ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า Stellantis วางแผนสาธิตการใช้งานแบทเตอรีโซลิดสเตทใหม่ในปี 2569 หลังการพัฒนาระยะหนึ่ง จนได้รับการรับรองเทคโนโลยีแล้ว
Stellantis เป็นบริษัทแม่ของบริษัทผู้ผลิตหลักอย่าง Vauxhall, Peugeot, Citroen และ Fiat ได้ทุ่มทุนถึง 75 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.51 พันล้านบาท โดยร่วมมือกับ Factorial Energy ผู้ชำนาญการด้านแบทเตอรีโซลิดสเตทในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2564 โดยมีเป้าหมายร่วมกันพัฒนาแบทเตอรีโซลิดสเตท จนสามารถใช้ในรถไฟฟ้าได้ภายในเวลา 5 ปี
จากความสำเร็จนี้ทำให้ Stellantis และ Factorial Energy ก้าวสู่บริษัทผู้ปฏิวัติวงการแบทเตอรีโซลิดสเตทระดับแนวหน้า ทั้งมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปเพื่อให้ได้แบทเตอรีที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยลดต้นทุนจากการผลิตให้กับลูกค้าต่อไป
แบทเตอรีโซลิดสเตท เหนือกว่าแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ซึ่งใช้ในรถไฟฟ้าทั่วไปในปัจจุบัน ด้วยความจุพลังงานที่หนาแน่นมากกว่า ทำให้รถมีระยะเดินทางไกลกว่า และชาร์จเร็ว
ปัจจุบัน Tesla ใช้เทคโนโลยีแบทเตอรี 4680 ที่มีความหนาแน่นพลังงาน 244 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กก. ส่วนแบทเตอรีโซลิดสเตทของ Stellantis มีความหนาแน่นพลังงานที่ 375 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กก. ทั้งที่ผ่านการใช้งานถึง 600 รอบ/การชาร์จ โดยสามารถชาร์จเพิ่มจาก 15-90 % ใน 18 นาที
เซลล์แบทเตอรีโซลิดสเตท มีน้ำหนักน้อยกว่าแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ทั้งยังจ่ายพลังงานได้สูงกว่า จึงเหมาะกับการใช้กับรถไฟฟ้าสมรรถนะสูง ทั้งยังสามารถทำงานได้ตามปกติ แม้ในช่วงอุณหภูมิ ตั้งแต่ -30 จนถึง 45 องศาเซลเซียส
ก้าวต่อไปของ Stellantis คือ การร่วมมือกับ Factorial Energy ในการทดสอบเพื่อการประเมินการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริงในปีหน้า จากนั้นจึงผลิตออกมาใช้งานในรถไฟฟ้าในท้องตลาดต่อไป สำหรับพแลทฟอร์ม STLA ชุดล่าสุดของ Stellantis ไม่น่าใช้กับเทคโนโลยีใหม่ได้