ธุรกิจ
Shell ครองแชมพ์ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นระดับโลก

ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น Shell ยังครองตำแหน่งแชมพ์อันดับ 1 ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูประดับโลกเป็นปีที่ 19 ติดต่อกัน จากรายงานฉบับที่ 23 ของ Kline & Company เรื่อง Global Lubricants: Market Analysis and Assessment 2025
Kline จัดอันดับให้ Shell เป็นผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปอันดับ 1 ของโลก โดยอ้างอิงจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปในกลุ่มยานยนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก รายงานดังกล่าวระบุว่า Shell ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกที่ 11.6 % จากยอดขายทั่วโลกในปี 2567 มีสัดส่วนการขายที่เกือบเท่ากันในน้ำมันหล่อลื่นทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล 37 % สำหรับภาคอุตสาหกรรม 32 % และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 31 % รายงานฉบับนี้นำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกที่ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปสำหรับกลุ่มยานยนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมทั้งได้ประเมินการใช้งานน้ำมันหล่อลื่นที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน ทั้งผู้ใช้จริงในภาคอุตสาหกรรม ผู้ใช้ที่ซื้อผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ ตลอดจนแนวโน้มของตลาดกลุ่มใหม่ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) และน้ำมันหล่อเย็นแบบจุ่ม (Immersion Cooling Fluids: ICFs) ซึ่งน้ำมันชนิดนี้นำไปใช้ในอุตสาหกรรม Data Center และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า Shell ยังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ของโลก ในผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับภาคอุตสาหกรรม
เจสัน หว่อง รองประธานบริหารธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น บริษัท เชลล์ จำกัด (Shell plc.) กล่าวว่า ในฐานะผู้นำที่มียอดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปเป็นอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าให้แก่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริโภค ภาคการพาณิชย์ และภาคอุตสาหกรรม “เรามุ่งมั่นในการเป็นผู้จำหน่าย และผู้ค้าพลังงานที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยยังคงเดินหน้าลงทุนในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อสร้างคุณค่าในระยะยาวในตลาดที่เรามีความเป็นผู้นำ และมีความแข็งแกร่งในการแข่งขัน
ซูชมิตา ดัตตา ผู้จัดการโครงการอาวุโสของ Kline ให้ความเห็นว่า การรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดน้ำมันหล่อลื่น ระดับโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 นับเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นอย่างยิ่ง จากการวิเคราะห์ของเราพบว่า ความสำเร็จของ Shell มาจากกลยุทธ์ที่มีความสอดคล้อง และต่อเนื่อง มีการลงทุนในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ระดับพรีเมียม พร้อมสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแกร่ง และยั่งยืนกับลูกค้าในทุกภาคส่วน
Shell ครองตำแหน่งความเป็นผู้นำระดับโลก และมีความแข็งแกร่งในการแข่งขันได้นั้นเป็นผลมาจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม และการสร้างความแตกต่างในตัวผลิตภัณฑ์จากคู่แข่งในตลาดซึ่งรวมถึง Shell Helix น้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล Shell Rimula น้ำมันเครื่องสำหรับรถบรรทุก และเครื่องยนต์อุตสาหกรรมหนัก รวมถึง Shell Tellus และจาระบี Shell Gadus ซึ่งใช้ในภาคอุตสาหกรรม และเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดหลักที่สำคัญหลายแห่ง
ในปี 2568 Shell Helix Ultra เป็นหนึ่งในน้ำมันเครื่องแบรนด์แรกที่พัฒนาจนได้รับการรับรองมาตรฐาน API SQ ล่าสุด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของ Shell ในด้านการเพิ่มสมรรถนะ และการปกป้องเครื่องยนต์อย่างเหนือระดับ ความสำเร็จนี้ตามมาด้วยการเปิดตัว Shell Advance Ultra ที่มาพร้อมกับมาตรฐาน API SP ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับจักรยานยนต์ และสกูเตอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดของ Shell ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ทั่วโลก เป็นน้ำมันเครื่องระดับพรีเมียมหนึ่งเดียวที่ได้รับการแนะนำจาก Ducati Corse
นอกจากนี้ Shell ยังได้สานต่อความร่วมมือที่มีมานานกว่าทศวรรษ กับ BMW M Motorsport สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Shell ในการผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยีน้ำมันหล่อลื่นอย่างไม่หยุดยั้ง
นอกเหนือจากน้ำมันหล่อลื่นสำหรับกลุ่มยานยนต์แล้ว ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Shell ยังได้เปิดตัว DLC Fluid S3 โซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบตรง (Direct Liquid Cooling) ที่ล้ำสมัย ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบคอมพิวเตอร์ที่มีระบบการประมวลผลสมรรถนะสูง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นของ Shell ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม เมื่อน้ำมันหล่อเย็นแบบจุ่มของ Shell (Immersion Cooling Fluids) ได้รับการรับรองจาก Intel เป็นรายแรกของโลก ทำให้สามารถนำไปใช้งานในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกได้อย่างเป็นทางการ


