในปี 2567 ประมาณ 1,500,000 คัน มากกว่าปี 2567 ซึ่งมีจำนวน 1,468,997 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.11 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,000,000 คัน เท่า กับร้อยละ 66.66 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 500,000 คัน เท่ากับร้อยละ 33.34 ของยอดการผลิตทั้งหมด
ผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 1,000,000 คัน ปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,009,141 คัน ลดลงร้อยละ 0.91
ปัจจัยบวก ดังต่อไปนี้
ระยะสั้นจากการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกาไม่สูงมากนักอาจจะไม่กระทบมูลค่าการค้าโลกมากดังที่กังวลกันซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
อัตราดอกเบี้ยอาจลดลง และราคาน้ำมันอาจลดลงทำให้อำนาจซื้อของประเทศคู่ค้าสูงขึ้นส่งผลให้การส่งออกดีขึ้น ต้องติดตามว่าลดลงมากน้อยแค่ไหน
ติดตามสงครามในภูมิภาคต่างๆ ว่ายุติได้หรือไม่ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจใช้เงินของประชาชนในประเทศต่าง ๆ
ปัจจัยลบ ดังต่อไปนี้
ความชัดเจนในมาตรการด้านการค้า และอื่นๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจะขึ้นภาษีากรนำเข้าอีกมากน้อยแค่ไหน
คู่แข่งในประเทศคู่ค้ามีมากขึ้น
ประเทศคู่ค้ามีการผลิตรถกระบะซึ่งอาจลดคำสั่งซื้อและอาจส่งออกแทนประเทศไทยจากการผลิตรถกระบะลดลง
ความขัดแย้งและการสู้รบในภูมิภาคต่างๆ อาจขยายเพิ่มขึ้นทั้งภูมิภาคเดิมและภูมิภาคใหม่
มาตรการเข้มงวดการปล่อยคาร์บอนของรถยนต์ของประเทศคู่ค้าที่ทำให้รถยนต์บางรุ่นนำเข้าไม่ได้
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 500,000 คัน ปีที่แล้วที่ผลิตได้ 459,856 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.73
ปัจจัยบวก ดังต่อไปนี้
การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าโครงการ EV 3.0 ในอัตรา 1.5 เท่า
เศรษฐกิจในประเทศขยายตัว 2.4-2.9 %
คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากปี 2567
ส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรรวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรมบางกลุ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น
การแจกเงินของรัฐบาลให้กลุ่มต่างๆ
การกระตุ้นเศรษฐกิจ E-Receipt
การลงทุนของภาครัฐ
ปี 2567 มีผู้ขอรับส่งเสริมการลงทุนในประเทศสูงถึง 1.12 ล้านล้านบาทสูงที่สุดในรอบ 10 ปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากปี 2566 โดยยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ 102,366 ล้านบาท
จะมีการลดดอกเบี้ยในประเทศซึ่งจะทำให้ต้นทุนและภาระการชำระหนี้ลดลงช่วยเพิ่มอำนาจซื้อในประเทศ
ราคาน้ำมันอาจลดลงจากการเรียกร้องของประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งจะทำให้ภาระค่าใช้จ่าย และต้นทุนการดำเนินงานลดลง อำนาจซื้อของประชาชนมากขึ้น
ปัจจัยลบ ดังต่อไปนี้
ความเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน เพราะมาตรการการปล่อยสินเชื่อแบบรับผิดชอบจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
ติดตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะยังคงลดลงหรือไม่เพราะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 30 ของเศรษฐกิจในประเทศและมีแรงงานถึงร้อยละ 16 ของแรงงานทั้งหมดในประเทศไทยซึ่งเกี่ยวข้องกับอำนาจซื้อในประเทศ
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนอาจจะไม่รุนแรงซึ่งจะทำให้การย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนมายังประเทศไทยชะลอตัวลงได้เพราะประเทศไทยได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐอเมริ กาซึ่งจะส่งผลกระทบการจ้างงานในประเทศไทย
หนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูงอาจจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ค่าครองชีพยังทรงตัวในระดับสูงซึ่งจะส่งผลต่ออำนาจซื้อของประชาชน
รถจักรยานยนต์
ประมาณการการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี 2568 ประมาณ 2,100,000 คัน มากกว่าปี 2567 ซึ่งมีจำนวน 1,487,605 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.10 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 400,000 คัน เท่ากับร้อยละ 19.04 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,700,000 คัน เท่ากับร้อยละ 80.96 ของยอด
การผลิตทั้งหมด
ผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 400,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 0.10
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 1,700,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ร้อยละ 14.28
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนธันวาคม 2567
เดือนธันวาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,146 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 36.12 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,352 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 42.03
รถยนต์นั่ง จำนวน 5,147 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 195 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 2 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 8 คัน
รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 35 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 12.50
รถยนต์สามล้อรับจ้าง มีทั้งสิ้น 2 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 95.35
รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 2 คัน
รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 1,648 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 10.77
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1,648 คัน
รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 79 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 1,028.57
รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 30 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 66.67
เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 96,804 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 3.21 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 69,979 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 8.07
รถยนต์นั่ง จำนวน 68,023 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 1,860 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 12 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 81 คัน
รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 3 คัน
รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 604 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 178.34
รถยนต์สามล้อ มีทั้งสิ้น 147 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 65.97
รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล จำนวน 40 คัน
รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 107 คัน
รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 25,119 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ร้อยละ 14.56
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 25,009 คัน
รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 110 คัน
รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 375 คัน ซึ่งลดลงเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 69.21
รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 580 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 523.66
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนธันวาคม 2567
เดือนธันวาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5,986 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 8.66 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,937 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 8.56
รถยนต์นั่ งจำนวน 5,926 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 4 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 7 คัน
รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 49 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 22.50
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 49 คัน
เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 127,214 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 49.54 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 126,646 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 49.92
รถยนต์นั่ง จำนวน 126,525 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 34 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 18 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 66 คัน
รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 3 คัน
รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 568 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 4.22
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 568 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนธันวาคม 2567
เดือนธันวาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 521 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 2.62 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 521 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 2.62
รถยนต์นั่ง จำนวน 521 คัน
เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 9,372 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 19.92 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 9,372 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ร้อยละ 19.92
รถยนต์นั่ง จำนวน 9,365 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 7 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 227,470 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 72.52 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 159,266 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 77.48
รถยนต์นั่ง มีจำนวน 156,162 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 75.69
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 2,480 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 332.40
รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 78 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 105.26
รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 156 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 300
รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน
รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 387 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 94.47
รถกระบะและรถแวน มีจำนวน 869 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 211.47
รถยนต์สามล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,017 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 12.87
รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 113 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 41.25
รถยนต์รับจ้างสามล้อ มีจำนวน 904 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 10.11
รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 62,631 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 63.91
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 62,508 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 64.17
รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 123 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 8.89
อื่นๆ
รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2,791 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 15.38
รถบรรทุก มีจำนวนทั้งสิ้น 896 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 195.71
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 469,543 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.65 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 460,178 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 37.57
รถยนต์นั่ง มีจำนวน 459,163 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 37.61
รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 498 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 4.18
รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 72 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 41.18
รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 216 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 39.35
รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 150
รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์มีจำนวน 224 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 62.32
รถกระบะและรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,362 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 2.86
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 9,362 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 2.86
อื่นๆ
รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 63,184 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.05 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 63,184 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.05
รถยนต์นั่ง มีจำนวน 63,113 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 17.07
รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 43 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 4.88
รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 18 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 14.29
รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 66.67
รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 25