Porsche ประเทศไทย ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของยนตรกรรมสปอร์ท Porsche (โพร์เช) ในประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง ไมเคิล เวตเตอร์ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการคนใหม่ ผู้คร่ำหวอดในวง การ ด้วยประสบการณ์ระดับผู้บริหารที่ Porsche AG และ Porsche Asia Pacific มีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2568
ไมเคิล เวตเตอร์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ (MD) คนใหม่ของ Porsche ประเทศไทย โดยมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 โดย Porsche ประเทศไทย ดำเนินงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ อิมพอร์ต (AAS Auto Import Co., Ltd.) เป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวของยนตรกรรมสปอร์ท ตั้งแต่ปี 2536
ไมเคิล เริ่มงานร่วมกับ Porsche ที่ Porsche AG และPorsche Asia Pacific ก่อนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยบทบาทสำคัญในการเสริมสร้าง และขยายแบรนด์ Porsche ในตลาดเกาหลีใต้ กัมพูชา และอินโดนีเซีย ด้วยประสบการณ์อันกว้างขวาง และวิสัยทัศน์เชิงรุก โดยก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการกลุ่มแห่ง Eurokars Group Indonesia รับผิดชอบการบริหาร และพัฒนาแบรนด์ยนตรกรรมหรูระดับโลก อาทิ Porsche, Bentley (เบนท์ลีย์) และ Rolls-Royce (โรลล์ส-รอยศ์) เขาพร้อมนำพา Porsche ประเทศไทย ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ และมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย
ตลอดเส้นทางอาชีพ ไมเคิล เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่ Porsche AG, Porsche Asia Pacific และPorsche Korea โดยมีบทบาทสำคัญในการทำให้ Porsche เป็นแบรนด์หรูชั้นนำ สามารถเพิ่มยอดขาย และยกระดับการรับรู้แบรนด์ในตลาดที่เขาดูแล
ภายใต้การบริหารของ ไมเคิล เขามุ่งมั่นยกระดับการรับรู้แบรนด์ Porsche ในประเทศไทย ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าผ่านประสบการณ์สุดพิเศษ ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับยนตรกรรมไฟฟ้า พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าให้สอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลกของ Porsche
นอกจากนี้ Porsche ประเทศไทย ยังมีแผนร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในประเทศเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยนตรกรรมสปอร์ทพลังงานไฟฟ้า อาทิ การขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟความเร็วสูง เพื่อรองรับการเติบโตของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าในอนาคต พร้อมกันนี้ เขายังให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในการดำเนินงาน และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทอล เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และเสริมสร้างความเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ของไทย ซึ่งกำลังพัฒนา และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ไมเคิล กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับการเติบโตของ Porsche ทั้งในด้านการขยายแบรนด์ และการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความผูก พันกับลูกค้า ยกระดับกระบวนการดำเนินงาน และสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในประเทศ เพื่อขับเคลื่อน Porsche ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมหรู และสมรรถนะเหนือระดับ ผมรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสในการทำงานที่ Porsche ประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่เรามุ่งมั่นผสานนวัตกรรมล้ำสมัย ประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือระดับ และชุมชน Porsche ที่มีความน่าหลงใหล มีชีวิตชีวา เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ