ทดสอบ
JAECOO 6 EV & OMODA C5 EV
บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดบแรนด์ OMODA JAECOO (โอโมดา เจคู) และนำเสนอรถไฟฟ้า 2 สไตล์ นั่นคือ OMODA C5 EV (โอโมดา ซี 5 อีวี) และ JAECOO 6 EV (เจคู 6 อีวี) ที่มีความแตกต่างทั้งเส้นสาย และการใช้งานโดยรวม จากค่าย CHERY (เชอรี) บริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน เราจึงมาทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นพร้อมกัน
EXTERIOR ภายนอก
JAECOO 6 EV หรือ CHERY ICAR 03 (เชอรี ไอคาร์ 03) ลงตัวในสไตล์ตัวลุย สันเหลี่ยมรอบคัน หนึ่งเดียวในกลุ่ม COMPACT CROSSOVER SUV
มิติตัวรถมีขนาดความยาว ความกว้าง และความสูงของรถ 4,406/1,910/1,715 มม. ตามลำดับ โดยมีระยะฐานล้อ 2,715 มม. เทียบเท่า BYD ATTO 3 (บีวายดี อัตโต 3) 4,455/1,875/1,615 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. GAC AION Y PLUS (จีเอซี ไอออน วาย พลัส) 4,535/1,870/1,650 มม. ฐานล้อ 2,750 มม. และ TOYOTA COROLLA CROSS (โตโยตา โคโรลลา ครอสส์) 4,460/1,825/1,620 มม. ฐานล้อ 2,640 มม.
JAECOO 6 EV มี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น LONG RANGE 2WD (ลอง เรนจ์ ทูวีลดไรฟ) และรุ่นทอพ LONG RANGE 4WD (ลอง เรนจ์ โฟร์วีลดไรฟ) ที่เรานำมาทดสอบจะใช้ล้อแมก 19 นิ้ว ยาง GITI CONTROL P10 (จีที คอนทโรล พี 10) ขนาด 225/55 R19 และติดตั้งราวหลังคามาให้ด้วย
ไฟหน้าปรับแสงอัจฉริยะแบบ MATRIX ADAPTIVE ที่จะควบคุมไฟ LED แต่ละดวง ภายใต้โคมไฟหน้า ไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างกลางวันรูปทรง “I” ตามโลโกของบแรนด์ ICAR เหมือนกับ CHERY ICAR 03
ด้านหลังสะดุดตากับกล่องใบเล็กไว้ใส่ของ และไฟท้ายแนวตั้ง รูปทรง “I” เหมือนกับด้านหน้า นอกจากนี้ ประตูท้ายยังใช้การออกแบบเปิดด้านข้างพร้อมฟังค์ชันดูดไฟฟ้า
OMODA C5 EV หรือ OMODA E5 (โอโมดา อี 5) ครอสส์โอเวอร์มาดสปอร์ท ด้านหน้าของตัวรถมีความโฉบเฉี่ยว ที่ปรับตัวจาก OMODA 5 ปิดทึบกระจังหน้าใส่จุดชาร์จไฟฟ้าไว้ด้านในแบบเดียวกับรถไฟฟ้าที่ยกเครื่องยนต์ออก หลังคาลาดเทแบบสปอร์ทคูเป
มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง (4,424/1,830/1,588 มม.) ฐานล้อยาว 2,630 มม. เล็กกว่า GEELY EX5 (จีลี อีเอกซ์ 5) (4,615/1,901/1,670 มม.) ฐานล้อยาว 2,750 มม. NETA X (เนทา เอกซ์) (4,619/1,860/1,628 มม.) ฐานล้อ 2,770 มม.
ใหญ่กว่า HONDA HR-V (4,385/1,790/1,590 มม.) ฐานล้อ 2,607 มม. และ TOYOTA YARIS CROSS (โตโยตา ยารีส ครอสส์) (4,310/1,770/1,615 มม.) ฐานล้อ 2,620 มม.
OMODA C5 EV ที่จำหน่ายเป็นตัว LONG RANGE มีให้เลือก 2 เกรด คือ PLUS (พลัส) และ ULTIMATE (อัลทิเมท) ที่เพิ่มไฟส่องสว่างที่พื้นติดตั้งบริเวณกระจกมองข้าง ไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบวิ่ง หลังคาซันรูฟ ราวหลังคา และตกแต่งบริเวณขอบประตูด้านนอกด้วยสีดำเงา
ทั้ง 2 เกรดใช้ล้อแมก 18 นิ้ว แบบปิดทึบ ยาง KUMHO ECSTA PS71 (คัมโฮ เอคสตา พีเอส 71) ขนาด 215/55 R18
INTERIOR ภายใน
ภายในห้องโดยสารที่เรียบง่าย และแข็งแรง พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว ชิพ 8155 ในตัว ขณะที่ด้านหน้าผู้ขับมีจอแผงหน้าปัดเพิ่มเติม (มีขนาดค่อนข้างเล็ก)
วีดีโอพาโนรามา 540 องศา, ภาพมุมอับ (โซนที่มองไม่เห็นด้านข้าง), ปุ่ม NFC, พาโนรามาซันรูฟแบบเปิดได้, กระจกกันเสียงหลายชั้นด้านหน้า, พวงมาลัยแบบปรับอุณหภูมิได้, ด้านหน้าชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 50 วัตต์, เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับด้วยไฟฟ้า, ระบบอุ่นไฟฟ้า, บันทึกความจำปรับไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ/นวดตัวที่เบาะด้านคนขับ, ที่รองน่องสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ 64 สี และเครื่องเสียง INFINITY (เฉพาะรุ่น 4WD) พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ที่ให้คุณภาพเสียงคมชัด และมีมิติ
ส่วนระดับเสียงในห้องโดยสาร ตัวรถรูปทรงกล่องส่งผลมาก จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 62/65/68/71 เดซิเบล มีเสียงรบกวนมากกว่า AION Y PLUS (60/61/64/66 เดซิเบล) BYD ATTO 3 (59/61/64/67 เดซิเบล) รวมถึงรถยนต์ไฮบริดอย่าง TOYOTA COROLLA CROSS (61/62/65/69 เดซิเบล)
ห้องโดยสารหรูหราเสริมการใช้งานตามแบบฉบับรถไฟฟ้ายุคปัจจุบัน จอแสดงผลแบบจอกว้างขนาด 24.6 นิ้ว ยาวตั้งแต่ตรงกลางของคอนโซลหน้าจนถึงด้านหน้าของผู้ขับ แยกสัดส่วนระบบความบันเทิง และแสดงผลการขับขี่ พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 50 วัตต์ ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 เฉดสี
เกรด ULTIMATE ใส่เครื่องเสียง SONY (โซนี) พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง กล้องแสดงภาพรอบทิศทางแบบ 540 องศา กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงรบกวนภายนอก และกระจกแบบ PRIVACY GLASS
ส่วนระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 61/63/67/69 เดซิเบล ป้องกันเสียงรบกวนไม่ดีเท่า NETA X (49/52/55/57 เดซิเบล) BYD ATTO 3 (59/61/64/67 เดซิเบล) และ HONDA HR-V (55/56/64/66 เดซิเบล)
ENGINE เครื่องยนต์
2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวทันเมตร/22.4 กก.ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 10.5 วินาที ความจุแบทเตอรีไฟฟ้าแรงสูง 65.69 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางการขับเคลื่อน 426 กม. (มาตรฐาน NEDC) 371 กม. (มาตรฐาน WLTP)
4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังรวม 205 กิโลวัตต์ (หน้า 70/หลัง 135) หรือ 279 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวทันเมตร (หน้า 165/หลัง 220) หรือ 39.3 กก.ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 6.5 วินาที ความจุแบทเตอรีไฟฟ้าแรงสูง 69.77 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางการขับเคลื่อน 418 กม. (มาตรฐาน NEDC) 364 กม. (มาตรฐาน WLTP)
ความเร็วสูงสุดของ JAECOO 6 EV ทั้ง 2 รุ่น อยู่ที่ 150 กม./ชม. และใช้แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ฟอสเฟท (LFP) รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ และรองรับการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด (โดยประมาณ) 80 กิโลวัตต์ เท่ากัน
จากผลทดสอบด้วยดาทรอน พบว่า JAECOO 6 EV LONG RANGE 4WD อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 6.4 วินาที มาดีจนถึงความเร็ว 150 กม./ชม. ก่อนถึงระยะ 400 ม. ในเวลา 14.8 วินาที ช่วงตีนปลายกับระยะ 0-1,000 ม. ทำเวลาได้ 28.8 วินาที 0-100 กม./ชม.
ทำได้ดีกว่า AION Y PLUS (10.5/17.7/32.3 วินาที) BYD ATTO 3 (8.2/16.2/29.4 วินาที) และ TOYOTA COROLLA CROSS (14.3/19.6/35.6 วินาที)
ส่วนอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ 60-100 และ 80-120 กม./ชม. ทำอัตราเร่งได้ที่ 3.0 และ 3.8 วินาที
ดีกว่า AION Y PLUS (5.3/7.0 วินาที) BYD ATTO 3 (3.9/4.9 วินาที) และ HONDA HR-V (ฮอนดา เอชอาร์-วี) (5.8/8.8 วินาที) TOYOTA COROLLA CROSS (7.6/10.5 วินาที)
OMODA C5 EV ทั้ง 2 รุ่นย่อยเป็นตัว LONG RANGE ใช้มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวทันเมตร/34.7 กก.ม. แบทเตอรีความจุ 61.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำเวลาที่ 7.2 วินาที ระยะ 0-400 ม. ในเวลา 15.4 วินาที ระยะ 0-1,000 ม. ทำได้ที่ 28.2 วินาที (ที่ความเร็ว 175.3 กม./ชม.) ดีกว่า BYD ATTO 3 ที่มีแรงบิดน้อยกว่าเล็กน้อย 1.0/0.6/1.2 วินาที เร็วกว่า NETA X ที่มีกำลังน้อยกว่าถึง 2.4/1.8/3.3 วินาที และทิ้งห่าง HONDA HR-V ถึง 3.8/2.5/5.7 วินาที
สำหรับอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. OMODA C5 EV คือ 3.3 และ 4.3 วินาที ตอบสนองคันเร่งเร็วกว่า BYD ATTO 3 อยู่เพียง 0.6/0.6 วินาที เร็วกว่า NETA X ถึง 1.2/1.6 วินาที และ HONDA HR-V ถึง 2.5/4.5 วินาที
SUSPENSION ระบบรองรับ
JAECOO 6 EV มีระบบรองรับที่หนึบนุ่มในระดับที่พอเหมาะ การขับบนทางเรียบมีความนิ่ง และควบคุมได้ดี แทบจะลืมไปเลยว่า นี่คือ รถยนต์ไฟฟ้าสายลุย โดยรุ่นทอพจะมีโหมดการขับขี่บนทางลุยเพิ่มเติม ระบบการขับขี่แบบทุกสภาพถนน ทำให้การขับออฟโรดง่ายขึ้น ผู้ขับขี่สามารถสลับโหมดการขับขี่ ทั้ง 6 โหมด ECO, NORMAL, SPORT, SNOW, MUD และ SAND ผ่านปุ่มควบคุม (เฉพาะรุ่น 4WD)
การลุยทางสมบุกสมบันอาจต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะชุดแบทเตอรีอยู่ใต้ท้องรถ แต่การส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ทำได้ดี สามารถลุยทางสมบุกสมบันแบบพื้นโคลนเลน พื้นทราย หรือการไต่เนินชัน สามารถลุยได้
จากผลทดสอบเบรค ที่ความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. ใช้ระยะเบรคเพียง 14.8/26.1/40.8 ม. ทำได้ดี ดีกว่า AION Y PLUS (15.2/26.9/42.1 ม.) และ BYD ATTO 3 (15.2/27.4/42.5 ม.) พอๆ กับ HONDA HR-V (14.7/26.2/40.5 ม.) และ TOYOTA COROLLA CROSS (15.0/25.4/40.0 ม.)
ระบบรองรับนุ่มนวลกว่าหน้าตาที่ดูสปอร์ท ทำให้การขับขี่ไม่ตอบโจทย์คนหนุ่มสาว ส่วนระยะเบรคจากการทดสอบ ที่ความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. ได้ตัวเลข 14.5/25.6/39.3 ม. ถือว่าทำได้ดี ใช้ระยะเบรคสั้นกว่า BYD ATTO 3 0.7/1.8/3.2 ม. NETA X 0.8/1.4/3.4 ม. และ HONDA HR-V เพียง 0.2/0.6/1.2 ม.
OMODA C5 EV เป็นอีกทางเลือกของครอสส์โอเวอร์ไฟฟ้า 100 % ที่มีรูปทรงสปอร์ทแตกต่างไปจากคู่แข่ง กับอัตราเร่งดีทันใจ เน้นการใช้งานทั่วไป โดยยังมีความอเนกประสงค์ ห้องโดยสารโดยรวมดูไม่ต่างไปจาก OMODA 5 หรือ OMODA C5 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.6 ลิตร ประกอบกับราคาอยู่ในช่วงที่ตัวเลือกหลากหลาย โดยราคา 899,000 บาท ในเกรด PLUS และ 949,000 บาท ในเกรด ULTIMATE
JAECOO 6 EV
JAECOO 6 EV เป็นครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีไฟฟ้าสายลุย ที่นอกจากจะเน้นสันเหลี่ยม ยังมีแรงบิดสูง พละกำลังดี ระบบรองรับที่ใช้งานบนทางเรียบได้ดี และโหมดขับเคลื่อนสำหรับทางสมบุกสมบันแบบเอสยูวี แต่การใช้งานต่างๆ ต้องทำผ่านหน้าจอทั้งหมด ไม่มีปุ่มใช้งานที่แยกออกมา ส่วนราคาที่ 1,249,000 บาท ของรุ่น LONG RANGE 4WD กับสิ่งที่ได้ก็ถือว่าไม่สูง แต่ถ้าเลือกเท่ ไม่เน้นลุย 1,099,000 บาท รุ่น LONG RANGE 2WD ก็น่าจะพอ
OMODA C5 EV
ประกอบกับ OMODA C5 EV LONG RANGE ใช้แบทเตอรีความจุ 61.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็มถึง 505 กม. (NEDC) แต่การรองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบ DC สูงสุดเพียง 80 กิโลวัตต์เท่านั้น ทำให้ต้องใช้เวลาในการชาร์จนานกว่ารถไฟฟ้าระดับเดียวกัน