ธุรกิจ
GWM ทุ่มพันล้านหยวน ผ่านศูนย์การทดสอบขนาดใหญ่

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” เดินหน้าสะท้อนพันธกิจด้าน “Quality Long-Termism” หรือแนวคิด “คุณภาพที่ยั่งยืนในระยะยาว” อย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการวิจัย และพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์สู่เวทีระดับสากล โดยที่ผ่านมา GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านวิศวกรรม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างชัดเจน อาทิ การเปิดตัวศูนย์ทดสอบความปลอดภัย (GWM Safety Lab) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และการก่อสร้างอุโมงค์ลมแบบ Aeroacoustic โดยในงาน Auto Shanghai 2025 GWM ที่ผ่านมา ยังได้จัดแสดงนวัตกรรมล้ำสมัยมากมายที่สะท้อนจุดยืนด้านเทคโนโลยีขั้นแนวหน้า นำโดยการเปิดตัวเครื่องยนต์ไฮบริด 4.0T V8 ห้องปฏิบัติการทดสอบอุโมงค์ลมเพื่อจำลองสภาพแวดล้อมการขับขี่จริง และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน Hi-4 ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านวิศวกรรม พร้อมเผยเบื้องหลังของคุณภาพที่ GWM ยึดมั่นมาโดยตลอด
ศูนย์ทดสอบด้านต่างๆ ของ GWM เช่น สนามทดสอบรถยนต์ ห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัย อุโมงค์ลมสิ่งแวดล้อม และห้องปฏิบัติการ NVH ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทดสอบสมรรถนะ และสนับสนุนการพัฒนา และทดสอบความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์อย่างแข็งแกร่ง ในปี 2566 GWM WEY 80 (กเรท วอลล์ มอเตอร์ เว่ย 80) และ GWM Poer Sahar (กเรท วอลล์ มอเตอร์ โพเออร์ ซาฮาร์) ได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก C-NCAP ขณะที่ Tank 500 (แทงค์ 500) ได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก ANCAP ในออสเตรเลีย และ GWM WEY 07 (กเรท วอลล์ มอเตอร์ เว่ย 07) รุ่นใหม่ล่าสุดก็สามารถผ่านการทดสอบ Top Safety Challenge ซึ่งเป็นการทดสอบตกจากสะพานยกระดับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์วิจัยและเทคโนโลยียานยนต์แห่งประเทศจีน (CATARC)
ทนทานอย่างไร้ขีดจำกัด ยืนหยัดเหนือกาลเวลาด้วยแนวคิด “Quality Long-Termism”
GWM ตอกย้ำจุดยืนด้านคุณภาพภายใต้แนวคิด “Quality Long-Termism” หรือ “คุณภาพที่ยั่งยืนในระยะยาว” โดยรถยนต์ GWM ทุกรุ่นต้องผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพระดับสูง และการทดสอบในสภาพแวดล้อมสุดขั้วนับพันครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกการส่งมอบ คือ ประสบการณ์ที่ "มากกว่า" ทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความประทับใจในทุกเส้นทาง ด้วยงบลงทุนด้านวิจัย และพัฒนาหลายพันล้านหยวน GWM มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการทดสอบให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ ภูมิอากาศ สภาพถนน และเทคโนโลยีของแต่ละภูมิภาคทั่วโลก โดยศูนย์ทดสอบครบวงจรของ GWM เหล่านี้ ครอบคลุมการทดสอบที่หลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นมลพิษจากการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ความเงียบ และแรงสั่นสะเทือน (NVH) ความสบายของระบบปรับอากาศ ความทนทานของชิ้นส่วน (BSR) และความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า การทดสอบเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์ศักยภาพในห้องทดลองเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง “คุณภาพที่สัมผัสได้จริง” ในทุกวันของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับรถไปทำงานในวันธรรมดา การพาครอบครัวเดินทางไกลในวันหยุด หรือการใช้งานในสภาพถนนที่ท้าทาย GWM มุ่งมั่นให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่า รถทุกคันได้รับการออกแบบมาเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ขับขี่ที่มีคุณภาพ
ยกระดับความทนทาน ผ่านการทดสอบเข้มข้นเพื่อทุกเส้นทางที่ท้าทายในชีวิตจริง
ล่าสุด GWM ได้เดินหน้าเปิดตัว ศูนย์ทดสอบความปลอดภัย (GWM Safety Lab) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ประกอบด้วย ศูนย์ทดสอบแรงกดอากาศ (High-Altitude Lab) ที่จำลองความกดอากาศแบบสุดขั้วที่ 5,000 ม. เหนือระดับน้ำทะเลเพื่อทดสอบพละกำลัง และความทนทาน ศูนยทดสอบการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อม (Environmental Wind Tunnel Lab) ภายใต้อุณหภูมิต่ำขนาด -30 องศาเซลเซียสไปจนถึงร้อนจัด พร้อมติดตั้งอุโมงค์ลม (Aeroacoustic Wind Tunnel Lab) ด้วยงบลงทุนกว่า 500 ล้านหยวน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,000 ตรม. ที่ใช้เทคโนโลยีระดับเวิร์ลด์คลาสส์ รองรับการทดสอบด้านแอโรไดนามิคส์ และสมรรถนะ NVH สำหรับรถยนต์ทุกประเภท ตั้งแต่รถเอสยูวีไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ GWM ยังเดินหน้าขับเคลื่อนแนวคิด “Global Climate Adaptation Engineering” ด้วยการจำลองสภาพแวดล้อมการขับขี่จาก 18 ภูมิอากาศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบบนถนนความเร็วไม่จำกัดในประเทศเยอรมนี การลากจูงในประเทศออสเตรเลีย การบรรทุกหนักในประเทศอินเดีย รวมถึงการทดสอบบนถนน 76 รูปแบบที่จำลองสภาพจริง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รถยนต์ของ GWM พร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายทุกสภาพแวดล้อม ตั้งแต่ความหนาวจัดในประเทศรัสเซีย ความร้อนแผดเผาในตะวันออกกลาง ความสูงชันของเทือกเขาคุนหลุนในประเทศจีน ไปจนถึงสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งครอบคลุมทุกความท้าทายที่ผู้ขับขี่ต้องเจอในชีวิตจริง
เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า GWM ให้ความสำคัญกับคุณภาพที่ยั่งยืนในระยะยาวเป็นอันดับต้นๆ ในการดำเนินธุรกิจ เพราะเราเชื่อว่ารถยนต์ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือ ความมั่นใจ และความปลอดภัยของผู้ใช้ในทุกเส้นทาง เราจึงลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนา และทดสอบรถภายใต้สภาพแวดล้อมจริงจากทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่ารถทุกคันของ GWM จะมีคุณภาพสูงก่อนส่งมอบถึงมือผู้ใช้ พร้อมรับมือกับทุกสภาพถนน และภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทนทาน และไว้วางใจได้จริง ไม่ใช่แค่ในห้องทดลอง แต่ในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทย และทั่วโลก
GWM ได้ยกระดับขีดความสามารถในการทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และตลาดทั่วโลกอย่างแท้จริง พร้อมสร้างระบบการรับรองที่สอดคล้องกับมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุด เพื่อผลิตรถยนต์คุณภาพสูงสำหรับตลาดนานาชาติอย่างยั่งยืน ตามปรัชญาด้านคุณภาพอันแน่วแน่ของ GWM ที่ยึดมั่นมาตลอดหลายทศวรรษที่ได้กล่าวไว้ว่า “หากไม่ควบคุมอย่างเข้มงวด ก็ไม่มีคุณภาพระดับพรีเมียม และหากไม่มีคุณภาพระดับพรีเมียม ก็ไม่อาจพัฒนาอย่างยั่งยืนได้”