ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า BMW Group (บีเอมดับเบิลยู กรุพ) ทดสอบแบทเตอรีโซลิดสเตท โดยติดตั้งในรถไฟฟ้า BMW i7 (บีเอมดับเบิลยู ไอ 7) โดยจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับรถเจเนอเรชันต่อไป
BMW ร่วมกับบริษัทพาร์ทเนอร์ Solid Power ในการพัฒนาแพคแบทเตอรี ASSB (All Solid State Battery) สำหรับแบทเตอรีโซลิดสเตทโดยเฉพาะด้วยคุณสมบัติความหนาแน่นพลังงานสูงกว่า ขนาดเล็กกว่า และมีน้ำหนักเบากว่า เมื่อเทียบกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ที่ใช้ใน BMW รุ่นปัจจุบัน ดังนั้นแบทเตอรีโซลิดสเตทจึงมีพลังงานมากกว่า ด้วยแพคแบทเตอรีขนาดเล็กลง
แพคแบทเตอรีต้นแบบใช้ร่วมกับสถาปัตยกรรมรุ่นที่ 5 (Gen5 Architectures) มีจัดวางเซลล์แบบ Prismatic ในโมดูล ต่างจากเซลล์ทรงกระบอกที่ใช้อยู่ในสถาปัตยกรรม Neue Klasse Gen 6 ซึ่งทันสมัยที่สุด อย่างไรก็ตามต้องดัดแปลงสถาปัตยกรรมรุ่นที่ 5 เพื่อการติดตั้งเซลล์โซลิดสเตท (ASSB)
การทดสอบนี้เป็นแนวทางสำหรับการปรับพแลทฟอร์มที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีรุ่นต่อไป และจะทำให้บริษัทสามารถนำแบทเตอรีโซลิดสเตทมาใช้กับรถรุ่นใหม่ได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
Martin Schuster รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีแบทเตอรีรุ่นใหม่ กล่าวว่า บริษัทกำหนดจะเริ่มใช้แบทเตอรีโซลิดสเตทภายใน 8 ปี นับจากนี้ แม้ปัจจุบันมีความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีแบทเตอรีโซลิดสเตทก็ตาม บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ที่ยังสามารถพัฒนาได้อีกมาก
อย่างไรก็ตามการทดสอบรถรุ่นใหม่ แสดงว่าบริษัทเปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่ และมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์แบทเตอรีแบบใหม่ต่อไป BMW ยังทดสอบรถรุ่นนี้อีกระยะนึง เพื่อรวบรวมข้อมูลอุณหภูมิ และปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการทำงาน
แบทเตอรีโซลิดสเตทเป็นความใฝ่ฝันของผู้ผลิตรถไฟฟ้า ด้วยอายุการใช้งานยาวนานกว่า ถ้าเทียบกับแบทเตอรีรุ่นปัจจุบัน ทั้งมีความจุกระแสไฟสูงกว่า และทำระยะเดินทางได้ไกลกว่า มีน้ำหนักน้อย ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายนอกได้ดี และที่สำคัญ คือ ชาร์จเร็วกว่า