ธุรกิจ
ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์
ตลาดรถยนต์ เดือน กย. เติบโตเพิ่มขึ้น 23.8 %
สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2568 ยอดขายตลาดรวม 48,350 คัน เพิ่มขึ้น 23.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 19,671 คัน เพิ่มขึ้น 25.5 % ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 28,679 คัน เพิ่มขึ้น 24.4 % และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 14,354 คัน เพิ่มขึ้น 2.7 %
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เดือนกันยายน 2568 มียอดขาย 48,350 คัน เพิ่มขึ้น 23.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง ยอดขาย 19,671 คัน เพิ่มขึ้น 25.5 % จากปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 28,679 คัน เพิ่มขึ้น 24.4 % และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,354 คัน เพิ่มขึ้น 2.7 % รถยนต์ในกลุ่ม HEV มียอดขาย 12,756 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 73.45 % และมียอดขายสะสม 9 เดือนแรกถึง 102,372 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 51 % ของตลาด XEV ทั้งหมด
สำหรับ Toyota (โตโยตา) ยังครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสม 9 เดือนแรกถึง 167,800 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.5 % นำโดย Yaris Ativ (ยารีส เอทีฟ) 40,202 คัน และ Hilux Revo (ไฮลักซ์ รีโว) 13,165 คัน
ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอแคมเปญใหญ่ปลายปีอย่าง Motor Expo ทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอตัว ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ผันผวน และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันความเชื่อมั่น และกำลังซื้อ
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2568
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 48,350 คัน เพิ่มขึ้น 23.8 %
อันดับที่ 1 Toyota 18,472 คัน เพิ่มขึ้น 20.6 % ส่วนแบ่งตลาด 38.2 %
อันดับที่ 2 Honda 5,092 คัน เพิ่มขึ้น 16.7 % ส่วนแบ่งตลาด 10.5 %
อันดับที่ 3 Isuzu 4,931 คัน ลดลง 18.9 % ส่วนแบ่งตลาด 10.2 %
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,671 คัน เพิ่มขึ้น 25.5 %
อันดับที่ 1 Toyota 6,848 คัน เพิ่มขึ้น 46 % ส่วนแบ่งตลาด 34.8 %
อันดับที่ 2 Honda 3,036 คัน ลดลง 11.4 % ส่วนแบ่งตลาด 15.4 %
อันดับที่ 3 MG 1,650 คัน เพิ่มขึ้น 84.6 % ส่วนแบ่งตลาด 8.4 %
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 28,679 คัน เพิ่มขึ้น 24.4 %
อันดับที่ 1 Toyota 11,624 คัน เพิ่มขึ้น 9.5 % ส่วนแบ่งตลาด 40.5 %
อันดับที่ 2 Isuzu 4,931 คัน ลดลง 18.9 % ส่วนแบ่งตลาด 17.2 %
อันดับที่ 3 Honda 2,056 คัน เพิ่มขึ้น 119 % ส่วนแบ่งตลาด 7.2 %
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 14,354 คัน เพิ่มขึ้น 2.7 %
อันดับที่ 1 Toyota 6,602 คัน เพิ่มขึ้น 1.8 % ส่วนแบ่งตลาด 46 %
อันดับที่ 2 Isuzu 4,080 คัน ลดลง 20 % ส่วนแบ่งตลาด 28.4 %
อันดับที่ 3 Ford 1,374 คัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนแบ่งตลาด 9.6 %
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,250 คัน GWM 1,016 คัน-Toyota 914 คัน-Isuzu 659 คัน-Ford 524 คัน-Mitsubishi 136 คัน-Nissan 1 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,104 คัน ลดลง 3.5 %
อันดับที่ 1 Toyota 5,688 คัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนแบ่งตลาด 51.2 %
อันดับที่ 2 Isuzu 3,421 คัน ลดลง 17.6 % ส่วนแบ่งตลาด 30.8 %
อันดับที่ 3 Mitsubishi 864 คัน เพิ่มขึ้น 43.8 % ส่วนแบ่งตลาด 7.8 %
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม-กันยายน 2568
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 447,969 คัน เพิ่มขึ้น 2.1 %
อันดับที่ 1 Toyota 167,800 คัน เพิ่มขึ้น 0.3 % ส่วนแบ่งตลาด 37.5 %
อันดับที่ 2 Isuzu 53,503 คัน ลดลง 18 % ส่วนแบ่งตลาด 11.9 %
อันดับที่ 3 Honda 51,009 คัน ลดลง 12.5 % ส่วนแบ่งตลาด 11.4 %
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 174,111 คัน เพิ่มขึ้น 2.5 %
อันดับที่ 1 Toyota 58,779 คัน เพิ่มขึ้น 20.4 % ส่วนแบ่งตลาด 33.8 %
อันดับที่ 2 Honda 28,658 คัน ลดลง 15.7 % ส่วนแบ่งตลาด 16.5 %
อันดับที่ 3 BYD** 14,690 คัน ลดลง 4.6 % ส่วนแบ่งตลาด 8.4 %
**อ้างอิงจากยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ระหว่างวันที่ 1-30 กันยายน 2568 จากเวบไซท์กรมการขนส่งทางบก
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 273,858 คัน เพิ่มขึ้น 2.3 %
อันดับที่ 1 Toyota 109,021 คัน ลดลง 7.9 % ส่วนแบ่งตลาด 39.8 %
อันดับที่ 2 Isuzu 53,503 คัน ลดลง 18 % ส่วนแบ่งตลาด 19.5 %
อันดับที่ 3 Honda 22,351 คัน ลดลง 8.1 % ส่วนแบ่งตลาด 8.2 %
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 138,510 คัน ลดลง 9.8 %
อันดับที่ 1 Toyota 62,424 คัน ลดลง 11.6 % ส่วนแบ่งตลาด 45.1 %
อันดับที่ 2 Isuzu 46,135 คัน ลดลง 18.8 % ส่วนแบ่งตลาด 33.3 %
อันดับที่ 3 Ford 13,805 คัน ลดลง 14.3 % ส่วนแบ่งตลาด 10 %
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 31,360 คัน
Toyota 10,476 คัน-Isuzu 8,542 คัน-GWM 5,462 คัน-Ford 5,366 คัน-Mitsubishi 1,249 คัน-Nissan 295 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 107,150 คัน ลดลง 15.3 %
อันดับที่ 1 Toyota 51,948 คัน ลดลง 15 % ส่วนแบ่งตลาด 48.5 %
อันดับที่ 2 Isuzu 37,953 คัน ลดลง 21 % ส่วนแบ่งตลาด 35.1 %
อันดับที่ 3 Ford 8,469 คัน ลดลง 15 % ส่วนแบ่งตลาด 7.9 %
..........................................................................................................................................................................................
Geely พร้อมเปิดตัว EX2
กลุ่มธนบุรี ภายใต้ชื่อ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Geely (จีลี) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เผยทิศทางแบรนด์ และกลยุทธ์การตลาดแก่พันธมิตร และผู้จำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมผนึกกำลังวางแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Geely EX2 ที่เตรียมประกาศราคาครั้งแรกในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42" หรือ Motor Expo 2025 ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ มุ่งขยายพอร์ทผลิตภัณฑ์สู่เซกเมนท์ใหม่ ควบคู่การยกระดับบริการหลังการขายด้วยประสบการณ์ 85 ปีของกลุ่มธนบุรี เพื่อเสริมศักยภาพเครือข่ายผู้จำหน่าย และสร้างความมั่นใจสูงสุดแก่ลูกค้าชาวไทยในทุกมิติ
ณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด เผยว่า ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของไทยจากการเข้ามาของหลากหลายแบรนด์ใหม่ สิ่งนี้สะท้อนชัดเจนว่าตลาดยังคงมีศักยภาพการเติบโตสูง และนี่คือโอกาสที่ Geely จะเข้ามาสร้างจุดยืนที่ชัดเจนได้อย่างแท้จริง ความสำเร็จของ Geely EX5 (จีลี อีเอกซ์ 5) นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยยอดจอง และการส่งมอบที่เป็นไปตามแผน คือ หนึ่งในข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคชาวไทย และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ไลน์ผลิตภัณฑ์พร้อมมอบทางเลือกใหม่ตอบโจทย์หลากหลายเซกเมนท์มากขึ้น เตรียมเปิดตัว Geely EX2 (จีลี อีเอกซ์ 2) รุ่นพวงมาลัยขวาครั้งแรกในโลก ในช่วงปลายปี 2568 นี้ ขณะเดียวกัน เรายังวางรากฐานระยะยาวผ่านแผนขยายโชว์รูม และศูนย์บริการกว่า 40 แห่งภายในปีนี้ โดยมุ่งยึดมาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ รวมถึงเตรียมเปิดตัวโชว์รูมระดับเรือธงแห่งแรกในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการบริการที่สร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างแก่ลูกค้าไทย โดยมุ่งเป้าสร้างการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตร และผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ภายในงานฯ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการประกาศนโยบาย และแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยชูจุดเด่น และสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เพียงโดดเด่นด้านคุณภาพ และเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวไทย โดยทาง บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า Geely รุ่นใหม่เข้าตลาดประเทศไทยอย่างน้อย 1 รุ่นในทุกๆ ปี เสริมความแข็งแกร่งด้วยแผนการขาย และการตลาด 360 องศา ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานบริการหลังการขาย ผ่านแผนการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีโชว์รูม และศูนย์บริการที่เปิดดำเนินการแล้ว 26 แห่ง โดยมุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในทุกมิติ การผสานความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ร่วม 85 ปีของกลุ่มธนบุรี เข้ากับศักยภาพของ Geely ในฐานะผู้นำยนตร กรรมระดับโลกนี้จะช่วยผลักดันให้ Geely ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าในตลาดอีวีไทยได้อย่างมั่นคง
แดเนียล ต่ง ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท จีลี่ ออโต้ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า Geely มองว่าประเทศไทย คือ หนึ่งในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งด้านนโยบายจากภาครัฐ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้า และความพร้อมของผู้บริโภคที่เปิดรับนวัตกรรมใหม่อย่างเต็มที่ ทำให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขับเคลื่อนยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ การเปิดตัว Geely EX2 ในประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค แต่ยังเป็นการตอกย้ำว่า Geely พร้อมสนับสนุนพันธมิตรอย่าง ธนบุรีนอยสเติร์นฯ อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการสร้างระบบนิเวศของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพื่อร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ Geely EX2 ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากการเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ Geely Star Wish ยนตรกรรมไฟฟ้าแฮทช์แบคขนาดกะทัดรัดที่พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถไฟฟ้าขนาดเล็กของประเทศไทย โดดเด่นด้วยดีไซจ์นโค้งมนอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งภายนอก และภายใน ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต และยังครบครันด้วยระบบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งมีกำหนดประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ที่จะถึงนี้ โดยธนบุรีนอยสเติร์นฯ เชื่อมั่นว่า Geely EX2 จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นสำคัญในการขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยสำหรับ Geely ในอนาคต
..........................................................................................................................................................................................
Motor Expo 2025 ประชุมเตรียมความพร้อม
"IMC" บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน "มหกรรมยานยนต์" หรือ "Thailand International Motor Expo" จัดงานประชุมเตรียมความพร้อม การจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42"
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” หรือ Motor Expo 2025 เปิดเผยว่า "IMC" บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน "มหกรรมยานยนต์" หรือ "Thailand International Motor Expo" จัดงานประชุมเตรียมความพร้อม การจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42" โดยนโยบายของงานยังคงเน้นผู้ชมครอบครัว พริททีมีการแต่งกายที่เรียบร้อย และจุดเด่นของงาน คือ การควบคุมเสียง ที่ได้มีการควบคุมเสียงกว่า 50 จุดที่มีการวัดเสียงแบบเรียลไทม์ ซึ่งหากมีเสียงดังเกินกว่ากำหนดจะมีเจ้าหน้าที่ไปแจ้งให้แก้ไข ขอความร่วมมือผู้ควบคุมช่วยกันดูแล ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ชมงาน และผู้ขายรถ ไม่มีเสียงรบกวนในขณะทำการซื้อขายกับลูกค้า
ด้านภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ ปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วยังมีอัตราการเติบโตที่ลดลง โดยงานเราจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในช่วงปลายปี คาดว่ายอดจองรถปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว หรือเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” มียอดจองรถยนต์ 54,513 คัน จักรยานยนต์ 7,982 คัน มีเม็ดเงินหมุนเวียนในงานราว 55,000 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงาน 1,426,044 คน
ส่วนการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมชี้แจงการทำงานระหว่างผู้จัดงาน กับ Exhibitors/Contractors เพื่อรับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และต้องปฏิบัติเป็นพิเศษในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่การจัดงาน ที่ IMPACT ชาลเลนเจอร์ 1-3 รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ การจราจร ที่จอดรถที่ขยายพื้นที่จอดรถกว่า 12,000 คัน
รวมถึงคณะผู้จัดงานฯ ได้ชี้แจงกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบขนส่งการก่อสร้าง การควบคุมเสียง บัตรผู้ร่วมงานต่างๆ เวลาการเข้า-ออกของบัตรประเภทต่างๆ การประชาสัมพันธ์การจัดงาน การจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมการจัดงาน
พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี วันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568
..........................................................................................................................................................................................
ครม. ต่อสัญญาจัด MotoGP 5 ปี
คณะรัฐมนตรีมีมติ ต่อสัญญาจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลก รายการ MotoGP ประจำปี 2570-2574 (5 ปี) วงเงิน 3,997.86 ล้านบาท คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 24,927 ล้านบาท
อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ ให้ประเทศไทยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลก รายการ MotoGP ประจำปี 2570-2574 (5 ปี) และกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลก รายการ MotoGP ประจำปี 2570-2574 (5 ปี) จำนวน 3,997.86 ล้านบาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
"ปัจจุบันการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลก รายการ MotoGP ถือเป็นรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีความเร็วสูงสุดในโลก ซึ่งนับว่าเป็นกีฬาประเภทมอเตอร์สปอร์ทที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยมีผู้ติดตามการแข่งขันทั้งจากการเข้าชมการแข่งขัน ณ สนามแข่งขัน และรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านระบบการถ่ายทอดในรูปแบบต่างๆ กว่า 800 ล้านคน หรือจาก 207 ประเทศทั่วโลก"
ตั้งแต่ปี 2561-2568 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลกรายการดังกล่าว ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ถึงศักยภาพด้านการจัดการแข่งขันกีฬาของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก ได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขันและการเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาในภูมิภาคอาเซียน ทั้งยังส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยได้มากถึง 24,927 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศ และก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการแข่งขันที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งผลจากการสำรวจพบว่ามีผู้ชมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างการแข่งขันเฉลี่ยกว่า 206,240 คน/ครั้ง ส่งผลให้เกิดรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ ทั้งในภาคอุตสาหกรรมที่พัก ร้านอาหาร การเดินทาง และการท่องเที่ยว
ดังนั้น เพื่อต่อยอดความสำเร็จดังกล่าวและรักษาความต่อเนื่องในการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กก. จึงมีความประสงค์ขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลก รายการ MotoGP อีก 5 ปี (ปี 2570-2574) กรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 3,997.86 ล้านบาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
..........................................................................................................................................................................................
Harley-Davidson เผยโฉมรุ่นไฮไลท์ ปี 2026
Harley-Davidson (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน) เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นไฮไลท์จากไลน์อัพปี 2026 บนเวบไซท์ H-D.com พร้อมเปิดตัววีดีโอมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ “Model Year 2026 Reveal- Chapter One-November 3rd” ผ่านช่องทาง YouTube โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่เหล่านี้ จะพร้อมจำหน่าย ณ โชว์รูมผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson อย่างเป็นทางการทั่วโลก
นอกจากนี้ Harley-Davidson ยังประกาศกำหนดการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ปี 2026 เพิ่มเติม รวมถึงคอลเลคชัน Custom Vehicle Operation (CVO) ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเทด โดยจะถูกเผยโฉมใน Chapter Two ในวันที่ 14 มกราคม 2569
รุ่นไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ปี 2026
รุ่น Street Glide (สตรีท กไลด์) และ Road Glide (โรด กไลด์) : รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Grand American Touring ที่ได้รับการอัพเกรดมาเพื่อเหล่านักขับขี่ที่ให้ความสำคัญกับความมีระดับ สมรรถนะ และความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล นับเป็นสุดยอดผลงานจาก Harley-Davidson ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในการสร้างสรรค์รถมอเตอร์ไซค์เพื่อการขับขี่ระยะทางไกลโดยเฉพาะ
รุ่น Low Rider S (โลว์ ไรเดอร์ เอส), Low Rider ST (โลว์ ไรเดอร์ เอสที), Heritage Classic (เฮอริเทจ คลาสสิค), Breakout (เบรคเอาท์), Fat Boy (แฟท บอย) และ Street Bob (สตรีท บอบ) : รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Cruiser ที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 6 รุ่นอันโดดเด่น โดยแต่ละรุ่นล้วนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่สไตล์คลาสสิค ไปจนถึงสมรรถนะขั้นสูง และการคัสตอมแบบสะดุดตา ทุกรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Rider Safety Enhancements by Harley-Davidson และขุมพลัง Milwaukee-Eight 117 ที่ได้รับการปรับแต่งให้มี 3 เวอร์ชัน ซึ่งมีเอกลักษณ์การขับขี่เฉพาะตัว แตกต่างกันตามการออกแบบระบบไอดี และไอเสีย การตั้งค่าเพลาลูกเบี้ยว และโหมดการขับขี่ เพื่อมอบสมรรถนะที่เข้ากันกับรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser แต่ละรุ่น
รุ่น Sportster S (สปอร์ทสเตอร์ เอส), Nightster Special (ไนท์สเตอร์ สเปเชียล) และ Nightster (ไนท์สเตอร์) : รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Sport ที่ผสานสมรรถนะอันยอดเยี่ยมเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยสไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถรุ่นตำนานของ Harley-Davidson มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ Revolution Max โดยรถมอเตอร์ไซค์ในตระกูลนี้ ได้รับการติดตั้งฝาครอบเครื่องยนต์ดีไซจ์นใหม่ ที่ช่วยเสริมดีไซจ์นคัสตอมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และสำหรับรุ่น Nightster มาพร้อมกับสีใหม่อย่าง Blood Orange โดดเด่นสะดุดตาด้วยลวดลายกราฟิคที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง Flat Track ของ Harley-Davidson รวมถึงการ์ดกันความร้อนท่อไอเสียแบบโครเมียม และล้ออลูมิเนียมหล่อลาย 14 ก้าน โดยรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Sport จะพร้อมวางจำหน่าย ณ โชว์รูมผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson ทั่วโลกในช่วงต้นปี 2569
รุ่น Pan America 1250 Special (แพน อเมริกา 1250 สเปเชียล) และ Pan America 1250 ST (แพน อเมริกา 1250 เอสที) : รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Adventure Touring เพื่อนักขับขี่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเดินทางธรรมดาให้กลายเป็นการผจญภัย โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ เคยคว้ารางวัลในฐานะรถมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และสมรรถนะอันหลากหลาย โดยได้รับการดีไซจ์นเพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการออกเดินทางไปบนเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งบนถนน และทางวิบาก ส่วนรุ่น Pan America 1250 ST ได้ถูกปรับแต่งมาเพื่อสมรรถนะการขับขี่แบบ Sport-Touring บนทางเรียบที่คล่องตัวยิ่งขึ้น ด้วยส่วนประกอบช่วงล่าง และระบบเบรคระดับพรีเมียม ล้อขนาด 17 นิ้วที่มาพร้อมกับยางสมรรถนะสูง และระบบ Quickshifter โดยรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Adventure Touring รุ่นนี้ จะวางจำหน่าย ณ โชว์รูมผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson อย่างเป็นทางการทั่วโลกในช่วงต้นปี 2569
..........................................................................................................................................................................................
เปิดวิ่งฟรีทุกวัน ครบทุกด่าน ! มอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี
มอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี เปิดใช้ฟรีทุกวัน-ทุกด่านแล้ว
มอเตอร์เวย์ M81 เปิดใช้ฟรีทุกวัน ครบทุกด่าน
กรมทางหลวง เปิดให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (มอเตอร์เวย์ M81) ระยะทาง 96 กม. ครบทุกด่าน โดยไม่เก็บค่าผ่านทางทุกวัน ตลอด 24 ชม. ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ลองใช้เส้นทางจริง และเดินทางสู่ภาคตะวันตกได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยให้บริการกับรถทุกประเภทที่ใช้มอเตอร์เวย์ได้ เช่น รถยนต์ รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุก และรถบัส
กำหนดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม./ชม.
ในช่วงการเปิดทดลองให้บริการ กำหนดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม./ชม. สำหรับรถยนต์ รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุก และรถบัสโดยสาร ส่วนรถพ่วงจำกัดความเร็วไม่เกิน 65 กม./ชม. เนื่องจากยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง และทดสอบระบบต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมเก็บค่าผ่านทาง ภายในเดือนมกราคม 2569
วันเดียวเที่ยว 3 จังหวัด ผ่านมอเตอร์เวย์ M81
มอเตอร์เวย์ M81 เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อ กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี มีระยะทางรวมประมาณ 96 กม. เริ่มจากจุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ด้านตะวันตก ที่แยกต่างระดับบางใหญ่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่ กม. 39 และสิ้นสุดที่จุดบรรจบกับ ทางหลวงหมายเลข 324 ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ กม.8+400 โดยกรมทางหลวงแนะนำแพลนเที่ยว 3 จังหวัด ภาคตะวันตก นครปฐม-ราชบุรี-กาญจนบุรี แบบ One Day Trip ดังนี้
กาญจนบุรี
จากกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ที่มอเตอร์เวย์ M81 ด่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี-จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเดินทางมายังแลนมาร์คสำคัญของเมืองกาญที่ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 จากนั้นไปเชคอินกันต่อที่ Skywalk เมืองกาญจนบุรี จุดชมวิวเมืองกาญจนบุรีแบบพาโนรามา 360 องศา บนสะพานกระจกใสที่มองเห็นทัศนียภาพของเมืองกาญจนบุรีแบบชิลล์ๆ นอกจากนี้ ยังมีแลนมาร์คสำคัญๆ อีกมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด, ต้นจามจุรียักษ์, วัดถ้ำเสือ เป็นต้น
ราชบุรี
จากนั้น ขับรถข้ามจังหวัดมายัง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยเดินทางไปรับลมในบรรยากาศสบายๆ ที่ “บึงกระจับ” บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด พร้อมกับแวะไปชมความงามที่อุทยานหินเขางู หรือจะไปแวะไหว้พระที่วัดใหญ่นครชุมน์ วัดเก่าแก่ ศูนย์รวมใจของชาวมอญบ้านโป่ง ชมศิลปะ และถาวรวัตถุที่สะท้อนถึงความเป็นมอญแท้ๆ
นครปฐม
ช่วงเดินทางกลับกรุงเทพฯ ลองแวะไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อชมองค์พระสถูปเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขอพรจากองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะสุโขทัย ประดิษฐานภายในซุ้มวิหารหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ หรือจะแวะที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย นครชัยศรี, วัดศีรษะทอง นครชัยศรี, สวนสามพราน ฯลฯ
ทางเลือกใหม่ สู่ภาคใต้
M81 จากบางใหญ่ >นครปฐม >ราชบุรี >ชะอำ >หัวหิน เป็นทางเลือก อีก 1 เส้นทางหลัก ในการเดินทางสู่ภาคใต้ ผ่านทั้งจังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี พร้อมผ่านสถานที่ท่องเที่ยวชะอำ และหัวหิน
ขับรถเที่ยว ผ่าน “มอเตอร์เวย์ M81” ไปไหนได้บ้าง ?
..........................................................................................................................................................................................
ใช้ "คนละครึ่งพลัส" จ่ายค่าเดินทางได้ ทั้งรถไฟฟ้า-รถเมล์-เรือ
กระทรวงคมนาคม ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มกำลังซื้อ ผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าควบคู่กับการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะของประเทศ ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือ หรือรถโดยสารระหว่างจังหวัด ทุกระบบสามารถใช้สิทธิ์คนละครึ่งได้ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์ดำเนินการผ่านแอพพลิเคชัน "เป๋าตัง" (G-Wallet) ครอบคลุมทุกโหมดขนส่ง ดังนี้...
ระบบรถไฟฟ้าในเมือง
- รถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน
- รถไฟฟ้าสายสีม่วง
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว (รวมส่วนต่อขยาย)
- รถไฟฟ้าสายสีแดง
- รถไฟฟ้า BTS
- รถไฟฟ้าแอร์พอร์ท เรล ลิงค์
ระบบขนส่งทางน้ำ
- เรือด่วนเจ้าพระยา (สามารถใช้สิทธิ์ได้เฉพาะที่ท่าเรือเท่านั้น และเฉพาะการชำระค่าโดยสารอัตราปกติ)
- เรือไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ
ระบบรถโดยสารประจำทาง
- รถโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทุกเส้นทาง
- รถโดยสาร บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ทุกเส้นทาง
- รถโดยสารเอกชนร่วมบริการที่ได้รับการอนุมัติจากกรมการขนส่งทางบก
รายชื่อบริษัทรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วม (ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2568) มีดังนี้
1. บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด
2. บริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ จำกัด
3. บริษัท ศรีสุเทพขนส่ง จำกัด
4. บริษัท ระยองทัวร์ จำกัด
5. บริษัท เน็กซ์ เอ็กซ์เพรส จำกัด (Nex Express Co., Ltd.)
6. บริษัท แสวงบริการ จำกัด
“คนละครึ่งพลัส” สำหรับการเดินทาง มีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์อย่างไร ?
- ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะบัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card)
- ชำระค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยสแกน QR ร้านค้าถุงเงิน
- ใช้สิทธิ์ได้ไม่เกิน 200 บาท/คน/วัน
- ใช้ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น.
** ไม่สามารถใช้สิทธิ์ในการเติมเงิน หรือเดินทางแบบเหมาจ่ายได้ในขณะนี้
คนละครึ่งพลัส ใช้เติมน้ำมันได้ไหม ?
คนละครึ่งพลัสนั้นไม่สามารถใช้เติมน้ำมัน ณ สถานีบริการน้ำมันทั่วไปได้ เพราะวัตถุประสงค์ และขอบเขตการใช้จ่ายของโครงการคนละครึ่ง รวมถึง "คนละครึ่งพลัส" มีไว้สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร เครื่องดื่ม และบริการที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น





































