ธุรกิจ
MINI เดินสายการผลิต Countryman

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ประกาศเดินหน้าผลิต MINI Countryman (มีนี คันทรีแมน) ที่โรงงานการผลิตอันทันสมัยในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิที จังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นการกลับมาผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทยอีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี การตัดสินใจครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย และภารกิจในการตอบสนองความต้องการรถยนต์ระดับพรีเมียมในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมพร้อมนำเสนอราคาที่คุ้มค่าสำหรับลูกค้าในประเทศ
เอริค รูเก กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจที่ได้กลับมาประกอบรถยนต์ MINI Country man ในประเทศไทยอีกครั้ง การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อตลาดไทย และความเชื่อมั่นในศักยภาพของรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงรุ่นนี้ โรงงานผลิตของเราในประเทศไทยดำเนินงานภายใต้มาตรการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่า MINI Countryman ทุกคันได้มาตรฐานการประกอบระดับสูง ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศนี้ทำให้เราสามารถส่งมอบยนตรกรรมที่ผสานความโดดเด่นด้านดีไซจ์น และความสนุกในการขับขี่เข้ากับความน่าเชื่อถือได้อย่างลงตัว
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้พัฒนากระบวนการผลิตที่มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับการผลิต MINI Countryman S All4 (มีนี คันทรีแมน เอส ออลล์ 4) ทั้งรุ่น Classic และ Hightrim บนสายการผลิตเดียวกัน ณ โรงงานระยอง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และรักษามาตรฐานคุณภาพระดับสูงสำหรับผู้บริโภค ส่งผลให้ MINI Countryman เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าชาวไทยที่มองหารถยนต์ระดับพรีเมียมที่มาพร้อมคุณภาพมาตรฐานระดับโลก
MINI Countryman รถขวัญใจแฟนๆ ผลิตในประเทศไทย พร้อมลุยทุกเส้นทาง
MINI Countryman S All4 มาพร้อมกับฟีเจอร์ล้ำสมัย และสเป็คระดับสูงที่ตอบรับกับทุกความต้องการของผู้ขับขี่ยานยนต์ในยุคปัจจุบัน ไล่ตั้งแต่ขุมพลังจากเครื่องยนต์อันทรงพลัง ไล่ไปจนถึงระบบอินโฟเทนเมนท์ชั้นนำของวงการ โดยในทุกองค์ประกอบของ MINI Countryman ต่างได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่จากยนตรกรรมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่หาจากที่อื่นไม่ได้
MINI Countryman S All4 มีดีไซจ์นสวยสะอาดตาซึ่งชนะใจแฟนๆ MINI ในไทยตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2567 ด้วยความโดดเด่นจากเรื่องโครงสร้างตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MINI ทั้งหน้าสั้น ท้ายยาว ฐานล้อที่ยาวขึ้น และกระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยม เติมสีสันให้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าด้วยตัวเลือกสีใหม่ น้ำเงิน Slate Blue ตัดกับหลังคาสีดำ Jet Black โดยในรุ่น Classic เลือกใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว ดีไซจ์น Asteroid Spoke และรุ่น Hightrim มาพร้อมกับล้อขนาด 19 นิ้วแบบทูโทน ดีไซจ์น Kaleido Spoke
ด้านเครื่องยนต์และสมรรถนะ MINI Countryman S All4 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี Twin Power Turbo ที่แฟนๆ MINI รู้จัก และคุ้นเคย ส่งกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวทันเมตรลงสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All4 ทั้งรุ่น Classic และ Hightrim มอบสมรรถนะ และความคล่องตัวระดับเดียวกัน ด้วยอัตราการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 7.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 228 กม./ชม.
สำหรับชุดแต่งภายนอก ทั้งรุ่น Classic และ Hightrim ติดตั้งไฟหน้า LED พร้อมระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติมาให้ทั้งคู่ เช่นเดียวกับฝาครอบกระจกข้างสีดำ และรางสำหรับขนสัมภาระบนหลังคารถ รุ่น Hightrim โดดเด่นกว่าด้วยบรรยากาศที่แตกต่างในห้องโดยสาร เปิดรับสภาพแวดล้อมภายนอกผ่านหลังคากระจกแบบพาโนรามา ส่วนรุ่น Classic ก็ยังสวย สะดุดตาทั่วทั้งห้องโดยสาร ด้วยพวงมาลัยแบบสปอร์ท เบาะนั่งคนขับแบบ Active Seat เบาะหลังปรับได้ แท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน และหน้าจอ OLED ทรงกลมขนาดใหญ่ที่เป็นหัวใจของการออกแบบห้องโดยสารในมีนีเจเนอเรชันนี้ ทั้งยังเป็นประตูสู่ฟังค์ชันอำนวยความสะดวกมากมายจาก MINI Connected และจุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายอีกด้วย
ส่วนรุ่น Hightrim ยกระดับความหรูหราภายในไปอีกขั้น ด้วยเบาะนั่งสไตล์สปอร์ทแบบ John Cooper Works เพดานห้องโดยสารมาดขรึมในสีดำ Anthracite และระบบเสียงเซอร์ราวนด์จาก Har man Kardon ส่วนวัสดุในรุ่น Classic เลือกหุ้มเบาะนั่งด้วยผ้าและหนังเทียม Vescin สีดำตัดน้ำเงิน และรุ่น Hightrim ใช้หนังเทียม Vescin ล้วนในโทนสีน้ำตาล Vintage Brown และดำ Dark Petrol
MINI Countryman S All4 ใหม่ ทั้ง 2 รุ่นย่อย มอบความมั่นใจบนทุกเส้นทางด้วยตัวช่วยครบครันสำหรับการขับขี่ และเข้าจอด ทั้ง Dynamic Stability Control (DSC), Dynamic Brake Control (DBC), Park Distance Control (PDC) ระบบแจ้งเตือนการชนหลังเกิดอุบัติเหตุ และอื่นๆ อีกมากมาย
MINI Countryman S All4 มีให้เลือก 6 สีด้วยกัน ได้แก่ น้ำเงิน Slate Blue, เขียว Smokey Green, น้ำเงิน Blazing Blue, ขาว Nanuq White, เงิน Melting Silver และแดง Chili Red II
MINI ประเทศไทย พร้อมนำเสนอราคา MINI Countryman S All4 ในราคาเริ่มต้นที่ 2,599,000 บาท สำหรับรุ่น Classic และ 2,799,000 บาท สำหรับรุ่น Hightrim
โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง : ความเป็นเลิศด้านการผลิตในประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เริ่มดำเนินสายการผลิตตั้งแต่ปี 2543 โดยมีพื้นที่การผลิตครอบคลุมมากกว่า 253,000 ตรม. ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิที จังหวัดระยอง ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 114 กม. (70 ไมล์)
ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 18 รุ่น โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์ BMW (บีเอมดับเบิลยู) และ MINI มากกว่า 30,000 คัน/ปี และรถจักรยานยนต์ BMW Motorrad (บีเอมดับเบิลยู มอเตอร์ราด) สูงสุดที่ 15,000 คัน/ปี ส่งผลให้เป็นหนึ่งในโรงงานประกอบรถยนต์ที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด ทั้งยังมีความพร้อมในด้านบุคลากรไทยที่มีทักษะสูง และมีความทุ่มเทในการทำงาน โดยยานยนต์จากทั้ง 3 แบรนด์ (BMW MINI และ BMW Motorrrad ได้รับการผลิตในประเทศที่โรงงานระยอง ซึ่งเป็นโรงงานแห่งเดียวในเครือข่ายการผลิตทั่วโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีการผสมผสานกระบวนการผลิตในลักษณะนี้ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2543 บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของ BMW ในตลาดไทย และจะยิ่งมีศักยภาพเพิ่มขึ้นจากการนำ MINI Countryman กลับมาผลิตในประเทศในครั้งนี้