ทดสอบ
ISUZU 2.2 DDI MAXFORCE D-MAX HI-LANDER/MU-X RS พิคอัพตัวสูง…เอสยูวีตัวหล่อ ขุมพลังใหม่ เกียร์ใหม่
4 WHEELS ทดสอบ ISUZU 2.2 DDI MAXFORCE (แมกซ์ฟอร์ศ) 2 รูปแบบ 2 รุ่น พิคอัพ 4 ประตู ยกสูง HI-LANDER (ไฮ-แลนเดอร์) รุ่น 2.2 DDI M และเอสยูวีตัวหล่อ MU-X THE NEXT PEAK RS (มิว-เอกซ์ เธอะ เนกซ์ พีค อาร์เอส) รุ่น 4x2 2.2 RS พิสูจน์พละกำลัง เครื่องยนต์ใหม่ ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะใหม่ ตัวรองทอพ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง เปรียบผลกับคู่แข่ง
EXTERIOR ภายนอก
ไฟหน้าดีไซจ์นเป็นเอกลักษณ์ ISUZU VISION BI-LED พร้อม MULTIFUNCTIONAL DAYLIGHT ทำหน้าที่ทั้ง DAYLIGHT ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว กระจังหน้าแบบ 3-DIMENSION สีเงิน และเทาเข้ม (SILKY SILVER/DARK GRAY)
กันชนหน้ามีช่องลม AIR CURTAIN เน้นแอโรไดนามิค ลดแรงต้านอากาศตามแบบรถสปอร์ท
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เท่ากับ V-CROSS (วี-ครอสส์) แต่ไม่ดุดัน และยาง 265/60R18 ไฟท้ายแบบเดิม
มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 5,280/1,870/1,790 มม. ระยะฐานล้อ 3,125 มม. และมีระยะห่างจากพื้น 240 มม. สั้นกว่า FORD RANGER (ฟอร์ด เรนเจอร์) (5,370/1,918/1,884 มม. กับ 3,270/235 มม.)
ใกล้เคียงกับ MITSUBISHI TRITON (มิตซูบิชิ ทไรทัน) (5,320/1,865/1,795 มม. กับ 3,130/222 มม.) NISSAN NAVARA (นิสสัน นาวารา) (5,260/1,875/1,840 มม. กับ 3,150/225 มม.) รวมทั้ง TOYOTA HILUX REVO (โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว) (5,325/1,855/1,815 มม. กับ 3,085/217 มม.)
MU-X RS (มิว-เอกซ์ อาร์เอส) เอสยูวีสายหล่อ ดูทันสมัย ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าจรดสเกิร์ทล่าง รวมถึงดีไซจ์นใหม่ ทั้งฝาท้าย และชุดไฟท้าย มาพร้อมสัญลักษณ์ RS ที่ทำจากวัสดุ BLACK CHROME
มิติภายนอก ยาว/กว้าง/สูง 4,850/1,870/1,875 มม. และฐานล้อยาว 2,855 มม. กระชับกว่า FORD EVEREST (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) (4,914/1,923/1,842 ม. และ 2,900 มม.)
พอๆ กับ NISSAN TERRA (นิสสัน แตร์รา) (4,890/1,865/1,865 มม. และ 2,850 มม.)
และอวบกว่า MITSUBISHI PAJERO SPORT (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท) (4,825/1,815/1,835 มม. และ 2,800 ม.) TOYOTA FORTUNER (โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์) (4,795/1,855/1,835 มม. และ 2,750 มม.)
INTERIOR ภายใน
ภายในสีดำ หน้าจอ INTEGRATED MID ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ INFOTAINMENT DISPLAY แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ใช้งานง่าย รองรับระบบ ANDROID AUTO และ APPLE CAR PLAY แบบไร้สาย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ DUAL ZONE ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย/ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM2.5 ช่องชาร์จแบบ USB-C ทั้งที่นั่งด้านหน้า และด้านหลัง
เบาะนั่งมาพร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน ระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ในตำแหน่งที่นั่งคนขับ
ส่วนระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 52/56/59/63 เดซิเบล เป็นรอง FORD RANGER (44/48/53/59 เดซิเบล) แต่ดีกว่า NISSAN NAVARA (55/60/65/68 เดซิเบล) TOYOTA HILUX REVO (58/62/65/68 เดซิเบล) และ MITSUBISHI TRITON (59/62/63/66 เดซิเบล)
ภายในยกระดับความสบายสไตล์พรีเมียม หรูหรา มีมิติ เน้นโทนสีดำ เสริมด้วยเส้นโครเมียม ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ DUAL ZONE ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย/ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM2.5
หน้าจอ INTEGRATED MID ขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลหลายรูปแบบ และเชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอระบบสัมผัส INFOTAINMENT DISPLAY ขนาด 9 นิ้ว เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS และอื่นๆ ใช้งานง่าย รองรับระบบ ANDROID AUTO และ APPLE CAR PLAY แบบไร้สาย
เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ในตำแหน่งที่นั่งคนขับ เบาะนั่งตอน 2 และ 3 ปรับเอนได้ พร้อมพับราบสนิทกับพื้น ส่วนการเข้า/ออกเบาะตอน 3 เป็นแบบ ONE TOUCH
ระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 52/56/59/63 เดซิเบล เงียบกว่า MITSUBISHI PAJERO SPORT (55/57/62/67 เดซิเบล) และ NISSAN TERRA (57/60/63/67 เดซิเบล) แต่ยังไม่เท่า FORD EVEREST (48/51/54/58 เดซิเบล) และ TOYOTA FORTUNER (49/52/55/59 เดซิเบล)
ENGINE เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร 163 แรงม้า 450 นิวทันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ประหยัด ต่อเนื่อง เรียบเนียนกว่า 3.0 ลิตร 190 แรงม้า 450 นิวทันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และยังมีอัตราเร่งช่วงต้น และปลาย พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ท REV TRONIC และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (PADDLE SHIFT)
อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. อยู่ที่ 11.5/18.0 วินาที และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. อยู่ที่ 33.0 วินาที แรงพอๆ กับ MITSUBISHI TRITON 2.4 (11.6/18.1/33.0 วินาที)
ช้ากว่ารุ่น 3.0 ลิตร ที่ทำไว้ 10.8/17.5/32.4 วินาที เล็กน้อย และเป็นรอง FORD RANGER 2.0 เทอร์โบคู่ (10.1/17.3/31.8 วินาที)
ดีกว่า TOYOTA HILUX REVO 2.4 (13.3/18.7/34.7 วินาที) และ NISSAN NAVARA PRO-4X (12.1/18.4/33.9 วินาที)
ขณะที่อัตราเร่งยืดหยุ่นช่วง 60-100/80-120 กม./ชม. ทําเวลาได้ 6.3/8.2 วินาที ตามหลังรุ่น 3.0 ลิตร 5.9/7.8 วินาที ช้ากว่า FORD RANGER (5.3/7.0 วินาที) MITSUBISHI TRITON (5.6/7.1 วินาที) และ TOYOTA HILUX REVO (5.5/6.8 วินาที) แต่ดีกว่า NISSAN NAVARA (6.4/8.7 วินาที)
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร 163 แรงม้า 450 นิวทันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ท REV TRONIC และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (PADDLE SHIFT) เหมือนกับ รุ่น 3.0 ลิตร
อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 12.1 วินาที 0-400 ม. ทำได้ในเวลา 18.4 วินาที อัตราเร่งช่วงความเร็วปลาย ขณะทำความเร็วสูง 0-1,000 ม. ทำได้ 33.5 วินาที ใกล้เคียงกับ NISSAN TERRA (11.6/18.2/33.5 วินาที) และ TOYOTA FORTUNER (12.0/18.3/33.7 วินาที)
ช้ากว่ารุ่น 3.0 ลิตร ที่ทำเอาไว้ 10.5/17.3/32.0 วินาที และ FORD EVEREST 2.0 เทอร์โบคู่ (10.9/17.8/32.8 วินาที)
แต่ยังเร็วกว่า MITSUBISHI PAJERO SPORT (12.4/18.7/33.8 วินาที)
ขณะเร่งแซงช่วง 60-100/80-120 กม./ชม. ทําเวลาได้ 6.4/8.5 วินาที ใกล้เคียงกับ MITSUBISHI PAJERO SPORT (6.4/8.2 วินาที)
ช้ากว่ารุ่น 3.0 ลิตร ที่ทำไว้ 6.0/7.7 วินาที และคู่แข่งอย่าง FORD EVEREST (6.0/8.0 วินาที) NISSAN TERRA (6.0/7.8 วินาที) และ TOYOTA FORTUNER (5.8/7.4 วินาที)
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบแหนบซ้อน แหนบยาว ยืดหยุ่น ให้ความนุ่มนวลกว่าแหนบปกติ
ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยาง 265/60 R18 เบรคแบบจานหน้า พร้อมครีบระบายความร้อน หลังแบบดุม
ประสิทธิภาพของระบบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. ใช้ระยะ 14.9/26.7/43.4 ม. ดีกว่าระยะเบรคของรุ่น 3.0 ลิตร 15.5/27.3/45.2 ม. และใช้ระยะเบรคสั้นกว่า FORD RANGER (17.8/31.1/49.6 ม.) MITSUBISHI TRITON (16.1/28.1/44.3 ม.) NISSAN NAVARA PRO-4X (16.6/28.2/43.8 ม.) ทุกความเร็ว และดีกว่า TOYOTA HILUX REVO (15.6/27.8/42.4 ม.)
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D IMAGING STEREO CAMERA ที่มีมุมมองกว้าง และแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW) พร้อมระบบเบรคฉุก เฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะ เลี้ยวขวา (TA-AEB) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) FULL SPEED RANGE ADAPTIVE CRUISE CONTROL พร้อมฟังค์ชัน STOP & GO และเพิ่มใหม่ คือ ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ (RCTA) พร้อมระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (RCTB)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSM) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) ระบบตัดกําลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด (PMM) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน (LDW) ระบบเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซํ้าซ้อน (MCB) ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ ระบบตั้งค่าจํากัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง (MSL) ACTIVE SAFETY ระบบความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ เช่น ABS EBD ESC TCS HSA HDC และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดแบบ BUILT-IN แจ้งเตือนจุดอับสายตา พร้อมเส้นกะระยะ LANE GUIDE
ระบบรองรับ ด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง พร้อมชอคอับแกส ด้านหลังแบบ 5-LINK SUSPENSION และเหล็กกันโคลง พร้อมชอคอับแกส ส่วนระบบห้ามล้อแบบจาน มีครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ สำหรับยางที่ติดรถมาจากโรงงาน เป็นยาง BRIDGESTONE DUELER HT (บริดจ์สโตน ดูเลอร์ เอชที) ขนาด 265/50 R20
ผลทดสอบเบรค ที่ความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. สามารถหยุดนิ่งได้ในระยะ 16.2/29.4/45.0 ม. อยู่ในเกณฑ์ดี พอๆ กันกับรุ่น 3.0 ลิตร ที่ทำเอาไว้ 16.2/28.6/45.7 ม. และคู่แข่งอย่าง TOYOTA FORTUNER (16.2/28.4/44.0 ม.)
ใช้ระยะเบรคสั้นกว่า FORD EVEREST (17.5/32.6/50.2 ม.) และ MITSUBISHI PAJERO SPORT (17.0/31.0/46.7 ม.)
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D IMAGING STEREO CAMERA ที่มีมุมมองกว้าง และแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW) พร้อมระบบเบรคฉุก เฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะ เลี้ยวขวา (TA-AEB) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) พร้อมฟังค์ชัน STOP & GO และเพิ่มใหม่ คือ ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ (RCTA) พร้อมระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (RCTB)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSM) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) ระบบตัดกําลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด (PMM) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน (LDW) ระบบเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซํ้าซ้อน (MCB) ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ ระบบตั้งค่าจํากัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง (MSL) ACTIVE SAFETY ระบบความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ เช่น ABS EBD ESC TCS HSA HDC และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดแบบ BUILT-IN แจ้งเตือนจุดอับสายตา พร้อมเส้นกะระยะ LANE GUIDE
ISUZU HI-LANDER 2.2 DDI หน้าเดิม ขุมพลังใหม่ เกียร์ใหม่ ลงตัว
ISUZU D-MAX HI-LANDER 4 ประตู ก็ยังคงได้ใจหลายคน ยิ่งได้เครื่องยนต์ 2.2 DDI และเกียร์อัตโนมัติใหม่ 8 จังหวะ กับระบบความปลอดภัยมาให้ครบ และมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่า 3.0 ลิตร ประมาณ 3 หมื่นบาท (2.2 DDI M AT 1,137,000 บาท/3.0 DDI M AT 1,164,000 บาท)
ISUZU MU-X RS 2.2 DDI เอสยูวีตัวหล่อ ขุมกำลังประหยัด
ISUZU MU-X 4x2 2.2 RS AT เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่ชอบหน้าตาหล่อ ไม่เน้นลุย ชอบความสบาย ในราคา 1,624,000 บาท ที่ประหยัดเงินไป 3.5 หมื่นบาท เมื่อเทียบกับ 3.0 RS AT ราคา 1,659,000 บาท