บทความ
Lamborghini Fenomeno ปรากฎการณ์ความแรงครั้งใหม่

Lamborghini เปิดตัวรถรุ่น Few-Off รุ่นล่าสุดสำหรับปี 2025 ในชื่อ Fenomeno ซึ่งหมายถึง “ปรากฏการณ์” ด้วยความตั้งใจให้สะท้อนความโดดเด่น และยิ่งใหญ่ เหมือนกับชื่อของกระทิงดุที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ณ งาน Monterey Car Week โดยจะผลิตจำนวนจำกัดHighlight
Lamborghini ค่ายรถยนต์สัญชาติอิตาลีที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถสมรรถนะสูง แน่นอนว่าหลายคนที่เป็นเจ้าของรถยนต์ Lamborghini ค่อนข้างมีความพิเศษ และมีอิทธิพลในระดับโลก ค่ายกระทิงดุก็ได้สนองความต้องการด้วยการเตรียมจำหน่ายรถยนต์รุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า Few-Offs ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัด และพัฒนาขึ้นจากรุ่นที่มีอยู่เดิม ธรรมเนียมปฏิบัตินี้เริ่มต้นจาก Reventon ในปี 2007 นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นคลาสสิคอื่นๆ เช่น Sesto Elemento, Veneno, Centenario และ Sian
Fenomeno เป็นรถยนต์ที่ยังใช้เครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศเช่นเดียวกับ Lamborghini Revuelto แบบ V12 สูบนอนวางกลาง ขนาด 6.5 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว 2 ตัวที่เพลาหน้า และอีกหนึ่งตัวที่อยู่เหนือกระปุกเกียร์ ให้กำลังรวมสูงสุด 1,065 แรงม้า โดย 823 แรงม้ามาจากเครื่องยนต์ V12 และ 232 แรงม้ามาจากมอเตอร์ไฟฟ้า Lamborghini ยังไม่เปิดเผยตัวเลขแรงบิด แต่ทางแบรนด์ระบุว่าเครื่องยนต์เบนซินให้แรงบิด 725 นิวทันเมตร ที่ 6,750 รตน. (80 % ของแรงบิดอยู่ที่ 3,500 รตน.) และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าแต่ละตัวให้แรงบิดมหาศาล
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม Lamborghini ระบุว่า Fenomeno สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 2.4 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.7 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 350 กม./ชม. ที่สำคัญ Fenomeno มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดของ Lamborghini อยู่ที่ 1.62 กก./แรงม้า
ส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้า Fenomeno ใช้ชุดแบทเตอรีขนาด 7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทาง Lamborghini ไม่ได้ระบุระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่ Revuelto สามารถวิ่งได้ประมาณ 5 ไมล์ หรือเพียง 10 กม. ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า Fenomeno มีประสิทธิภาพดีกว่า หรือแย่กว่า แต่ Lamborghini ยืนยันว่าแต่ละคันใช้ระบบส่งกำลังไฮบริดของ Lamborghini ที่ให้แรงม้า และอัตราการทดที่เร็วกว่า Revuelto แน่นอน ทำให้ Fenomeno เป็นรถที่เร็วที่สุด และทรงพลังที่สุดเท่าที่ Lamborghini เคยผลิตมา
Lamborghini อธิบาย Fenomeno ว่าเป็น "An unexpectedly elegant spaceship" เสมือนยานอวกาศที่สง่างามอย่างเหนือความคาดหมาย โดยทุกเส้นสายผสาน "ฟังค์ชันการใช้งานขั้นสูงสุดเข้ากับสุนทรียะอันบริสุทธิ์" ช่องรับอากาศด้านหน้าขนาดใหญ่ ชวนให้นึกถึงรถแข่ง Huracan GT3 โดดเด่นอยู่บนฝากระโปรง นักออกแบบของ Lamborghini ตั้งใจให้ไฟ DRL โดดเด่นสะดุดตาชวนให้นึกถึงเขาควาย การออกแบบยังผสมผสานรูปทรง Y แบบคลาสสิคบนสพลิทเตอร์หน้า และไฟหน้า เมื่อมอง Fenomeno จากด้านข้างจะสัมผัสได้ถึงรถแข่งตัวโหดอย่าง Essenza SCV12 ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ Lamborghini ต้องการในรถคันนี้
องค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงประกอบด้วยระบบ S-Duct ด้านหน้าที่นำอากาศเข้าสู่หลังคา ปีกหลังทรงโอเมก้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวที่ความเร็วสูง และประตูดีไซจ์นใหม่ที่ส่งลมไปยังช่องรับอากาศด้านข้างขนาดใหญ่ ช่วยให้ระบายความร้อนด้านข้างได้ดีกว่าเครื่องยนต์ V12 ของ Lamborghini Revuelto ถึง 30 %
โครงสร้างแบบโมโนคอก และตัวถังของ Fenomeno ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ใช้ระบบเบรคคาร์บอน-เซรามิก CCM-R Plus ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยีที่ใช้ในเบรครถแข่ง LMDH นอกจากนี้ยังมีระบบกันสะเทือนแบบปรับความแข็งได้อิสระสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการลงสนามแข่ง Fenomeno ยังมาพร้อมกับยาง Bridgestone Potenza Sport ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมล้ออัลลอยแบบ Center lock ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว ส่วนล้อหลังขนาด 22 นิ้ว นอกจากนี้ยังมียาง Bridgestone Potenza Race สำหรับสายแข่งให้เลือกใช้อีกด้วย
การตกแต่งภายในยังได้รับการออกแบบสะท้อนปรัชญา "ห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกเหมือนห้องนักบิน Feel Like a Pilot" ของ Lamborghini สำหรับยุคใหม่ Lamborghini ออกแบบหน้าจอดิจิทอล 3 จอให้มีความเรียบง่ายแต่มีสไตล์ ในขณะที่ยังคงให้ห้องโดยสารสามารถถอดปุ่มต่างๆ ออกได้ การตกแต่งภายในเน้นคาร์บอนไฟเบอร์บนคอนโซลกลาง เบาะนั่งแบบ Sport Bucket Seats และแผงประตูยังได้ช่องระบายอากาศที่แผงหน้าปัดด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่พิมพ์แบบ 3 มิติอีกด้วย
สีภายนอก Lamborghini เลือกสีเหลือง Giallo Crius ในการเปิดตัว "เน้นย้ำความแข็งแกร่งของส่วนบน" และ "ตัดกันอย่างสง่างาม" กับลักษณะอากาศพลศาสตร์ และสไตล์ของส่วนล่าง อย่างไรก็ตาม ลูกค้าจะสามารถเลือกสีภายนอกได้มากกว่า 400 แบบ ตัวเลือกภายในที่แทบจะไร้ขีดจำกัดผ่านโปรแกรม Ad Personam ของ Lamborghini
Fenomeno ถือเป็นรถที่ไม่ได้แตกต่างจาก Revuelto มากนัก โดยเฉพาะภายในยังคงใช้พวงมาลัยแบบเดียวกัน จอแสดงผลกลางแบบลอยตัว แผงหน้าปัดดิจิทอล และหน้าจอฝั่งผู้โดยสารแบบเดียวกับ Revuelto แต่ผู้ซื้อรถยนต์รุ่นพิเศษแบบนี้ไม่น่าจะมองหาความแปลกใหม่ในระบบอินโฟเทนเมนท์ แต่มองหาความเป็นที่สุดของสมรรถนะ การออกแบบใหม่ที่ฉีกกฎเดิมๆ ปรัชญาความพิถีพิถัน และคุณภาพของแบรนด์ซะมากกว่า
สำหรับแผนการผลิต Fenomeno ทั่วโลกจะจำกัดเพียง 29 คัน พร้อมอีก 1 คันสำหรับทาง Lamborghini เอง รวมเป็น 30 คัน โดยมีรายงานว่าราคาเริ่มต้นที่ ประมาณ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แน่นอนว่ามีผู้โชคดีที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นเจ้าของคันนี้พอสมควร และนี่จะเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญที่จะเป็นหนึ่งในรถที่มีมูลค่าพุ่งสูงในอนาคตอย่างแน่นอน