ธุรกิจ
TAPMA เปิดฉาก “Future Mobility Thailand 2025”

สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วน ยานยนต์ไทย (TAPMA) จัดงาน Future Mobility Thailand 2025 ภายใต้แนวคิด "Driving Tomorrow: Innovating for a Sustainable and Connected Future"
งาน Future Mobility Thailand 2025 หรือ FMT 2025 เป็นเวทีสำคัญที่รวบรวม ผู้เชี่ยวชาญ ผู้พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้ให้บริการซัพพลายเชน และนักลงทุนในอุต สาหกรรมยานยนต์จากทั่วโลก เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ให้ก้าวไกล และยั่งยืน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่ ยานยนต์สมัยใหม่ที่ใช้พลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นก้าวสำคัญที่ไทยจะพัฒนาอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไปพร้อมกับแนวโน้มยานยนต์แห่งอนาคต และการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก และอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างรายได้มากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท/ปี รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการผลิต และการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า ระบบพลังงานที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาแรงงานและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาด
เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงาน FMT 2025 โดยเน้นย้ำถึงกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยผ่าน 3 แนวทาง “สู้ เซฟ สร้าง” ได้แก่ "สู้"- ปรับตัวสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน ผลักดัน Parts Transformation ให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทยสามารถปรับตัวจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่ EV, เทคโนโลยีอัตโนมัติ, AI, และไฮโดร เจน และขยายโอกาสสู่อุตสาหกรรมใหม่ เช่น ระบบราง เครื่องมือแพทย์ เครื่องจักรกลเกษตรอัจฉริยะ และอากาศยาน "เซฟ"-รักษาฐานการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไทยยังคงเป็นฐานการผลิต Hybrid และ Mild Hybrid พร้อมส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี E-Fuel และเครื่องยนต์ไฮโดรเจน สนับสนุนซัพพลายเชนเดิมให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคต และ "สร้าง"-เสริมศักย ภาพ และขยายความร่วมมือระดับสากล พัฒนาทรัพยากรบุคคลด้วย หลักสูตรด้าน EV, AI, และซอฟท์แวร์ยานยนต์อัจฉริยะ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยร่วมมือกับบริษัทระดับโลก ในการพัฒนาเทคโนโลยี
สมพล ธนาดำรงศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า งาน Future Mobility Thailand 2025 เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ ผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักพัฒนาเทคโนโลยีจากทั่วโลก ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่จะนำไปสู่ความร่วมมือ และการลงทุนในอนาคต
ในงาน FMT 2025 มีไฮไลท์ของงานที่ต้องไม่พลาด คือ บูท Parts Transformation จัดแสดงหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนสามารถปรับตัวและธุรกิจของตนเองไปสู่อุตสาหกรรมอื่นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ได้แก่
1) อุตสาหกรรมระบบราง (Rail & Transportation Systems) ด้วยการประกอบหรือผลิตรถไฟระบบราง เช่น โครงสร้างตัวถัง ช่วงล่างรถไฟ ระบบเบรค และระบบไฟฟ้า โดยปัจจุบันนำเข้าชิ้นส่วนระบบรางกว่าร้อยละ 80
2) อุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ (Medical Device Industry) เช่น เครื่องมือแพทย์ (คลาสส์ 1-2) อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ใช้งาน เตียงผู้ป่วย รถเข็น รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการฟื้นฟู และกายภาพบำบัด ฯลฯ
3) อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture Machinery) เช่น โดรนเพื่อการเกษตร ระบบควบคุมอัตโนมัติ เครื่องสีข้าวไฟฟ้าขนาดเล็ก เครื่องอัดฟาง/อัดใบอ้อย เครื่องตัดอ้อย เครื่องอบ และบรรจุข้าว
4) อุตสาหกรรมอากาศยาน (Aerospace Industry) เช่น การผลิตโลหะน้ำหนักเบา ชิ้นส่วนอากาศยาน
นอกจากนี้ ยังโชว์ยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นใหม่ “ค้ำคูณ” ที่เป็นเครื่องแสดงการยกระดับขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงสร้างผลกระทบทั้งเชิงเศรษฐกิจ และสังคมให้กับประเทศ พร้อมเป็นหนึ่งตัวอย่างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การขนส่งสาธารณะในเมืองอีกด้วย
ในงานยังมีโซนที่น่าสนใจ ได้แก่ โซน E-Parts & Mobility Revolution เวทีนำเสนอชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ช่วยสร้างอนาคตแห่งการเดินทางที่ยั่งยืน และโซน ADAS & Entertainment Systems ที่นำเสนอเทคโนโลยีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ และโซลูชันความบันเทิงภายในรถที่มอบประสบการณ์ขับขี่อัจฉริยะ และปลอดภัย รวมถึงโซน BGC Green Product & Alter native Energy ที่จะพบกับผลิตภัณฑ์รักษ์โลก และแหล่งพลังงานทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยแกสคาร์บอน โซน Performance Parts, Accessories, Maintenance & Car Care ที่จะได้สัมผัสอุป กรณ์แต่งรถสมรรถนะสูง และโซลูชันบำรุงรักษารถยนต์ยุคใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และอายุการใช้งาน
สมพล กล่าวทิ้งท้ายว่า สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยงาน FMT 2025 นี้ จะเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก โดยเน้นการขยายตลาดเพื่อรองรับทั้งการส่งออก และการใช้ภายในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศคู่แข่ง สร้างความพร้อมสำหรับยานยนต์สมัยใหม่ และสนับสนุนการปรับตัวของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์สันดาปภายในให้สามารถขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ได้