ธุรกิจ
กรุงศรี ออโต้ เจาะลึก 3 อินไซท์ผู้ใช้รถผ่านงาน "มหกรรมยานยนต์"

“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผย 3 อินไซท์เจาะลึกพฤติกรรมผู้ใช้รถ จากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อจากงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศตลอดปี 2567 ชี้ ผู้บริโภคเลือกแผนการผ่อนชำระที่นานขึ้น และมีการปรับราคาของรถมือสอง ซึ่งเป็นผลมาจากการทำการตลาดของแบรนด์ใหม่ๆ ด้านยานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน กรุงศรี ออโต้ พร้อมปรับเกมรุกตลาดด้วยการสร้างอีโคซิสเตมที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถ โดยมีแอพพลิเคชัน "Go by Krungsri Auto" เป็นประตูสู่บริ การสินเชื่อดิจิทอลที่สมบูรณ์แบบ รองรับทุกผลิตภัณฑ์ พร้อมโซลูชันเพื่อผู้ใช้รถที่ครบทุกมิติ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างตรงจุด
คงสิน คงคา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้ผู้บริโภคต้องปรับตัว และวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบมากขึ้น กรุงศรี ออโต้ ในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อได้ให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบายการพิจารณาสินเชื่อให้สอดคล้องกับคำแนะ นำของภาครัฐ แต่ยังคงไว้ซึ่งศักยภาพในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่เหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละราย และส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ ด้วยการวางกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกผ่านการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศกว่า 27 งาน ครอบคลุม 16 จังหวัด ในปีที่ผ่านมา ทำให้ กรุงศรี ออโต้ สามารถรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริ โภค พร้อมต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ ควบคู่ไปกับการมุ่งเน้นการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Krungsri Auto Responsible Lending) และการยึดหลักการสร้างคุณค่าร่วม (CSV: Creating Shared Value) เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจ และความยั่งยืนในสังคม พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง
เปิดแนวโน้มตลาดยานยนต์ปี 2568 จากอินไซท์พฤติกรรมผู้บริโภคในงานมหกรรมยานยนต์
Gen Z และวัยทำงาน พลังใหม่ขับเคลื่อนตลาดยานยนต์
ตลาดยานยนต์กำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ โดยมีกลุ่ม Gen Z และวัยทำงานอายุ 25-44 ปี เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในประเภทรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี (BEV: Battery Electric Vehicle) และรถยนต์ไฟฟ้าพลัก-อิน ไฮบริด (PHEV: Plug-in Hybrid Electric Vehicle) โดยพฤติกรรมการใช้งานของคนกลุ่มนี้สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสมรรถนะ ฟังค์ชันการใช้งาน และค่าใช้จ่ายระยะยาวมากกว่าชื่อเสียงของแบรนด์ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางระยะสั้นเฉลี่ย 5-20 กม./วัน และอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล[1] ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการชาร์จ EV ได้ดีกว่าพื้นที่อื่นๆ แนวโน้มดังกล่าวยังสะท้อนจากส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่สูงถึง 84.7 %[2] โดย 3 แบรนด์ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด ได้แก่ BYD (บีวายดี) MG (เอมจี) และ Neta (เนทา)[3] ที่โดดเด่นด้านความคุ้มค่า และเทคโนโลยี โดยที่แบรนด์จากค่ายรถอเมริกามีแนวโน้มการเติบโตลดลง ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลการให้สินเชื่อของ กรุงศรี ออโต้ ผ่านงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศ ในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กลุ่มวัยทำงานยังถือเป็นกำลังซื้อหลักของตลาดรถจักรยานยนต์ และบิกไบค์ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 21-40 ปี ที่มีอัตราการขอสินเชื่อบิกไบค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อพิจารณาตลาดสินเชื่อในเชิงพื้นที่พบว่าภาคตะวันออกมีอัตราการขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับกรุงเทพฯ ที่มีแนวโน้มลดลง
รถยนต์มือสอง สมดุลราคา-คุณภาพ โอกาสทองของผู้บริโภค
ปี 2567-2568 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของตลาดรถยนต์มือสอง จากราคาที่ปรับตัวลดลง 10-30 % ทำให้ผู้บริโภคกลุ่ม Gen X และ Gen Y ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสองสามารถเข้าถึงรถยนต์ที่หลากหลาย และคุ้มค่ามากขึ้น คุณภาพดีได้ง่ายกว่าเดิม เมื่อมองถึงภาพรวมโครงสร้างตลาดรถมือสอง ทเรนด์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยรถที่เป็นตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่ รถที่มีอายุ 3-5 ปี ครองตลาดมากที่สุดที่ 52 % รองลงมา คือ รถอายุไม่เกิน 3 ปี จำนวน 20 % และ 6-8 ปีที่ 19 % ซึ่งเป็นช่วงที่รถยนต์ยังคงมีสภาพดี และสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ ด้านประเภทพลัง งาน รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกหลักในตลาดรถมือสองที่ 54 % ตามมาด้วยกลุ่มรถไฮบริด (HEV: Hybrid Electric Vehicle) และพลัก-อิน ไฮบริด (PHEV) ที่ 38 % ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า แบทเตอรี (BEV) อยู่ที่ 9 %
คนไทยใช้รถนานขึ้น สะท้อนพฤติกรรมรอบคอบ ในยุคที่เศรษฐกิจมีความท้าทาย
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงชะลอการตัดสินใจซื้อรถใหม่ และเลือกใช้รถยนต์คันเดิมนานขึ้น โดยในปี 2567 อายุการใช้งานเฉลี่ยของรถยนต์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 7 เป็น 10 ปี ปัจจัยหลักมาจากราคาขายต่อของรถมือสองที่ลดลง รวมถึงภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการเปลี่ยนรถ และให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนไป โดยหากพวกเขาวางแผนจะซื้อรถยนต์ใหม่ มักใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น พร้อมต้องการข้อมูลรอบด้าน และพิจารณาปัจจัยหลายมิติก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของรถ ความคุ้มค่าในการใช้งาน รวมถึงทเรนด์ของตลาดรถยนต์มือสอง เป็นต้น
"กรุงศรี ออโต้" สร้างความต่างในตลาดสินเชื่อยานยนต์ ด้วยอีโคซิสเตมเพื่อผู้ใช้รถ
กรุงศรี ออโต้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ด้วยกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่สะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงทุกเซกเมนท์ของผู้ใช้รถ โดยหนึ่งในนวัตกรรมสำคัญ คือ "สินเชื่อยานยนต์ดิจิทอล (Digital Auto Lending)" ที่สามารถขอสินเชื่อได้ทุกผลิตภัณฑ์ของกรุงศรี ออโต้ ผ่านแอพพลิเคชัน Go by Krungsri Auto ที่ช่วยลดขั้นตอน และเวลาการดำเนินการ พร้อมทราบผลอนุมัติวงเงินสินเชื่อไวได้ภายใน 30 นาที รวมถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (Direct-to-Consumer ) ผ่านการเข้าร่วมมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศ เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งการจัดกิจกรรม Krungsri Auto Ultimate Test Drive & Ride เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถทดลองขับรถได้มากถึง 36 แบรนด์ 94 รุ่น ในที่เดียว ลดข้อจำกัดด้านเวลา และการเดินทาง
ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ ไม่เพียงแค่สร้างความแตกต่างในตลาดสินเชื่อยานยนต์ แต่ยังเป็นองค์กรที่มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเดินหน้าสร้าง สรรค์บริการ และโซลูชันใหม่ที่ตอบรับทเรนด์ที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตผู้ใช้รถให้ดีขึ้นต่อไป