ธุรกิจ
Mitsubishi ชวนสัมผัสนวัตกรรมใหม่

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ชวนลูกค้าสัมผัสความล้ำสมัย พร้อมดีไซจ์นสุดโฉบเฉี่ยว กับครั้งแรกของการจัดแสดงรถยนต์ฟูลล์ไฮบริด 2 รุ่นใหม่ล่าสุด All-New Mitsubishi XForce HEV (มิตซูบิชิ เอกซ์ฟอร์ศ เอชอีวี) ใหม่ และ Mitsubishi Xpander HEV Play (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ เอชอีวี พเลย์) ร่วมด้วยแคมเปญพิเศษที่งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 พร้อมเดินหน้าประกาศความพร้อม ส่งทีม Mitsubishi Ralliart เตรียมลงสู้ศึกการแข่งขันรายการ Asia Cross Country Rally 2025 (AXCR 2025) ด้วยรถแข่ง Triton Rally Car
เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากที่เราได้เปิดตัวรถ All-New Mitsubishi XForce HEV ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา งานนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะได้ชมการจัดแสดงรถ All-New Mitsubishi XForce HEV ที่หลายๆ คนรอคอย รวมถึงรถ Mitsubishi Xpander HEV Play ซึ่งเป็นรถรุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด โดยรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ฟูลล์ไฮบริด พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซจ์นที่โดดเด่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ เรายังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถ All-New Mitsubishi XForce HEV ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม และรับมอบรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ กับแคมเปญ “Early Bird Offers เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น” โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรม และรีสอร์ทในเครือเซนทารา มูลค่า 10,000 บาท รวมถึงโปรโมชันอื่นๆ อีกมากมายสำหรับรถยนต์ทุกร่น
All-New Mitsubishi XForce HEV ได้รับการพัฒนาร่วมกับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาวไทย และมีฐานการผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ. ชลบุรี มั่นใจได้ในคุณภาพรถยนต์ และบริการหลังการขายที่ครบครัน แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Ignite (อิกไนท์) Ultimate (อัลทิเมท) และรุ่นทอพ Ultimate X (อัลทิเมท เอกซ์) พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยดีไซจ์นที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด Silky & Solid สะท้อนความเรียบหรูแต่ทรงพลังในทุกมิติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกกว่าในทุกการเดินทาง ผสานการทำงานของ 3 สุดยอดเทคโนโลยี ในแบบ Mitsubishi e:Motion ที่เหนือระดับไปอีกขั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลล์ไฮบริด เจเนอเรชันใหม่ ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 24.4 กม./ลิตร* มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ หรือ 7 Drive Mode ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง พร้อมช่วงล่าง และระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย จากการทดสอบจริงบนถนนของเมืองไทยกว่า 100,000 กม.
นอกจากนี้ All-New Mitsubishi XForce HEV ยังโดดเด่น และเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน Diamond Sense แบบครบครัน ซึ่งรวมถึง กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Moving Object Detection: MOD) ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และอีกมากมาย พร้อมมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ด้วยห้องโดยสารกว้าง พื้นที่เก็บของหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ โดยในรุ่นทอพ Ultimate X ยังมาพร้อมระบบเสียง Dynamic Sound Yamaha Premium และลำโพง 8 จุด เพื่อคุณภาพเสียงเหนือระดับอีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลท์ภายในงาน ได้แก่ Mitsubishi Xpander HEV Play และ Xpander Cross HEV Play (เอกซ์แพนเดอร์ ครอสส์ เอชอีวี พเลย์) รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ที่ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ของรถจากซีรีส์ Mitsubishi Xpander ที่มีการติดตั้งชุดแต่งจากโรงงานในโทนสีดำ ให้บุคลิกใหม่ที่โดดเด่น มีสไตล์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับในแบบ Mitsubishi e:Motion ด้วยดีไซจ์นที่โดดเด่นในสไตล์สปอร์ทพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ และมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และรองรับไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟของครอบครัวยุคใหม่
ภายในงานยังจัดแสดง Mitsubishi Pajero Sport Prime (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท ไพร์ม) ใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบครันมากยิ่งขึ้น ในราคาจำหน่ายเท่าเดิม เพิ่มความคุ้มค่าด้วยการยกระดับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน Diamond Sense เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารสะดวกสบาย สะท้อนความหรูหรา และทันสมัย
ปิดท้ายด้วย Mitsubishi Triton Athlete (มิตซูบิชิ ทไรทัน แอธลีท) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Hyper Power X2 กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวทันเมตร ตอบสนองไลฟ์สไตล์สปอร์ทพรีเมียมด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นมีสไตล์ สะกดทุกสายตา ห้องโดยสารสะดวกสบายทุกจุด ผสานดีไซน์จ์นายในสีทูโทน เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน "Diamond Sense" พร้อมระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) และระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD II เอกลักษณ์เฉพาะของ Mitsubishi Motors ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลล์ไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศ และพื้นผิวถนนทุกรูปแบบ ด้วย 7 โหมดการขับขี่ และระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)
นอกจากการขนทัพสุดยอดยนตรกรรมมาจัดแสดงแล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ยังประกาศความพร้อมเตรียมส่งทีม Mitsubishi Ralliart ลงสู้ศึก Asia Cross Country Rally 2025 (AXCR 2025) ด้วยรถแข่ง Triton Rally Car โฉมใหม่* เพื่อกลับมาทวงตำแหน่งแชมพ์อีกครั้ง