บทความ
Ford แนะนำการขับขี่แบบปลอดภัยบนถนนลื่น

ช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้ขับขี่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายประการ โดยเฉพาะสภาพถนนที่เปียก และลื่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Ford (ฟอร์ด) ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้ใช้ถนนทุกคน ขอแนะนำแนวทางการเตรียมความพร้อม และวิธีรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัย มั่นใจ และไร้กังวล ไม่ว่าสภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงเพียงใดก็ตาม
ปลอดภัยไว้ก่อน
วิธีที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่แรก การเตรียมความพร้อมทั้งรถ และคนขับจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่บนท้องถนนอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นกว่าปกติ
สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ การตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นใบปัดน้ำฝนที่ควรทำงานได้ดี ยางรถยนต์ที่มีดอกยางในสภาพพร้อม และลมยางที่เหมาะสม รวมถึงระบบไฟส่องสว่างที่พร้อมใช้งาน เพื่อให้มองเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจน แม้จะมีฝนตกเพียงเล็กน้อยก็ควรเปิดไฟหน้าเสมอ
เมื่อขับรถในขณะฝนตก ควรลดความเร็วลง 10-20 % เพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า เนื่องจากพื้นถนนเปียกทำให้ระยะเบรคยาวขึ้น การเบรค หรือเร่งเครื่องกะทันหันอาจทำให้รถเสียการควบคุมได้ กรณีที่จำเป็นต้องขับผ่านพื้นที่น้ำท่วมขัง ควรใช้เกียร์ต่ำ ขับด้วยความเร็วคงที่ และหลีกเลี่ยงการหยุดหรือเร่งเครื่องในขณะขับรถในพื้นที่น้ำท่วมขัง
อย่าลืมเปิดใช้งานโหมดถนนลื่น
รถยนต์ Ford มีโหมดการขับขี่โหมดถนนลื่น (Slippery) โดยโหมดควบคุมการขับขี่นี้เหมาะกับสภาพถนนที่มีความลื่นสูงขณะ หรือหลังฝนตก รวมถึงถนนที่มีคราบน้ำมัน โดยระบบจะควบคุมการหมุนของล้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่ตอบสนองรวดเร็ว โดยสามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้โดยการหมุนแป้นควบคุมที่อยู่บริเวณคอนโซลกลาง
อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับการขับขี่ขณะฝนตก คือ ควรหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดสิ่งรบกวนระหว่างขับรถ เช่น การใช้โทรศัพท์หรือเปิดเพลงเสียงดัง เพราะผู้ขับขี่ต้องใช้สมาธิสูงระหว่างการขับขี่รถยนต์ หากปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และเดินทางได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยตลอดฤดูฝนนี้
ทำอย่างไรหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินบนถนนลื่นขณะขับขี่
-มีสติ และสมาธิ เพื่อป้องกันการตัดสินใจผิดพลาด
-สังเกตสัญญาณ หรือสภาพถนนที่อาจลื่น เช่น น้ำมัน หรือน้ำขัง รวมถึงสังเกตป้ายเตือนจราจรต่างๆ
-กดคันเร่งอย่างนุ่มนวล เพื่อลดความเร็วโดยไม่ทำให้รถเสียการควบคุม
-หลีกเลี่ยงการเบรคกะทันหัน เพื่อป้องกันรถลื่นไถล
-ขับรถโดยการบังคับพวงมาลัยอย่างนุ่มนวล ไม่หักเลี้ยวแรง
-รักษาความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพถนน และสภาพอากาศขณะฝนตก
-เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มเวลาตอบสนอง
-หลังผ่านจุดถนนลื่น ให้เหยียบเบรคเบาๆ เพื่อช่วยให้ผ้าเบรคแห้ง และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
อุ่นใจแม้ต้องพบสถานการณ์ไม่คาดฝัน
สำหรับเจ้าของรถ Ford มีบริการครบวงจรที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจเชคสถานะความสมบูรณ์ของรถยนต์ได้ทุกเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง ด้วยแอพพลิเคชัน Ford Pass ที่สามารถตรวจเชคแรงดันลมยาง (ถ้าติดตั้งระบบติดตามแรงดันลมยาง) ระดับน้ำล้างกระจก อายุของน้ำมันเครื่อง รวมถึงแจ้งความจำเป็นที่จะต้องนำรถเข้ารับบริการเพื่อการบำรุงรักษาทั่วโป
Ford พร้อมมอบความอุ่นใจให้ลูกค้าในทุกการเดินทาง ด้วยฟีเจอร์การขับขี่ และบริการที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และสามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว และมั่นใจ ได้แก่
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. (Ford Roadside Assistance)1 บริการให้คำปรึกษาทางเทคนิคตลอด 24 ชม. ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือรถเสีย รวมถึงบริการยก/ลากรถไม่จำกัดจำนวนครั้งไปยังศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด ช่วยเหลือกรณีลืมกุญแจ หรือลอครถโดยไม่ได้ตั้งใจ เติมน้ำมันฉุกเฉินปีละ 1 ครั้ง และประสานจัดหารถทดแทน (ลูกค้าออกค่าใช้จ่ายเอง) หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรติดต่อศูนย์บริการพร้อมแจ้งข้อมูลรถ และปัญหาที่พบได้ตลอดเวลา สำหรับลูกค้าเจ้าของ Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) และ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) รายใหม่ รับบริการฟรี 5 ปี2
ระบบช่วยเหลือฉุกเฉินผ่าน SYNC 3 ช่วยแจ้งเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อ ผ่านบลูทูธ เพื่อโทรออกเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีความรุนแรง โดยระบบจะโทรออกไปยังหมายเลขฉุกเฉิน ให้สื่อสารกับเจ้าหน้าที่ และส่งข้อมูลรถยนต์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ระบบจะทำงานได้อย่างถูกต้องเมื่อมีการตั้งค่าเปิดใช้งานล่วงหน้า และโทรศัพท์มีสัญญาณ เครือข่าย และแบทเตอรีเพียงพอ
*หมายเหตุ
โปรแกรมไม่ครอบคลุมกรณีอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ หรือการใช้งานที่ผิดเงื่อนไข
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ford.co.th/owner/road-assistance
ไม่ควรพึ่งพาระบบเพียงอย่างเดียวหากสามารถโทรขอความช่วยเหลือด้วยตนเองได้