ธุรกิจ
GWM เปิดสเปค New GWM Poer Sahar Diesel

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” หลังเผยโฉมให้คนไทยได้เห็นกันเป็นครั้งแรกที่งาน Tank Fest 2025 ล่าสุด GWM (Thailand) เผยสเปครถกระบะสมรรถนะสูงขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม New GWM Poer Sahar Diesel (กเรท วอลล์ มอเตอร์ โพเออร์ ซาฮาร์ ดีเซล) ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วใน New GWM Tank 300 Diesel (กเรท วอลล์ มอเตอร์ แทงค์ 300 ดีเซล) ใหม่ และ New GWM Tank 500 Diesel (กเรท วอลล์ มอเตอร์ แทงค์ 500 ดีเซล) ใหม่
รถยนต์ตระกูลออฟโรดจาก GWM โดย New GWM Poer Sahar Diesel จะเข้ามายกระดับไลฟ์สไตล์ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พรีเมียมกว่า และใหญ่กว่า ด้วยจุดเด่นทั้ง 4 ด้านที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาดรถกระบะในไทย ได้แก่ 1.) สมรรถนะสูงที่ควบคู่มากับอัตราการบริโภคน้ำมันที่มีประสิทธิภาพ 2.) ความสามารถในการขับขี่พร้อมลุยในทุกไลฟ์สไตล์ 3.) ความพรีเมียม และความสะดวกสบายเหนือกว่ารถกระบะในเซกเมนท์เดียวกัน และ 4.) เทคโนโลยีล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่า ทั้งหมดนี้หลอมรวมให้ New GWM Poer Sahar Diesel พร้อมเป็นคู่หูที่อยู่เคียงข้างทุกวัน ตั้งแต่วันทำงานจนถึงช่วงท่องเที่ยว และผจญภัยไปยังปลายทางใหม่ๆ ด้วยบุคลิกแข็งแกร่ง และภายในพร้อมฟังค์ชันสุดพรีเมียม รองรับการปรับแต่งตามความต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งการผจญภัยที่สมบุกสมบัน และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
New GWM Poer Sahar Diesel มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9AT) ถ่ายทอดพลังอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองฉับไว มั่นใจได้ทั้งการใช้งานจริง และการเดินทางไกล โดดเด่นด้วยมิติตัวรถยาว 5,445 มม. กว้าง 1,991 มม. สูง 1,924 มม. และระยะฐานล้อ 3,350 มม. พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วยระยะความสูงใต้ท้องรถ 224 มม. และความสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มม. เติมความสปอร์ทด้วยกระจังหน้าสีดำ ราวหลังคา และบันไดข้างสีดำ กรอบหน้าต่างสีดำ ไฟหน้า และไฟท้ายแบบรมดำ พร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว จับคู่ยาง 265/60 R18 ที่รับกับดีไซจ์นภายนอกอย่างลงตัว
New GWM Poer Sahar Diesel มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
New GWM Poer Sahar Diesel รุ่น 2.4T Pro Double Cab Auto
New GWM Poer Sahar Diesel รุ่น 2.4T Ultra Double Cab Auto
New GWM Poer Sahar Diesel รุ่น 2.4T Ultra Double Cab Auto 4WD
พร้อมตัวเลือกสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ และสีเทา เติมเต็มบุคลิกแข็งแกร่ง และพรีเมียมได้อย่างชัดเจน ภายในห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำสุดหรู เน้นบรรยากาศเรียบหรูทันสมัย ให้ความรู้สึกมั่นใจ และผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการจัดวางพื้นที่ใช้งานอย่างลงตัว รองรับทั้งภารกิจงานบุกลุย และไลฟ์สไตล์แบบพรีเมียมบนทุกเส้นทาง
4 จุดเด่นที่ฉีกกฎความเป็นรถกระบะแบบเดิมๆ
สมรรถนะสูงที่ควบคู่มากับอัตราการบริโภคน้ำมันที่มีประสิทธิภาพ : New GWM Poer Sahar Diesel ขุมพลังดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ถ่ายทอดกำลังแบบต่อเนื่อง และฉับไว ให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิด 480 นิวทันเมตรตั้งแต่รอบต่ำ 1,500-2,500 รตน. เสริมการเผาไหม้ให้แม่นยำด้วยหัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์ ขณะที่ชุดเกียร์ 9 จังหวะ มีช่วงอัตราทดเกียร์ 8.843 สามารถเข้าสู่เกียร์ 9 ที่ความเร็วเพียง 90 กม./ชม. ช่วยลดรอบเครื่อง และใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า พร้อมยกระดับไปอีกขั้นด้วยการควบคุม NVH (Noise, Vibration, and Harshness) อย่างมีประสิทธิภาพ มอบความนิ่ง เงียบ นุ่มนวล ในการนั่ง และการขับขี่ มอบความผ่อนคลายทั้งการเดินทางในเมือง และนอกเมือง ขณะเดียวกันยังมาพร้อมถังน้ำมันขนาดใหญ่ 78 ลิตร วิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม./การเติม 1 ถัง ช่วยให้การเดินทางในทุกสไตล์ทั้งระยะสั้น-ยาว เป็นไปอย่างมั่นใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังคุ้มค่าด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 14 กม./ลิตร (ในรุ่น 2WD) และ 13.5 กม./ลิตร (ในรุ่น 4WD) ตามมาตรฐาน NEDC นอกจากนี้ ยังมาพร้อมดิสก์เบรค 4 ล้อ และการปรับแต่งช่วงล่างให้เหมาะกับถนนเมืองไทย และพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทยอีกด้วย
ความสามารถในการขับขี่พร้อมลุยในทุกไลฟ์สไตล์ : New GWM Poer Sahar Diesel มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ สปอร์ท และประหยัด (สำหรับรุ่น 2WD) ช่วยบาลานศ์ความสนุกและความคุ้มค่า ในขณะที่รุ่น 4WD มาพร้อมโหมดการขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) และโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตราทดเกียร์ต่ำ (4L) เพื่อรับมือทั้งการเดินทางทั่วไปและเส้นทางออฟโรดอย่างลงตัว เพิ่มความคล่องตัว และความมั่นใจให้ทุกการเดินทางตั้งแต่ในเมือง และนอกเมือง ผสานระยะใต้ท้อง 224 มม. และความสามารถลุยน้ำลึก 800 มม. กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศาและระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ Body Transparent (เฉพาะรุ่น 2.4T Ultra และ 2.4T Ultra 4WD) ที่ช่วยให้เห็นอุปสรรคที่ซ่อนอยู่ เพิ่มทัศนวิสัยขณะผ่านพื้นที่แคบ หรือทางขรุขระ ทำให้ทุกจังหวะการควบคุมแม่นยำ และปลอดภัยยิ่งขึ้น หมดห่วงไร้กังวลเมื่อต้องเจอเส้นทางที่ท้าทาย
ความพรีเมียม และความสะดวกสบายเหนือกว่ารถกระบะในเซกเมนท์เดียวกัน : ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้กว้าง พรีเมียม และใช้งานง่าย ด้วยโทนภายในสีดำเสริมความรู้สึกพรีเมียมตั้งแต่แรกสัมผัส เบาะหลังปรับเอนได้ 2 ระดับ (ประมาณ 33 องศา) ให้นั่งสบายขึ้นทุกระยะทาง พร้อมพนักพิงเบาะพับได้แบบ 40:20:40 ที่มาพร้อมที่พักแขนและที่วางแก้ว รองรับทั้งการโดยสาร และการขนของได้อย่างลงตัว วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์พรีเมียม นั่งสบายทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เหมาะทั้งวันทำงาน และทริพครอบครัว มอบประสบการณ์ขั้นกว่าด้วยหน้าจอมัลทิมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว (ในรุ่น 2.4T Pro) และขนาด 14.6 นิ้ว (ในรุ่น 2.4T Ultra และ 2.4T Ultra 4WD) เกียร์ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า Electronic Shifter บริเวณคอนโซลกลาง เสริมความสะดวกสบายด้วย Smart Key และ Push Start ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบลอคประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด เบาะคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่ด้วยพอร์ท USB หน้า-หลัง (มีช่องต่อสำหรับกล้องบันทึกภาพแยกต่างหาก) และช่องจ่ายไฟสำรอง 220V ในรถ พร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย มอบความสะดวกสบายแบบเต็มพิกัด ทำให้ทุกการเดินทางด้วยรถกระบะ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เทคโนโลยีล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถกระบะทั่วไป : สะดวก และปลอดภัยด้วยชุดเทคโนโลยีครบครัน อาทิ ระบบสั่งการด้วยเสียง และระบบนำทาง ช่วยลดการละสายตา และการสัมผัสปุ่ม รองรับ Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย เชื่อมต่อโลกดิจิทอลได้ต่อเนื่อง เสริมความอุ่นใจด้วยระบบช่วยขับ และความปลอดภัยมากถึง 26 รายการ (ในแต่ละรุ่นอาจแตกต่างกัน) อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการเข้าโค้งอัจฉริยะ (ACC), ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ขณะที่โครงสร้างตัวถังใช้เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงกว่า 64.3 % ของโครงสร้างทั้งหมด ทนแรงบิดได้ 61,118 นิวทันเมตร/องศา แรงดัดได้ 26,163 นิวทันเมตร/มม. และหลังคารับแรงกดได้ถึง 4.88 เท่าของน้ำหนักตัวรถ ตอกย้ำมาตรฐานความปลอดภัยเชิงโครงสร้าง ปกป้องทุกคนในครอบครัวในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
The Next Level of Lifestyle Partner แต่งได้ทุกทางใช้ได้ทุกวัน
ยิ่งไปกว่านั้น New GWM Poer Sahar Diesel ถูกวางตำแหน่งให้เป็นเหมือนเพื่อนที่รู้ใจที่จะยกระดับทุกไลฟ์สไตล์ไปอีกขั้น ด้วยความสามารถในการปรับแต่งได้หลากหลายตามความต้องการ รองรับทั้งวันทำงาน ทริพท่องเที่ยว และการผจญภัย ผสานความพรีเมียมกับความอเนกประสงค์ไว้ในคันเดียว ไม่ว่าจะเป็นสายแคมพิง สายกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องบรรทุกอุปกรณ์ทั้งชิ้นเล็ก และชิ้นใหญ่ สายลากจูงรถบ้านเดินทางท่องเที่ยว หรือแม้แต่สายออฟโรด ก็จบได้ภายในคันเดียวในทุกเส้นทาง พร้อมภาพลักษณ์ทันสมัย โดดเด่น และสะดวกสบาย
GWM (Thailand) เตรียมเปิดตัว และเผยราคาอย่างเป็นทางการของ New GWM Poer Sahar Diesel ภายในงาน Motor Expo 2025 วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 โดยมุ่งยกระดับมาตรฐานกระบะพรีเมียมทั้งด้านสมรรถนะ ความสะดวกสบาย เทคโนโลยี และความปลอดภัย

บทความแนะนำ

