แนวคิดในการใช้จอมอนิเตอร์แทนกระจกมองข้างนั้นมีมานานมากแล้ว แต่ที่ยังไม่มีใช้ในรถยนต์อย่างจริงจังก็เพราะว่ายังติดปัญหาหลายด้าน เช่น เรื่องของความทนทาน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการนำมาใช้ในรถยนต์นั้นต้องเจอกับความร้อน ความชื้น แรงสั่นสะเทือน ฯลฯ มันจึงต่างจากการใช้งานในสถานที่ปิดเราจะเห็นว่าปัจจุบันการนำจอแสดงผล หรือระบบคอมพิวเตอร์มาใส่ในรถยนต์นั้น เทคโนโลยีมันจะช้ากว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมากทีเดียว นั่นเพราะว่ากว่าระบบต่างๆ จะผ่านการทดสอบแล้วนำมาใช้กับรถยนต์ได้นั้นใช้เวลาทดสอบในหัวข้อต่างๆ ค่อนข้างยาวนาน กว่าจะทดสอบ พัฒนา แก้ไขจนพร้อมใช้งานจริง เทคโนโลยีใหม่ก็แซงหน้าไปไกลแล้ว การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในรถยนต์นั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิด เนื่องจากรถยนต์มีราคาแพง การนำระบบอะไรใหม่ๆ ใส่เข้าไปนั้นต้องออกแบบชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องมากมาย และสิ่งสำคัญ คือ รถยนต์คันหนึ่งนั้นเราใช้งานกันมากกว่า 15-20 ปี ดังนั้นเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะใส่เข้าไปจึงต้องผ่านการทดสอบอย่างมั่นใจเสียก่อน ทำไมต้องใช้มอนิเตอร์แทนกระจกมองข้าง ? ตามปกตินั้นกระจกมองข้างเวลาใช้งานมีจุดอ่อนมากมาย เช่น การเกาะตัวของฝุ่น เนื่องจากพื้นผิวกระจกมีมากกว่าเลนส์ของกล้อง ความชื้นหรือเม็ดฝนที่ทำให้การมองเห็นลดลง ในรถแพงๆ กระจกมองข้างมีการเคลือบสารกันการเกาะตัวของหยดน้ำ ก็จะช่วยให้เวลาฝนตกเม็ดฝนไม่เกาะตัวที่ผิวหน้ามากนัก การโดนแสงสะท้อนจากไฟหน้าของรถคันหลัง จะทำให้การมองเห็นลดลง รถแพงๆ อาจมีระบบตัดแสงรบกวนซึ่งจะช่วยได้มาก นอกจากนี้ มุมมองของกระจกทำกว้างมากก็ไม่ได้ เพราะมันจะหลอกตา ดังนั้นจึงมีมุมอับค่อนข้างมาก เห็นได้จากรถบรรทุก หรือรถบัส ว่ากระจกมองข้างแต่ละด้านนั้น มักจะมีกระจกแยกกัน 2-3 บานเพื่อมองในมุมแตกต่างกัน เพราะถ้าทำให้กระจกบานเดียวเห็นได้อย่างครอบคลุมนั้น มุมมองมันจะหลอกตา ทำให้การกะระยะเป็นเรื่องยาก และต้องใช้กระจกบานใหญ่ ซึ่งสิ่งที่ตามมา คือ เสียงลมปะทะนั่นเอง การใช้มอนิเตอร์นั้นมีข้อดีหลายอย่าง เริ่มจากลดปัญหาเรื่องผิวกระจกสกปรก หรือมีน้ำเกาะได้เด็ดขาด เพราะหน้าเลนส์ที่อยู่ภายนอกรถนั้นมีพื้นที่น้อยกว่ากระจกมาก โอกาสที่จะมีเม็ดฝนเกาะก็น้อยลง และผิวหน้าเลนส์ที่เล็ก ทำให้สามารถเคลือบสารกันการเกาะตัวของสิ่งสกปรกได้ดีกว่า แม้ฝนจะตกหนักก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะหน้าจอแสดงผลอยู่ภายในรถนั่นเอง มุมมองของเลนส์กว้างกว่าและหลอกตาน้อยกว่าผิวกระจกโค้ง ดังนั้นภาพที่เราเห็นจึงมีทัศนวิสัยที่ดีกว่า รวมถึงการใช้งานร่วมกับฟังค์ชันอื่นๆ ก็ทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้เส้นนำทาง หรือการนำภาพไปประกอบกันเป็นภาพโอเวอร์วิวรอบคันก็ทำได้ง่าย นอกจากนี้ การใช้เลนส์ที่มีขนาดเล็กจึงไม่จำเป็นต้องมีกระจกมองข้างที่ยื่นยาวออกไป เพราะเป็นตัวการทำให้เกิดเสียงรบกวนจากลมปะทะ การออกแบบภายนอกทำได้อย่างอิสระมากขึ้น และส่งผลกระทบเรื่องเสียงน้อยมาก คอนทิเนนทัล พัฒนามอนิเตอร์ OLEDS คอนทิเนนทัล ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ ได้พัฒนาจอมอนิเตอร์ระบบ OLEDS (ORGANIC LIGHT EMITTING DIODES) จอขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1,920x720 พิกเซล แบบนี้ทำให้เห็นทัศนวิสัยชัดเจนยิ่งขึ้นในทุกสภาพแสง และมุมมองที่กว้างขึ้นของการมองเห็น ยังช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุจากจุดอับสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ HDR (HIGH DYNAMIC RANGE) สามารถลดความเปรียบต่างของแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เมื่อโดนแสงอาทิตย์ส่องมาที่หน้าเลนส์โดยตรง และยังทำให้การมองเห็นในเวลาค่ำคืนมีทัศนวิสัยที่ดีกว่าด้วย สิ่งสำคัญ คือ ระบบการควบคุมการทำงานของกล้องทั้งหมด คอนทิเนนทัล ได้พัฒนาระบบ PROVIU เพื่อรองรับระบบกล้องทั้งหมด ซึ่งมากกว่า 2 ตัว โดยปกติแล้วจะมีกล้องแทนกระจกมองข้าง 2 ตัว กล้องหลัง รวมถึงรองรับการใช้งานในอนาคตสำหรับหลายกล้อง เพื่อใช้กับรถบรรทุก หรือรถลากจูง