ทดสอบ(formula)
HONDA CR-V E:HEV ES
HONDA CR-V คือ เอสยูวี สไตล์ครอสส์โอเวอร์ที่ทำตลาดมาอย่างต่อเนื่องถึง 5 รุ่นด้วยกัน รุ่นล่าสุด ถึงเวลาเพิ่มเติมความทันสมัยกับขุมพลังไฮบริด นับเป็นครั้งแรกของสายพันธุ์กับการใช้เครื่องยนต์ไฮบริดของค่าย HONDA มีชื่อเรียกว่า E:HEV โดยรุ่นที่เรานำมาทดสอบ คือ ตัวรองทอพ ES ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า มาดูกันว่าระบบไฮบริดของค่ายรถแห่งนี้จะทำได้ดีแค่ไหน ทั้งสมรรถนะ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ภายใต้ตัวถังแบบ เอสยูวี ขนาดใหญ่เช่นนี้
EXTERIOR ภายนอก
เส้นสายของ HONDA CR-V (ฮอนดา ซีอาร์-วี) รุ่นล่าสุด ยังคงเน้นสันเหลี่ยมที่บ่งบอกความบึกบึน และขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ ต่อยอดการออกแบบจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด จุดเปลี่ยนแปลง คือ การออกแบบให้กระจังหน้ามีขนาดใหญ่กว่าเดิม ช่วยให้ตัวรถส่วนหน้ามีความดุดัน และดูใหญ่โตยิ่งขึ้น ไฟหน้าทรงเรียวเฉียงต่อเนื่องกับกระจังหน้า สันเหลี่ยมบนกันชนหน้าช่วยเพิ่มความสปอร์ทได้พอสมควร ส่วนของซุ้มล้อที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ทำให้ตัวรถดูแข็งแกร่งราวกับตัวลุยขนานแท้ ล้อแมกรมดำ ขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 235/45 R18 ของรุ่นรองทอพอย่าง ES (อีเอส) พื้นที่ของซุ้มล้อยังมีเหลือเฟือ หากต้องการล้อแมกใหญ่กว่านี้จากโรงงานต้องหันไปเล่นรุ่นทอพ RS (อาร์เอส) ที่ใช้ล้อแมกขนาด 19 นิ้ว ขณะที่เสา เอ ส่วนหลังคา และส่วนกระจกประตู มีขนาดใหญ่ เสาแต่ละตำแหน่งทำมุมตั้งชัน เพิ่มเหลี่ยมสันให้กับตัวรถอีกทาง น่าแปลกใจเล็กน้อยที่ขอบกระจกใช้วัสดุโครเมียม ทั้งที่ตัวรถหลายจุดเน้นโทนสีดำ บริเวณเสา ดี หักมุมขึ้นเล็กน้อยรับกับส่วนมุมของชุดไฟท้ายที่จัดเรียงในแนวตั้ง ต่อเนื่องมาด้านล่างบริเวณประตูบานท้ายจะเป็นชุดไฟแนวนอน รูปทรงคล้ายกับรถเล็กร่วมค่ายอย่าง HONDA CITY (ฮอนดา ซิที)
ในแง่ของมิติตัวถังเบื้องต้น HONDA CR-V รุ่นนี้มีความยาว 4,691 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. ทำให้มีความใหญ่โตกว่ารุ่นก่อนหน้านี้แทบทุกสัดส่วน ขนาดตัวถังโดยรวมใหญ่กว่าคู่แข่งอย่าง MAZDA CX-5 (มาซดา ซีเอกซ์-5) (ความยาว 4,536 มม. และระยะฐานล้อ 2,645 มม.) แต่ยังเล็กกว่ารุ่นใหญ่สุด คือ MAZDA CX-8 (มาซดา ซีเอกซ์-8) (ความยาว 4,823 มม. และระยะฐานล้อ 2,830 มม.) ส่วนอีกหนึ่งคู่แข่งสัญชาติจีน นั่นคือ HAVAL H6 HEV (ฮาวัล เอช 6 เอชอีวี) มีขนาดตัวโดยรวมที่ใกล้เคียงกัน (ความยาว 4,683 มม. และระยะฐานล้อ 2,689 มม.) เน้นจุดเด่นเรื่องออพชัน และราคาที่ย่อมเยากว่า
INTERIOR ภายใน
การออกแบบห้องโดยสารของ CR-V รุ่นล่าสุด ยังคงเป็นแนวทางใหม่ในปัจจุบันจากค่าย HONDA องค์ประกอบของคอนโซลหน้าชวนให้นึกถึงซีดานร่วมค่ายอย่าง CIVIC (ซีวิค) นั่นคือ การเน้นความเรียบหรู เสริมความภูมิฐานให้กับห้องโดยสารด้านหน้า โดยเฉพาะการออกแบบให้ช่องแอร์ถูกซ่อนเอาไว้หลังวัสดุที่เป็นตะแกรงทรงรังผึ้ง การปรับทิศทางของลมแอร์จะต้องทำผ่านแท่งทรงกลมที่ยื่นออกมา ปุ่มใช้งานระบบปรับอากาศจำนวน 3 อัน มีการแสดงผลแบบดิจิทอลตรงกลาง พร้อมปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมอยู่โดยรอบ ข้อดี คือ การใช้งานที่สะดวกกว่าการใช้งานผ่านหน้าจอทั้งหมดเหมือนที่รถยนต์สมัยใหม่บางรุ่นออกแบบมา แต่ข้อเสียเล็กน้อย คือ ความทันสมัยที่ดูจะถูกลดทอนลงมาเช่นกัน ขณะที่จอแสดงผลหลักด้านบนของคอนโซลหน้ามีขนาด 10.3 นิ้ว ความละเอียดค่อนข้างน่าพอใจ แต่น่าจะมีขนาดใหญ่กว่านี้ได้ คันเกียร์ทรงยาว ด้านข้างเป็นปุ่มใช้งานระบบเบรคมือไฟฟ้า และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และโหมดการขับขี่ต่างๆ ยังดูคุ้นเคยและใช้งานได้สะดวก พวงมาลัยวงใหญ่ ตรงกลางเป็นรูปทรง 6 เหลี่ยมโค้ง และแผงหน้าปัดแบบดิจิทอลแสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการส่งกำลังของระบบไฮบริด
สิ่งที่น่าพอใจของ HONDA CR-V ทุกรุ่น รวมถึงรุ่นล่าสุดที่ทำได้ดีขึ้น คือ ความกว้างขวางของเบาะนั่งที่น่าพอใจทุกตำแหน่ง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เบาะคู่หน้า (ปรับทิศทางด้วยไฟฟ้า) โอบกระชับสรีระอย่างพอเหมาะ การตัดเย็บทำได้ประณีต เบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 จุดที่น่าเสียดายสำหรับรุ่นไฮบริด E:HEV (อี: เอชอีวี) คือ จำนวนของเบาะนั่งจะมีแค่ 5 ตำแหน่งเท่านั้น หากต้องการเบาะนั่ง 3 แถว จำนวน 7 ตำแหน่ง จะเป็นทางเลือกเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร เท่านั้น แม้พอจะเข้าใจได้ว่าชุดแบทเตอรีอาจกินเนื้อที่บางส่วนของห้องโดยสารส่วนท้าย แต่ทางผู้ผลิตน่าจะหาทางออกแบบให้รุ่นไฮบริดมีทางเลือกเบาะ 7 ตำแหน่งด้วย จะเป็นการใช้งานที่ครบเครื่องยิ่งขึ้น จุดนี้เองที่ทำให้เราพิจารณาให้คะแนนในห้องโดยสารที่ 3 ดาว
ENGINE เครื่องยนต์
ก่อนหน้านี้ HONDA CR-V จะใช้เครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก (ขนาด 2.0 และ 2.4 ลิตร) มาจนถึงรุ่นก่อนหน้านี้ มีการเพิ่มทางเลือกด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร และแล้วได้เวลาของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กับขุมพลังตามสมัยนิยมของค่าย นั่นคือ ระบบไฮบริด E:HEV กับการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ มีความใกล้เคียงกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (ยกเว้นเพียงช่วงการใช้ความเร็วสูงคงที่) รายละเอียดของขุมพลังตามนี้ คือ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 148 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 18.7 กก.-ม. ส่งกำลังร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง สูงสุด 184 แรงม้า คิดเป็นกำลังทั้งระบบที่ 207 แรงม้า ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติแปรผันสำหรับการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า คู่เปรียบเทียบสมรรถนะ คือ อีกหนึ่ง เอสยูวี หรู หน้าใหม่ มาแรง สัญชาติจีน นั่นคือ HAVAL H6 HEV (รุ่นก่อนปรับโฉมล่าสุด) กับระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร ส่งกำลังร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 243 แรงม้า มาดูสมรรถนะในแต่ละหัวข้อกันเลย
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (ภายใต้โหมด NORMAL ของแต่ละคัน) HONDA CR-V ทำได้ที่ 8.3 วินาที ส่วน HAVAL H6 HEV (ฮาวัล เอช 6 เอชอีวี) คือ 9.3 วินาที ในช่วงความเร็วตีนต้น CR-V มีความได้เปรียบจากการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แม้ตัวถังขนาดใหญ่ แต่อัตราเร่งก็ทำได้ฉับไว ไม่กระแทกกระทั้น แต่เน้นการส่งกำลังที่ไหลลื่น ขณะที่ทาง H6 HEV มีช่วงรอการตอบสนองของเครื่องยนต์เล็กน้อย อัตราเร่งช้ากว่ากันพอประมาณ มาลองกันช่วงความเร็วตีนปลายบ้าง CR-V ทำตัวเลขออกมาได้ที่ 29.9 วินาที (ที่ความเร็ว 173.1 กม./ชม.) ในช่วงความเร็วสูง การส่งกำลังกลับทำได้ดีเกินคาด มอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีอาการแผ่วช่วงความเร็วตีนปลาย เป็นจุดที่ทำได้ดีไม่แพ้เครื่องยนต์สันดาป การส่งกำลังทำได้ต่อเนื่องดีมาก ขณะที่ H6 HEV ทำเวลากระชั้นชิดเข้ามาเล็กน้อย คือ 30.6 วินาที (ที่ความเร็ว 163.1 วินาที) จากตัวเลขกำลังสูงสุดทั้งระบบที่มากกว่า แต่ในแง่การจัดสรรการส่งกำลัง ทางค่าย HONDA ยังทำได้ดีกว่า
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. HONDA CR-V ทำได้ตามนี้ คือ 31.5/17.2/13.1/12.1 กม./ลิตร ในช่วงความเร็วต่ำ คุณสมบัติเครื่องยนต์ไฮบริดถูกนำมาใช้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีหลายครั้งที่ขุมพลังสามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนได้ อย่างไรก็ตามเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นมาถึงช่วง 80 กม./ชม. ขึ้นไป การส่งกำลังต้องอาศัยการชาร์จจากเครื่องยนต์สันดาปมากขึ้น รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปล้วนๆ ตั้งแต่ช่วง 100 กม./ชม. ขึ้นไป อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอาจเพิ่มมากขึ้นตามความเร็ว แต่ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้สำหรับ เอสยูวี ขนาดใหญ่เช่นนี้ (รวมถึงอัตราเร่งที่ทำได้) ขณะที่ HAVAL H6 HEV มีตัวเลขที่ 28.4/22.0/13.8/10.6 กม./ลิตร มีความได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันอย่างผสมผสาน โดยช่วงความเร็ว 80 กม./ชม. ทำได้ดีกว่าพอสมควร และสูสีในช่วงความเร็ว 100 กม./ชม. ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับของ HONDA CR-V ถูกปรับแต่งให้เน้นความหนึบที่พอเหมาะ ให้อารมณ์การขับขี่ราวกับ เอสยูวี หรู ราคาหลายล้านบาท เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำได้ดีขึ้นตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้ มาถึงรุ่นล่าสุด ถือว่าทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ การบังคับควบคุม และการตอบสนองของระบบรองรับมีความลงตัว ทั้งในช่วงความเร็วต่ำ และช่วงความเร็วสูง รวมถึงการเข้าโค้ง อาการโคลงมีให้สัมผัสเพียงเล็กน้อย ไม่ส่งผลต่อการขับขี่โดยรวม (อย่าลืมว่า นี่คือ รุ่นรองทอพ ES) การแล่นผ่านถนนที่มีความขรุขระสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของชุดแบทเตอรีไม่ส่งผลต่อคุณลักษณะการขับขี่มากนัก การขับขี่ที่ดีของ CR-V รุ่นนี้ คือ อีกหนึ่งจุดที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ส่วน HAVAL H6 HEV มีการขับขี่ที่ดีเช่นกัน แต่โดยรวมจะยังเน้นความนุ่มนวลมากกว่า
เอสยูวี + ไฮบริด แสนกลมกล่อม
การเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของ HONDA CR-V E:HEV (ราคา 1,589,000 บาท) แม้เป็นตัวรองรหัส ES ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ และการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทำได้ดีอย่างน่าพอใจ ภายใต้ตัวถังขนาดใหญ่ สันเหลี่ยมบึกบึน ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งได้สบายทุกตำแหน่ง พร้อมออพชันครบครันกว่าเดิม ทั้งในแง่ของระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ทันสมัย (แม้คู่แข่งบางรายให้ออพชันที่มากกว่านี้ก็ตาม) จะมีจุดสังเกตบ้าง คือ ตัวเลือกของจำนวนเบาะนั่งที่ถูกบังคับให้มีแค่ 5 ตำแหน่งสำหรับรุ่น ไฮบริด E:HEV หากมีทางเลือกเบาะนั่ง 7 ตำแหน่ง จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และมีความครบเครื่องมากกว่าเดิม