Quattroruote ลองของแรง
KIA EV9
ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และความสะดวกสบายที่น่าพอใจ ระยะทำการสูงสุดที่มากพอ และรองรับการชาร์จกระแสไฟฟ้าที่สูงมาก มาพร้อมความคล่องแคล่วที่ทำได้ดีเกินคาด หากพิจารณาจากขนาดตัวที่ใหญ่โต นี่คือ ผลลัพธ์จากเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าจากค่ายรถสัญชาติเกาหลีใต้ (กับเบาะนั่งจำนวน 6 หรือ 7 ตำแหน่ง) ที่สามารถต่อกรกับคู่แข่งระดับหรูได้สบายค่ายรถ KIA (เกีย) มีความแตกต่างจากค่าย VOLVO (โวลโว) นั่นคือ รุ่น EV9 (อีวี 9) และ EX90 (อีเอกซ์ 90) กับราคาที่ย่อมเยากว่าที่ 25,000 ยูโร จัดเป็นหนึ่งในประเด็นด้านความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ จำนวนของเบาะนั่งก็ไม่เหมือนกัน โดยรถจากค่ายสัญชาติเกาหลีใต้รองรับได้มากกว่า 5 ที่นั่ง (กับทางเลือกทั้งแบบ 6 หรือ 7 ที่นั่ง ขึ้นอยู่กับทางเลือกของผู้เป็นเจ้าของ) คุณภาพการประกอบของวัสดุในห้องโดยสารทำได้ไร้ที่ติ อุปกรณ์ใช้งานต่างๆ มีความทันสมัย รวมถึงบรรยากาศโดยรวมในห้องโดยสารที่บ่งบอกการเป็นรถยนต์หรูขนานแท้ นั่นคือ คุณสมบัติโดยรวมของ EV9 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจากค่าย KIA ทำตลาดแล้วในภูมิภาคยุโรป กับกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู เช่นเดียวกับ VOLVO และ MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) กับรุ่น EQS SUV (อีคิวเอส เอสยูวี) รวมถึง TESLA (เทสลา) กับรุ่น MODEL X (โมเดล เอกซ์) มีเบาะนั่งหลายตำแหน่ง ตัวถังทรงสูง และมีความยาวของตัวรถที่ระดับ 5 ม.
EV9 อาจถือเป็นรถยนต์หน้าใหม่ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู ภาพลักษณ์โดยรวมยังห่างไกลกับรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน แต่รถยนต์ไฟฟ้าของเกาหลีใต้ก็มีความคุ้มค่าในตัว พิจารณาจากราคาที่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 70,000-100,000 ยูโร สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้ามากน้อยแค่ไหน จุดนี้สามารถแยกแยะได้หลายประเด็น ประการแรก ผู้ที่สนใจรถยนต์รุ่นอื่น เช่น VOLVO EX90 ต้องจ่ายเงินไม่ต่ำกว่า 104,000 ยูโร ขณะที่ EQS SUV มีราคาที่สูงถึง 180,000 ยูโร เป็นอย่างน้อย กับความหรูหราที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้น นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการยอมรับในบแรนด์ของค่ายรถที่ยังคงมีความแตกต่างเช่นกัน มีไม่กี่รายที่ถูกยอมรับจากบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนัก จุดเด่นของ EV9 คือ ราคาที่อยู่ในระดับของการ “จับต้องได้” แต่นั่นถือเป็นข้อดีที่เพียงพอสำหรับค่าย KIA หรือไม่ ?
สิ่งที่จะช่วยพิสูจน์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าคันนี้คู่ควรแก่การยอมรับหรือไม่ คือ ได้มาขับด้วยตัวเอง กับเอสยูวีสไตล์สปอร์ทแบบไร้มลพิษ สัญชาติเกาหลีใต้ มีความโดดเด่นอีกหลายประการ สมกับเป็นรถยนต์ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตจากกรุงโซล บ้านเกิดของรถยนต์รุ่นนี้
ผู้รอคอยร่วม 10 ล้านคน
หนึบในโค้งเกินคาด
มีประชากรชาวเอเชียกว่า 10 ล้านคน ที่อาศัยในตัวเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น หลายคนในที่นี้โดยสารด้วยรถยนต์ส่วนตัว เห็นได้ชัดจากสภาพการจราจรที่ติดขัดในตัวเมือง และผู้ที่สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว การสะสมของรถยนต์บนท้องถนน ทำให้หลายครั้งที่ผู้ขับขี่ต้องการใช้ความเร็วมากขึ้น เมื่อพ้นจากสภาพการจราจรที่หนาแน่นดังกล่าว ตามเส้นทางบนทางหลวงจึงต้องมีจุดบ่งบอกระยะห่างของรถยนต์แต่ละคัน รวมถึงกล้องตรวจจับผู้ใช้ความเร็วเกินกำหนด ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการทดลองประสิทธิภาพโดยรวมของรถคันนี้เท่าใดนัก จากข้อมูลของผู้ผลิตระบุว่า EV9 มีอัตราเร่งที่ฉับไวเอาเรื่อง กับช่วง 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 6 วินาทีเท่านั้น จัดว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว อัตราเร่งช่วงตีนต้นที่ฉับไวของรถยนต์ไฟฟ้า คือ สิ่งที่เราพบเจออย่างต่อเนื่อง การส่งกำลังของแรงบิดที่สูงตั้งแต่ออกตัว คือ หนึ่งในจุดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้า อัตราเร่งช่วงต้นของรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นอาจใกล้เคียงกับรถสปอร์ทพันธุ์แท้ก็ว่าได้ หากเป็นรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ชุด (และขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อตลอดเวลา) กับรุ่นที่มีกำลังสูงสุดถึง 385 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 61.2 กก.-ม. เป็นรุ่นย่อยที่เราได้ทดลองขับเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นอีกรุ่นย่อยที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เพียง 1 ชุด และมีกำลังสูงสุดน้อยกว่า (ที่ 204 แรงม้า) ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ต่ำกว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.4 วินาที แต่เอาเข้าจริง อัตราเร่งอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดของรถยนต์ประเภทนี้ โดยเฉพาะรถเอสยูวีขนาดใหญ่อย่าง EV9 จุดสำคัญ คือ การใช้งานที่มีความอเนกประสงค์ มากกว่าเรื่องอัตราเร่งโดยรวม เรามีความเห็นว่าการตอบสนองที่เน้นความสะดวกสบาย มีความจำเป็นมากกว่าการขับเคี่ยวด้วยอัตราเร่ง
จุดเด่นของรถยนต์คันนี้ยังมีอีกมากมายหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใช้สอยโดยรวม ความอเนกประสงค์ที่หลากหลาย และพื้นที่ห้องโดยสารที่ใช้งานได้เต็มพิกัด (มีรายละเอียดในหน้าถัดไป) เบาะนั่งที่ให้ความสะดวกสบายทั้งเบาะแถวที่ 1 และ 2 โดยเบาะแถวที่ 3 ยังคงนั่งได้สบายสำหรับผู้ใหญ่ที่มีความสูงตามมาตรฐาน ไม่ใช่รองรับแค่เด็กเล็กเท่านั้น ความสะดวกสบายในแง่ของผู้ขับไม่ใช่เพียงการรองรับสรีระที่เหมาะสมของเบาะผู้ขับเท่านั้น แต่ยังมาจากการปรับทิศทางของตัวเบาะได้ละเอียด นำมาสู่เบาะที่มีตำแหน่งเหมาะสม รวมถึงตำแหน่งของพวงมาลัยที่ทำมุมตั้งชัน ประกอบกับตำแหน่งของตัวเบาะที่ลงตัว นั่นคือ ระยะความสูงจากช่วงสะโพกของผู้ขับมายังพื้นถนนมีความเหมาะสม คือ มีตำแหน่งค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับผู้ขับที่ชอบปรับตำแหน่งของเบาะให้ต่ำลงมา รวมถึงผู้ทดสอบที่ชอบปรับตำแหน่งเบาะลงมาต่ำที่สุด นอกเหนือจากนี้ ทัศนวิสัยโดยรวมยังทำได้ยอดเยี่ยม ส่วนหนึ่งมาจากกระจกหน้าต่างที่มีขนาดใหญ่ และขอบของประตูที่อยู่ต่ำลงมา และยังเสริมความอุ่นใจจากเซนเซอร์ถึง 15 จุด พร้อมกล้องมองภาพ และเรดาร์ตรวจจับต่างๆ ติดตั้งระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยในระดับ 3 สำหรับประเทศที่กฎหมายอนุญาตให้ใช้งานระบบดังกล่าว
ระบบรองรับแบบมัลทิลิงค์ มีจุดเด่นในเรื่องความนุ่มนวล สะดวกสบาย โดยเฉพาะถนนลาดยางที่มีลักษณะเป็นลอนคลื่น โดยระบบรองรับดังกล่าวถูกปรับแต่งให้ลดอาการโคลง และการเหวี่ยงของตัวรถขณะเข้าโค้ง ช่วยให้ตัวรถอยู่ในแนวระนาบตลอดเวลา ถือเป็นคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา สำหรับรถที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากเช่นนี้ แม้ทางผู้ผลิตอาจไม่ได้ระบุตัวเลขของน้ำหนักโดยรวมอย่างชัดเจน แต่เราคาดคะเนน้ำหนักของรถคันนี้ว่าควรจะอยู่ในช่วง 2.4 ถึง 2.8 ตัน ของรถเปล่า ไม่รวมของเหลวใดๆ นั่นคือ หากรวมน้ำหนักของผู้โดยสาร และสัมภาระแล้ว รถคันนี้จะมีน้ำหนักโดยรวมเกือบ 3 ตันเลยก็ว่าได้ ทำให้ทีมงานผู้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ KIA รุ่นนี้ต้องรับภาระในการพัฒนาให้มีความลงตัวที่สุด ทั้งระบบรองรับ ระบบอีเลคทรอนิคต่างๆ รวมถึงการประมวลผลของระบบซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของระบบขับเคลื่อนแทบทั้งหมด นับตั้งแต่ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ และระบบแปรผันการส่งแรงบิดไปยังล้อแต่ละตำแหน่ง การทำงานของระบบดังกล่าวถือว่าทำได้น่าประทับใจไม่น้อย ทำให้รถคันนี้มีความคล่องแคล่วเกินตัว แน่นอนว่า เราไม่ได้คาดหวังให้ EV9 มีความคล่องแคล่วราวกับรถสปอร์ทขนานแท้ แต่ความมั่นคงโดยรวมที่ตอบสนองออกมาก็อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมีความมั่นคงที่น่าพอใจ และมีอาการโคลงน้อยมาก เสริมด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำจากชุดแบทเตอรีที่ติดตั้งข้างใต้พื้นรถ และระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3,010 มม. เป็นหนึ่งในจุดที่เสริมความมั่นคงขณะเข้าโค้งต่อเนื่อง การถ่ายเทน้ำหนักอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ง่าย สามารถเข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ดังนี้แล้ว EV9 เป็นรถที่ควบคุมได้ดังใจ ทำให้เอสยูวีพลังไฟฟ้าความยาวร่วม 5 ม. ขับขี่ได้สะดวกสบายไม่แพ้รถเก๋งขนาดเล็ก
แต่ยังคงมีข้อสงสัยสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ คือ หากขับบนทางไกล รถคันนี้จะแล่นได้ไกลเท่าไร ? ตัวเลขจากผู้ผลิต คือ 541 กม. ตามมาตรฐาน WLTP โดยเป็นข้อมูลของรุ่นมอเตอร์เดี่ยว (กำลังสูงสุด 204 แรงม้า) ความจุแบทเตอรีที่ 99.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นรุ่นที่เราได้มาทดสอบ ติดตั้งล้อแมกขนาด 19 นิ้ว โดยยังมีรุ่นย่อยสูงกว่านี้ คือ EV9 MY ติดตั้งล้อแมกขนาด 21 นิ้ว มีระยะทำการสูงสุดที่ 497 กม. มาตรฐาน WLTP เช่นกัน แม้เราจะทราบว่า ในสภาพการใช้งานในความเป็นจริง ระยะทำการจะน้อยกว่าที่ผู้ผลิตระบุมา แต่จะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการขับขี่โดยรวมด้วย
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งข้อสงสัยตามมา นั่นคือ รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้รองรับการชาร์จไฟฟ้าเท่าไร ? ภายใต้ระบบไฟฟ้าแบบ 800 โวลท์ ทำให้เอสยูวีพลังไฟฟ้าสัญชาติเกาหลีใต้คันนี้ สามารถชาร์จถึงระดับ 80 % (จากแบทเตอรี 10 %) ในเวลา 24 นาทีเท่านั้น ตามข้อมูลที่ผู้ผลิตระบุมา ใช้เวลาเพียง 15 นาทีของการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง สามารถแล่นได้ไกลถึง 240 กม. เลยทีเดียว
การทำตลาดในฝั่งประเทศยุโรปอาจยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน แต่จุดเด่นต่างๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้บ่งบอกว่าการทำตลาดในหลากหลายภูมิภาค คือ เรื่องที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานต่างๆ และเชื่อมต่อกับศูนย์บริการแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ (มีรายละเอียดในส่วนถัดไป) การอัพเดทซอฟท์แวร์ผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกเวลา ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติผ่านรีโมทคอนทโรล และเป็นครั้งแรกของค่ายรถแห่งนี้กับชุดเสริมสมรรถนะของตัวรถ เพิ่มแรงบิดสูงสุดอีก 10.2 กก.-ม. กับการจ่ายเพิ่มเพียง 700 ยูโร ช่วยให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ในระดับ 5 วินาที เลยทีเดียว ขณะที่มิติตัวถังของรถยนต์ฟฟ้าคันนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร ภายใต้ตัวถังแบบเอสยูวี พละกำลังที่เพิ่มขึ้นยังช่วยให้การขับขี่บนทางสมบุกสมบันทำได้ไหลลื่นขึ้นอีกด้วย ระบบรองรับที่เผื่อเหลือความนุ่มนวลเอาไว้อย่างพอเหมาะ การเสริมแผ่นกันกระแทกข้างใต้ตัวถัง และความสูงที่มากพอ ทำให้แรงบิดเพิ่มเติมที่ 10.2 กก.-ม. มีประโยชน์มากกว่าที่คิด แม้ไม่ต้องใช้งานตลอดเวลา แต่ก็พร้อมเสมอหากจำเป็น
รุ่น AWD ข้อมูลจากผู้ผลิต
เครื่องยนต์
• มอเตอร์ไฟฟ้า วางด้านหน้า แบบแม่เหล็กไฟฟ้า, มอเตอร์ไฟฟ้า วางด้านหลัง แบบแม่เหล็กไฟฟ้า
• กำลังสูงสุด 385 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 61.2 กก.-ม.
ชุดแบทเตอรี
• ลิเธียม-ไอออน 99.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ระบบส่งกำลัง
• ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
• ชุดควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า
สมรรถนะ
• ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.0 วินาที
• อัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 22.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ระยะทำการสูงสุด 497 กม.
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
• ระยะฐานล้อ 3,100 มม.
• ความยาว 5,010 มม. กว้าง 1,980 มม. สูง 1,750 มม.
• น้ำหนักโดยรวม ไม่ระบุ
ราคา
• ไม่ระบุ
บึกบึนจัดเต็ม
เส้นสายของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มีเอกลักษณ์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน จากการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล และเรียบเนียน กับความรู้สึกแข็งแกร่ง และความบึกบึน (เช่น ส่วนขอบซุ้มล้อขนาดใหญ่) รวมถึงขนาดตัวที่ใหญ่โตของ EV9 ที่มีความยาวกว่า 5 ม. (กับความสูงที่ 1,750 มม.) ด้านหน้าโดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าที่ล้ำสมัย เป็นเอกลักษณ์ใหม่ของค่ายรถแห่งนี้ แรงเสียดทานอากาศที่ 0.28 เป็นผลดีจากการออกแบบตัวถังตามหลักอากาศพลศาสตร์หลายจุด รวมถึงส่วนโค้งเว้าตามจุดต่างๆ อย่างเหมาะสม
ห้องโดยสาร 6 ที่นั่ง 7 ที่นั่ง ความสะดวกสบายที่เลือกได้
รูปแบบห้องโดยสารของ EV9 มีทางเลือก 2 แบบด้วยกัน นั่นคือ 6 หรือ 7 ที่นั่ง โดยคาดว่าในภูมิภาคยุโรปจะมีทางเลือกเพียงแบบเดียว นั่นคือ 7 ที่นั่ง เนื่องจากเป็นการจัดวางเบาะนั่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยรูปแบบ 6 ที่นั่ง จะเน้นที่ความกว้างขวาง และการใช้งานของเบาะที่หลากหลาย ตัวเบาะมีที่วางแขนในแถวที่ 1 และ 2 การใช้งานของตัวเบาะสามารถเลือกออพชันได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบเน้นความผ่อนคลาย สะดวกสบาย เทียบเท่าที่นั่งราคาแพงของเครื่องบินโดยสาร หากเลือกติดตั้งเบาะที่ปรับแต่งได้หลายรูปแบบ เบาะแถวที่ 2 จะสามารถปรับหมุนไปข้างหลังได้ โดยจะหันหน้าเข้ากับเบาะแถวที่ 3 ช่วยให้มีพื้นที่เหยียดขามากยิ่งขึ้น ส่วนพื้นที่ใช้สอยโดยรวมมีความกว้างขวางอย่างเหลือเฟือ เป็นผลดีจากระยะฐานล้อที่มากพอที่ 3,010 มม. วัสดุที่ใช้กับเบาะนั่งเน้นความสะดวกสบายของผู้โดยสาร พร้อมคุณภาพการประกอบที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่แผงคอนโซลหน้าถูกออกแบบให้มีลักษณะการจัดเรียงในแนวนอน มีความเรียบเนียน และปุ่มใช้งานรูปแบบดิจิทอลติดตั้งในหน้าจอ 3 ชุดด้วยกัน ได้แก่ จอภาพแผงหน้าปัด และสำหรับระบบความบันเทิง มีขนาด 12.3 และ 5 นิ้ว แยกสัดส่วนชัดเจน แยกการใช้งานอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มใช้งานระบบปรับอากาศ โดยปุ่มกดถูกติดตั้งอย่างแนบเนียนภายใต้พื้นผิวลายไม้ บริเวณเหนือช่องแอร์
นอกจากนี้ ปุ่มใช้งานระบบเกียร์ถูกติดตั้งด้านหลังพวงมาลัย ช่วยให้มีพื้นที่บริเวณตรงกลางของคอนโซลมากยิ่งขึ้น โดยเป็นพื้นที่ของที่วางแก้ว และแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สายบริเวณตรงกลาง
ปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิม มีเพียงไม่กี่จุดอยู่บนก้านพวงมาลัย (1) และบริเวณข้างใต้ช่องแอร์ (สำหรับปรับความดังของเครื่องเสียง และระบบปรับอากาศ) บางระบบสามารถใช้งานผ่านหน้าจอหลักได้เช่นกัน (2) ตำแหน่งการติดตั้งที่ซ่อนอยู่หลังพวงมาลัย นั่นคือ ปุ่มใช้งานของโหมดเกียร์ (3) ขณะที่ปุ่มอื่นๆ จะติดตั้งอย่างแนบเนียนตื้นผิวของคอนโซลหน้า (4)
ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็ม คือ 497 กม. สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา และใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการชาร์จ ได้ระยะทางที่ 239 กม.
การตอบสนองที่มั่นคง
การมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ระบบรองรับแบบมัลทิลิงค์ ระยะฐานล้อที่ยาว และระบบช่วยเหลืออีเลคทรอนิค ทั้งหมดที่ว่ามา ช่วยให้อาการโคลงมีเพียงเล็กน้อย และเสริมคุณสมบัติความมั่นคงของตัวรถตามแบบฉบับค่ายรถสัญชาติเกาหลีใต้