สารคดี/บทความ/รายงาน/กิจกรรม
Isuzu Press Trip 2025 เที่ยว 2 นคร...สัมผัสเสน่ห์ดินแดน “อีสาน”

Isuzu Press Trip 2025 ทริพการเดินทางสุดท้ายของปี สัมผัสเสน่ห์ "อีสาน" ตอนบน...นครพนม-สกลนครHighlight
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดกิจกรรม “Isuzu Press Trip 2025” ชวนไปขับรถ Isuzu (อีซูซุ) หลากหลายรุ่น สัมผัสเสน่ห์อีสานในเส้นทางนครพนม-สกลนคร โดยยกขบวนรถมาให้ทดลองขับกว่า 10 คัน กับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ล่าสุด Isuzu DDI Maxforce ทั้งรุ่น 2.2 และ 3.0 สมรรถนะแรง แถมประหยัดน้ำมัน โดยรถในขบวนคาราวานทริพนี้ ประกอบด้วย Isuzu V-Cross 4x4 (อีซูซุ วี-ครอสส์ 4x4), Isuzu D-Max Hi-Lander (อีซูซุ ดี-แมกซ์ ไฮ-แลนเดอร์) 4 ประตู, Isuzu X-Series (อีซูซุ เอกซ์-ซีรีส์) รุ่น Speed (สปีด) และรุ่น Hi-Lander ที่ขาดไม่ได้ คือ รถอเนกประสงค์ Isuzu MU-X "The Next Peak" (อีซูซุ มิว-เอกซ์ "เธอะ เนกซ์ พีค") รุ่น RS (อาร์เอส)
วันแรก
บินตรงสู่นครพนม เมืองริมโขง
เริ่มต้นด้วยเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดนครพนม เมืองริมโขง ที่เงียบสงบเต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธา และพาหนะของเราในทริพนี้ เป็นรถ Isuzu D-max Hi-lander M 4-Door A/T จะพาเราไปสัมผัสเสน่ห์อีสานตอนบน
นครพนม เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับเมืองท่าแขกของประเทศ สปป.ลาว เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ผสมผสานวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งไทย เวียดนาม และจีน สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมโคโลเนียลเก่าแก่ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำโขง
หลังจากที่เราเก็บสัมภาระเข้าประจำรถแล้ว ขบวนรถ Isuzu ทยอยออกเดินทางจากสนามบินนครพนม มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกที่ร้านชมนคร คาเฟ่...เป็นคาเฟ่สุดชิคที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนครพนม ที่นำเสนอเสน่ห์ของ “ออนซอนอีสาน” และความเป็นนครพนมไว้อย่างชัดเจน เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการจิบกาแฟ ในบรรยากาศยามเช้าสบายๆ สไตล์สโลว์ไลฟ์ ไม่เร่งรีบ และมีเวลาเก็บภาพสวยๆ ก่อนเดินทางไปสักการะ “พญาศรีสัตตนาคราช” องค์พญานาคสีทองอร่ามที่เปรียบเสมือนผู้คุ้มครองเมืองให้สงบร่มเย็น ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำโขง สถานที่สำคัญทางจิตวิญญาณของชาวนครพนม สถานที่แห่งนี้ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดนครพนม จะขอพร จะขอโชคลาภ หรือเสริมสิริมงคลให้ชีวิตต้องมาที่นี่
องค์พญาศรีสัตตนาคราช มีลักษณะเป็นพญานาค 7 เศียร ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม และความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคของชาวไทย และชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง สถานที่แห่งนี้เป็นที่เล่าลือว่า “หากใครมาขอพร หรือบนบาน องค์พญาศรีสัตตนาคราช อาจสัมฤทธิ์ผลตามที่ใจหวัง
หลังจากสักการะองค์พญาศรีสัตตนาคราชแล้ว ได้เวลาขับเคลื่อนสู่จังหวัดสกลนคร ซึ่งเส้นทางช่วงนี้ เราจะได้สัมผัสสมรรถนะของรถ Isuzu อย่างเต็มที่ โฉมใหม่ของเจ้า Hi-Lander 2.2 DDI Maxforce คันนี้ เป็นรถกระบะที่ได้รับการปรับปรุงล่าสุด เพิ่งเปิดตัวช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
จุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าดีไซจ์นใหม่ สีเทาไททาเนียม และเทาเข้ม ช่วยเสริมด้านหน้าให้ดูดุดันมากขึ้น ไฟหน้าใหม่ Bi-Beam โคมพโรเจคเตอร์แบบ LED ส่วนไฟท้ายแบบ LED เช่นเดียวกัน ด้านขุมพลังวางเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร DDI Maxforce ให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวทันเมตร ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบสปอร์ท REV Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย ซึ่งออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ 2.2 ลิตรโดยเฉพาะ และพวงมาลัยแบบไฟฟ้า ทำให้การขับขี่ในเมืองดูง่าย และสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่บรรจุอยู่ในเจ้า Hi-Lander คันนี้ จะมีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมฟังค์ชันมุมมองให้ท้องรถ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกรูปแบบทั้งบนทางเรียบ และทางขรุขระ ถือว่าเป็นรถกระบะ 4 ประตูอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ บวกกับ Isuzu เป็นเจ้าแรกๆ ที่แนะนำรถกระบะรุ่น 4 ประตูยกสูง เชื่อใจได้ว่า อะไหล่ และศูนย์บริการมีความพร้อมมากๆ
การเดินทางจากนครพนม สู่สกลนคร มีภารกิจลับๆ ของขบวนคาราวาน โดยลีเดอร์ คาราวานกำหนดให้เราขับรถสไตล์ประหยัดน้ำมัน โดยแข่งกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถแต่ละรุ่น ตาม Eco Sticker นั่นคือ เราต้องแข่งกับตัวเองในการขับรถ Isuzu D-max Hi-lander M 4-Door A/T คันนี้มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 15.15 กม./ลิตร ระยะทางที่เราขับในช่วงแข่งประหยัด มีระยะทางประมาณ 73 กม. เราทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 18.5 กม./ลิตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 56 กม./ชม. ถือว่าประหยัดเอาเรื่องทีเดียว !
มื้อเที่ยงของวันแรก เราแวะเติมพลังที่ร้านอาหารท้องถิ่นจังหวัดสกลนคร ที่ทุกคนแนะนำว่า ต้องมาลองร้านข้าวเปียกโบราณ ฟรานซิสโก เมนูหลักที่ห้ามพลาด คือ ข้าวเปียกเส้นเล็ก เหนียวนุ่ม น้ำซุปกลมกล่อมร้อนๆ หอมอร่อย เติมพลังพร้อมเดินทางต่อไปยังจุดแวะพักที่พลาดไม่ได้ของสกลนคร คือ ร้าน UDD UDOMDETWAT Cafe and Bistro ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในคฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์ ตึกโบราณอายุกว่า 100 ปี คฤหาสน์แห่งนี้สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส เป็นร้านที่ไม่ได้โดดเด่นแค่สถาปัตยกรรม แต่เครื่องดื่ม และเบเกอรีก็ยังมีหน้าตาน่ารับประทาน และรสชาติอร่อยอีกด้วย
จุดหมายถัดไป คือ อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนคาทอลิค โบสถ์แห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่มีรูปทรงคล้ายเรือ สื่อถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อชาวคริสตังกลุ่มแรก (ส่วนใหญ่เป็นชาวญวณที่อพยพมา) ใช้แพไม้ไผ่ และเรือลำเล็กข้ามบึงหนองหานจากตัวเมืองสกลนคร มาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บ้านท่าแร่ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชุมชนแห่งนี้
อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ นับเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่สวยตระการตา และเต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงคุณค่า...ขบวนคาราวานของเราใช้เวลาอยู่ที่ชุมชนท่าแร่นานพอสมควร เราได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวชุมชน ผ่านเรื่องราวของอาหาร และเรื่องเล่าจากอดีตสู่ปัจจุบัน ผ่านศาสนสถานที่เงียบสงบ และน่าหลงใหล
จากนั้นเราออกเดินทางต่อด้วยระยะทางประมาณ 21.4 กม. มุ่งหน้าสู่ที่พักของค่ำคืนนี้ โรงแรมภูสกลวิลล์ จ.สกลนคร โรงแรมเล็กๆ ที่ไม่พลุกพล่าน ดูอบอุ่น และสะอาดสะอ้านมากๆ
ปิดท้ายวันด้วยมื้อเย็นแบบ Casual Fine Dining หรืออาหารอีสานฟิวชันระดับพรีเมียม ที่ร้าน House Number 1712 ทางร้านเน้นวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดีจากชุมชนในสกลนคร และภูมิปัญญาอาหารอีสาน ผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารสมัยใหม่ ทำให้เมนูที่ออกมามีความแปลกใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศวินเทจกลางหมู่บ้านเก่าแก่ของท่าแร่ เป็นการปิดฉากของวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
วันที่สอง
ปิดท้ายทริพ อิ่มบุญ อิ่มใจ ในศรัทธาศาสนา
เช้าวันใหม่ในสกลนคร เริ่มต้นด้วยการสัมผัสวิถีอีสานยุคใหม่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ณ ร้านมัดสกล ร้านอาหาร และคาเฟ่แห่งนี้ มาพร้อมแนวคิด "Farm to Table" อย่างแท้จริง และพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อ Isuzu ร่วมกับ VITME Handcraft สตูดิโอที่เน้นผลงาน Hand Craft จัดกิจกรรม Workshop พวงกุญแจหนังสุดเอกซ์คูลซีฟ ให้เราได้ทำพวงกุญแจหนังเฉพาะตัว ตั้งแต่การตอกตัวอักษร จนไปถึงการประกอบพวงกุญแจ ซึ่งเป็นของที่ระลึกของทริพที่ถูกอกถูกใจชาวคณะ เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีความหมาย
สุขใจปิดท้ายทริพมุ่งหน้าสู่ “พระธาตุเชิงชุมวรวิหาร” ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งภาคอีสาน ที่อบอวลด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรม และทานอาหารก่อนกลับบ้าน ที่ร้านบ้านฟ้าโปร่ง หนึ่งในร้านอาหารเก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัด เป็นการสิ้นสุดการเดินทางในทริพนี้
ขอขอบคุณ : บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่ชวนเราร่วมเดินทางในทริพ 2 นคร...”นครพนม-สกลนคร”


