มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ
มหกรรมยานยนต์ปักกิ่ง 2016
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทีมงานของ "สื่อสากลฯ" เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสัมผัสงานแสดงรถยนต์รายการสำคัญ ซึ่งมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า 2016 BEIJING INTERNATIONAL AUTOMOTIVE EXHIBITION หรือ AUTO CHINA 2016 และทีมงานของเราสะดวกปากที่จะเรียกเป็นภาษาไทยว่า มหกรรมยานยนต์ปักกิ่งเช่นเดียวกับหลายปีที่ผ่านมา สถานที่จัดงานมหกรรมยานยนต์ปักกิ่งครั้งล่าสุดนี้เป็นศูนย์นิทรรศการขนาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า CIEC หรือ CHINA INTERNATIONAL EXHIBITION CENTER ศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ชานกรุงปักกิ่งด้านตะวันออก เป็นย่านที่เรียกกันในภาษาจีนว่า เทียนซู (TIANZHU) การเดินทางจากโรงแรมที่พักของเราซึ่งอยู่กลางกรุงปักกิ่งทำได้หลายวิธี วิธีที่ทีมงานของเราเลือกเพราะเห็นว่าสะดวกที่สุด ใช้เวลาสั้นที่สุด และเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด คือ โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง และจ่ายค่าตั๋วเพียงเที่ยวละ 5 หยวน หรือประมาณ 27 บาทเท่านั้นเอง ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการเดินทางด้วยวิธีนี้ คือ การเบียดเสียดยัดเยียด โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น อัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์ในสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นตัวเลขที่ชวนให้อิจฉาริษยาเป็นอย่างยิ่ง ตามตัวเลขที่ไปเจอะไปเจอเข้าโดยบังเอิญในหนังสือพิมพ์จีนฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษและอ้างข้อมูลของ CHINA ASSOCIATION OF AUTOMOBILE MANUFACTURERS หรือ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน ในรอบปี 2000 ตลาดรถในเมืองมังกรขายรถยนต์ทุกชนิดทุกขนาดได้เพียง 2.089 ล้านคัน แต่ในปี 2015 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ยอดขายรถพุ่งขึ้นถึงระดับ 24.598 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าตัวนั่นเทียว ที่น่าทึ่งเช่นกันก็คือ ในช่วงไตรมาสแรกของปีวานรได้แก้วนี้ตลาดรถในเมืองมังกรขายรถทุกชนิดได้มากถึง 6.590 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.2 จากช่วงเดียวกันเมื่อปี 2015 และจุดที่น่าสังเกตก็คือ ในจำนวนนี้มีอยู่มากถึง 1.140 ล้านคัน หรือเท่ากับประมาณร้อยละ 17.3 ซึ่งเป็นรถ เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้จัดงานมหกรรมยานยนต์ปักกิ่งครั้งนี้ ซึ่งเป็นงานครั้งที่ 14 และจัดขึ้นในช่วงเวลา 10 วัน ระหว่างวันจันทร์ที่ 25 เมษายน จนถึงวันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2016 ให้ข้อมูลว่า งานครั้งล่าสุดนี้มีพื้นที่จัดงาน 220,000 ตารางเมตร มีผู้ร่วมงานรวม 1,600 ราย จาก 14 ประเทศและภูมิภาค มีรถยนต์แสดงในงานรวม 1,179 คัน ในจำนวนนี้มีอยู่ 33 คันที่อวดตัวในลักษณะ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" มีอยู่ 21 คันที่อวดตัวแบบ ASIAN PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในทวีปเอเชีย" มีอยู่ 48 คันที่เป็น CONCEPT CAR หรือรถแนวคิด และมีอยู่มากถึง 147 คันที่เป็น NEW ENERGY VEHICLE หรือรถที่ใช้พลังงานแบบใหม่ ขอสารภาพโดยตรงว่าไม่เคยมีศรัทธาในรถจีนมาก่อนเลย จนกระทั่งเมื่อได้ไปเยือนงานแสดงรถยนต์ที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้ จากบรรดารถสัญชาติจีนแบบใหม่ๆ นับสิบนับร้อยคันที่ได้สัมผัสด้วยสายตา ก็ต้องยอมรับกับตัวเองโดยไม่ต้องให้ใครบังคับว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จีนพัฒนาไปได้เร็วมาก โดยเฉพาะในเรื่องหน้าตาและรูปทรงองค์เอวของตัวรถ ที่ยังไม่กล้ายืนยันอย่างเต็มปากเต็มคำ ก็คือ เรื่องคุณภาพการผลิต อย่างไรก็ตามจากการติดตามข่าวสารในสื่อต่างๆ ก็พอจะบอกเล่าเก้าสิบได้ว่า ธุรกิจค้าขายรถยนต์ในเมืองมังกรขณะนี้ QUALITY IS A NONNEGOTIABLE FACTOR หรือ "คุณภาพคือปัจจัยที่ไม่อาจต่อรองกันได้" ตลาดรถยนต์ในเมืองจีนขณะนี้ เฉพาะรถยนต์นั่งก็มีรถให้เลือกซื้อเลือกใช้กันแล้วมากกว่า 500 โมเดล ถ้าไม่ดีจริงก็คงอยู่ได้ไม่นาน
CHERY FV2030 CONCEPT
เปิดรายงานข่าวมหกรรมยานยนต์ปักกิ่งครั้งที่ 14 ด้วยผลงานชิ้นใหม่ของค่าย CHERY AUTOMOBILE บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ติดอันดับ "ทอพเทน" ของรัฐบาลจีน ซึ่งเริ่มกิจการเมื่อปี 1997 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองอูหู ในมณฑลอันฮุย คือ รถประตูปีกนกติดป้ายชื่อ เชอรี เอฟวี 2030 คอนเซพท์ (CHERY FV2030 CONCEPT) เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถกิจกรรมกลางแจ้งขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ชนิดใดๆ หน้าตาและรูปทรงองค์เอวของตัวถังที่น่าจะโดนใจผู้ใช้รถวัยหนุ่มวัยสาวในเมืองมังกร เป็นผลลัพธ์ของการออกแบบด้วย DESIGN LANGUAGE หรือ "ภาษาของการออกแบบ" ที่ค่ายนี้ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า LIFE IN MOTION หรือ "ชีวิตยังไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป" ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของระบบขับที่กล่าวข้างต้น บอกแต่เพียงว่ามีระบบผลิตพลังงานที่จะส่งกำลังไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่กับล้อทุกล้อ โดยไม่ต้องผ่านแบทเตอรีใดๆCHERY TIGGO 7
ผลงานอีกชิ้นหนึ่งของค่าย CHERY AUTOMOBILE ที่เรียกร้องความสนใจจากผู้คนได้ดีพอสมควร คือ รถตลาดติดป้ายชื่อ เชอรี ทิกโก 7 (CHERY TIGGO) ซึ่งปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัดที่ต้องรอจนถึงเดือนตุลาคมของปีลิงไต่ราวนี่แหละ จึงจะเริ่มออกโชว์รูมในเมืองจีน ตัวถังขนาด 4.505x1.837x1.670 ม. ที่ออกแบบให้นั่งได้เพียง 5 คน ไม่ใช่ 7 คนเหมือนชื่อรุ่น มีหน้าตาและรูปทรงองค์เอวที่พอจะขับไปวัดไปวาได้โดยไม่อับอายใคร ในระยะแรกที่เริ่มการจำหน่ายจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 2 ขนาด คือ เครื่องเบนซินความจุ 2.0 ลิตร กับเครื่องเทอร์โบเบนซินความจุ 1.5 ลิตร ระบบเกียร์ก็จะมี 2 แบบ คือ เลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดากับเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) ที่จะตามมาแน่แต่ยังไม่ยืนยันเป็นเรื่องเป็นราวว่าเมื่อไร ? คือ ระบบขับไฮบริดกับระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆBYD YUAN
ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนเมษายน 2015 ในรูปลักษณ์ของรถแนวคิดติดป้ายชื่อ บีวายดี หยวน คอนเซพท์ (BYD YUAN CONCEPT) ที่งานนี้ค่าย BYD AUTO บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนซึ่งเริ่มกิจการเมื่อปี 2003 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซีอานในมณฑลชานสี นำรถชื่อเดียวกันออกอวดตัวอีกครั้งหนึ่ง และคราวนี้อยู่ในฐานะของรถตลาดสมบูรณ์แบบ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัด ซึ่งมีกำหนดออกตลาดในเดือนพฤษภาคมนี้ ตัวถัง 4.320x1.765x1.630 ม. มีรายละเอียดหลายจุดแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากตอนที่ยังเป็นรถแนวคิด จะมีระบบขับให้เลือก 3 แบบ คือ ขับด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับด้วยเครื่องเทอร์โบเบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ และขับแบบไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟCHANGAN CX70 SUV
เลือกผลงานใหม่ของ CHANGAN AUTOMOBILE บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ติดอันดับ "บิกโฟร์" ของเมืองมังกรมาให้ชื่นชมกันรวม 2 ชิ้น ชิ้นแรก คือ ชางอัน ซีเอกซ์ 70 เอสยูวี (CHANGAN CX70 SUV) รถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดกลางที่เริ่มออกโชว์รูมในเมืองมังกรไปแล้วพร้อมๆ กับการเปิดตัวที่งานนี้ ตัวถังขนาด 4.680x1.800x1.750 ม. ติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว นั่งได้รวม 7 คน (2+3+2) และเหลือที่เก็บสัมภาระหีบห่ออยู่นิดเดียว ที่วิจารณ์กันมากในทางลบก็คือ การติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ความจุ 1.6 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดเพียง 86 กิโลวัตต์/117 แรงม้า แถมระบบเกียร์เพื่อถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หลังก็มีแต่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ไม่มีเกียร์อัตโนมัติให้เลือกใช้อีกต่างหาก ส่วนสนนราคาค่าตัวกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มลิ้นว่าย่อมเยาดีเมื่อเทียบกับราคาในบ้านเรา คือ อยู่ระหว่าง 85,000-115,000 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 468,000-633,000 บาทไทยเท่านั้นเองCHANGAN CS95 SUV
ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งของ CHANGAN AUTOMOBILE บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของรัฐบาลจีนที่เลือกมาให้ชื่นชมกันในรายงานนี้ คือ รถติดป้ายชื่อ ชางอัน ซีเอส 95 เอสยูวี (CHANGAN CS95 SUV) ซึ่งก็เป็นรถอีกแบบหนึ่งซึ่งปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ นับเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดค่อนข้างใหญ่ และยังติดป้ายว่าเป็น CONCEPT CAR หรือรถแนวคิด แต่นิตยสารรถยนต์ฉบับหนึ่งของจีนที่ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษยืนยันหัวเด็ดตีนขาดว่า มากกว่าร้อยละ 99 ในรถแนวคิดคันนี้ จะพบได้ในรถตลาดชื่อเดียวกันที่ไตรมาสสุดท้ายของปีวอกหลอกเจ้านี้จะเริ่มออกโชว์รูมในเมืองจีน ตัวถังเมื่อมองตรงๆ จากด้านข้างจะเห็นได้ชัดถนัดตาว่าลอกแบบ ขอโทษ ! ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถบางรุ่นของค่าย แลนด์ โรเวอร์ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลจำเพาะใดๆ แต่คาดหมายกันว่าเครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นเครื่องเทอร์โบเบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงประมาณ 180 แรงม้าROEWE VISION-R CONCEPT
อวดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์กวางโจวเมื่อปลายปีแพะบ้า และฉายซ้ำอีกครั้งหนึ่งที่งานนี้ คือ เรอเว วิชัน-อาร์ คอนเซพท์ (ROEWE VISION-R CONCEPT) ผลงานที่ต้องยกนิ้วให้ของ SAIC MOTOR CORPORATION LIMITED บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ติดอันดับ "บิกโฟร์" ของรัฐบาลจีน ซึ่งปีหนึ่งๆ ผลิตรถสารพัดชนิดออกสู่ตลาด 4-5 ล้านคัน เป็นรถแนวคิดที่ค่ายนี้รังสรรค์ขึ้นเพื่อบ่งบอกปรัชญาการออกแบบที่เพิ่งกำหนดขึ้นใหม่ และตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า EMOTIONAL RHYTHM หรือ "จังหวะจะโคนที่เร้าอารมณ์" รวมทั้งเชื่อกันว่าเป็นต้นแบบของรถเก๋งขนาดโตเต็มพิกัดรุ่นใหม่ ที่อีกไม่นานจนเกินรอจะเริ่มออกโชว์รูมในเมืองมังกรพร้อมกับป้ายชื่อ เรอเว 950 (ROEWE 950) ตัวถังซึ่งยาวกว่า 5 เมตร มีจุดเด่นสะดุดตาอยู่หลายจุด รวมทั้งประตูข้างที่เปิดแยกจากกันโดยไม่มีเสาค้ำยันกลางที่เรียกกันว่า SUICIDE DOOR หรือประตูฆ่าตัวตาย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในภาพใหญ่JAC REFINE A60
JAC MOTORS บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของรัฐบาลจีนซึ่งเริ่มกิจการเมื่อปี 1964 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเหไฝในมณฑลอันฮุย นำรถใหม่ออกอวดตัวในงานนี้เป็นกองทัพ และล้วนเป็นรถที่น่าสนใจทั้งนั้น คันแรกที่เลือกมาให้ชื่นชมกัน คือ เจเอซี รีไฟน์ เอ 60 (JAC REFINE A60) เป็นรถเก๋งซีดานในตัวถังขนาด 4.995x1.865x1.503 ม. ที่เพิ่งเริ่มการจำหน่ายในเมืองมังกรพร้อมๆ กับการเปิดตัวในงานนี้ เป็นรถเก๋งขนาดใหญ่ติดป้ายค่าตัว 170,000-240,000 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 935,000-1,320,000 บาท ที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 2 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซิน 1.5 ลิตร 128 กิโลวัตต์/174 แรงม้า กับเครื่องเทอร์โบเบนซิน 2.0 ลิตร 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า ทั้ง 2 ขนาดซึ่งค่ายนี้ตั้งชื่อเรียกไว้โดยเฉพาะว่า GREEN JET ENGINE มีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะJAC SC5 SUV CONCEPT
ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งของค่าย JAC MOTORS ไม่ใช่รถตลาดที่พร้อมจะออกโชว์รูม แต่เป็นรถแนวคิดติดป้ายชื่อ เจเอซี เอสซี 5 เอสยูวี คอนเซพท์ (JAC SC5 SUV CONCEPT) ซึ่งเป็นรถสัญชาติจีนอีกคันหนึ่งซึ่งปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถสัญชาติจีนซึ่งไม่ได้เกิดบนแผ่นดินจีน หากเป็นผลงานรังสรรค์ของศูนย์ออกแบบ JAC'S DESIGN CENTER ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองตูรินในประเทศอิตาลี เป็นรถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลางที่มีกำหนดออกตลาดในปี 2017 หรือ 2018 รวมทั้งเป็นรถที่ทำขึ้นเพื่ออวดรูปลักษณ์ของแผงกระจังหน้าที่เพิ่งออกแบบขึ้นใหม่ และตั้งใจจะใช้กับรถใหม่ทุกรุ่นทุกแบบที่จะนำออกสู่ตลาดในอนาคต ไม่มีการระบุรายละเอียดด้านเครื่องยนต์กลไก แต่คาดหมายกันว่า น่าจะติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินความจุ 1.5 และ 2.0 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุด 110 ถึง 132 กิโลวัตต์ หรือ 150 ถึง 180 แรงม้าJAC IEV6 S
มีรถพลังไฟฟ้าอวดตัวในบูธของค่าย JAC MOTORS หลายคัน เลือกคันที่น่าสนใจมาให้ชมเพียง 2 คัน คันแรกคือรถติดป้ายชื่อ เจเอซี ไออีวี 6 เอส (JAC IEV6 S) ซึ่งเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ แบบแรกของค่ายนี้ ตัวถังขนาด 4.135x1.750x1.560 ม. ดัดแปลงจากรถร่วมค่าย เจเอซี รีไฟน์ เอส 2 (JAC REFINE S2) โดยตกแต่งรายละเอียดและสีสันให้สมกับที่เป็นรถพลังไฟฟ้า ส่วนระบบขับปลอดไอพิษใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์/114 แรงม้า ทำงานร่วมกับแบทเตอรีขนาด 33 กิโลวัตต์ชั่วโมงของค่าย SAMSUNG สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 11 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม. การประจุไฟแต่ละครั้งด้วยไฟบ้าน 220 โวลท์ ต้องใช้เวลายาวนานถึง 11.5 ชม. และรถจะวิ่งได้ไกลประมาณ 253 กม. เริ่มจำหน่ายแล้วในเมืองมังกร โดยติดป้ายค่าตัว 120,000 หยวน หรือประมาณ 660,000 บาทไทยJAC IEV7
รถพลังไฟฟ้าอีกแบบหนึ่งของค่าย JAC MOTORS คือ เจเอซี ไออีวี 7 (JAC IEV7) รถเก๋งซีดานขนาดใหญ่ที่ต้องรอจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปีวานรช้อนหางจึงจะเริ่มออกโชว์รูมในเมืองมังกร ไม่ใช่รถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งคัน หากพัฒนามาอีกทอดหนึ่งจากรถร่วมค่าย คือ เจเอซี รีไฟน์ เอ 60 (JAC REFINE A60) ที่เพิ่งผ่านตาไป มีการปรับและเปลี่ยนรายละเอียดในหลายจุด จุดสำคัญที่สุด คือ การเปลี่ยนขุมพลังขับเคลื่อน จากขับด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 174 หรือ 190 แรงม้า เป็นขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 110 กิโลวัตต์/148 แรงม้า ซึ่งได้พลังไฟจากแบทเตอรีขนาด 55.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 11 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. การประจุไฟด้วยไฟบ้าน 220 โวลท์ ใช้เวลา 9 ขั่วโมง และรถจะวิ่งได้ไกลประมาณ 320 กม. ถ้าต้องการไปให้ไกลถึง 400 กม. ก็ทำได้ แต่ต้องใช้ความเร็วไม่สูงกว่า 60 กม./ชม.BEIJING AUTO ARCFOX-7
ในฐานะเจ้าถิ่น BAIC MOTOR CORPORATION บริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ก็เป็นอีกรายหนึ่งที่นำผลงานชิ้นใหม่ๆ ออกอวดในงานนี้เป็นกองทัพ เนื่องจากเนื้อที่หน้ากระดาษมีจำกัดจึงเลือกมาให้ชมเป็น "แซมเพิล" เพียง 3 คัน คันแรก คือ เป่ยจิง ออโท อาร์คฟอกซ์-7 (BEIJING AUTO ARCFOX-7) ซึ่งเพิ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก และนักวิจารณ์รถยนต์บางคนในเมืองมังกรยกนิ้วว่าเป็นรถสวยที่สุดในงานนี้ ไม่ใช่รถที่กำลังจะออกโชว์รูม แต่เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถสปอร์ท "ซูเพอร์คาร์" ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ตัวถัง 4.570x2.040x1.214 ม. ซึ่งหนัก 1,775 กก.และมีจุดเด่นสะดุดใจสะดุดตาอยู่มากมาย รวมทั้งประตูที่เปิด/ปิดแบบขากรรไกร ใช้เวลาแค่ 2.8 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม. ที่น่าพอใจมาก คือ ประจุไฟแต่ละครั้งจะวิ่งได้ไกลถึง 300 กม.BEIJING AUTO SENOVA OFFSPACE
รถแนวคิดอีกคันหนึ่งของค่ายเจ้าบ้านที่เลือกมาให้ชื่นชมกัน คือ รถติดป้ายชื่อ เป่ยจิง ออโท เซโนวา ออฟสเปศ (BEIJING AUTO SENOVA OFFSPACE) ซึ่งก็เป็นรถสัญชาติจีนอีกคันหนึ่งซึ่งเพิ่งปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถข้ามพันธุ์ที่สามารถผสมผสานคุณลักษณะของรถ 2 แบบเข้าไว้ด้วยกันในรถคันเดียว คือ ความแคล่วคล่องและทนมือทนเท้าของรถที่ลุยไปได้ในทุกที่ทุกถิ่นอย่างที่เรียกกันในภาษารถยนต์ว่า OFF ROAD CAR กับห้องโดยสารอันกว้างขวางรถตู้อเนกประสงค์ที่เรียกกันโดยย่อว่า MPV เชื่อกันด้วยว่าเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ที่ค่ายนี้ตั้งใจจะนำออกสู่ตลาดในปี 2018 โดยมีระบบขับให้เลือก 2 แบบ คือ ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินความจุ 2.3 ลิตร กับขับแบบไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินความจุ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าBEIJING AUTO BJ20 SUV
ที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนเมษายน 2015 รถติดป้ายชื่อ เป่ยจิง ออโท บีเจ 20 (BEIJING AUTO BJ20) ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกพร้อมกับป้ายประกาศว่าเป็นรถแนวคิด ที่งานนี้รถชื่อเดียวกันหน้าตาเหมือนกันปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้งหนึ่งและคราวนี้อยู่ในฐานะรถตลาดสมบูรณ์แบบ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ในตัวถังขนาด 4.451x1.845x1.710 ม. ซึ่งภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2016 จึงจะเริ่มการจำหน่ายในเมืองมังกร เป็นรถขนาดเล็กกะทัดรัดที่ดูดีมากเมื่อมองเฉียงๆ จากด้านหน้า แต่ดูจืดไปเลยเมื่อเปลี่ยนไปมองจากด้านข้างและด้านหลัง จุดที่เรียกเสียงวิจารณ์ในเชิงลบได้อย่างอึงคะนึง คือ เสาค้ำยันหลังคาคู่ท้ายที่ดูจะกว้างไปหน่อย จะมีเครื่องยนต์เพียงขนาดเดียว คือ เครื่องเทอร์โบเบนซิน 1.5 ลิตร 109 กิโลวัตต์/147 แรงม้า ของมิตซูบิชิ ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังของเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้าก็มีแบบเดียว คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะHAIMA V70 MPV
จุดดึงดูดความสนใจในบูธของ HAIMA AUTOMOBILE บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เอกชนซึ่งตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองไฮคูในมณฑลไฮหนาน คือรถตลาดติดป้ายชื่อ ไฮมา วี 70 เอมพีวี (HAIMA V70 MPV) ซึ่งเป็นรถใหม่อีกแบบหนึ่งซึ่งปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกลางซึ่งกำลังจะออกตลาดในเมืองมังกร พร้อมกับป้ายค่าตัวซึ่งเริ่มต้นที่ระดับ 120,000 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 660,000 บาทไทย ตัวถังขนาด 4.750x1.800x1.665 ม. ซึ่งหน้าตาดูธรรมด๊าธรรมดาไม่มีจุดเด่นอะไรเลย ได้รู้แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่ได้ออกแบบโดยคนจีน แต่เป็นผลงานรังสรรค์ของ ลูชาโน ดี'อัมบโรซิโอ (LUCIANO D'AMBROSIO) เจ้าของสำนักออกแบบ LD'A DESIGN แห่งอิตาลี ห้องโดยสารที่ออกแบบได้ดีกว่าตัวถัง มีทั้งแบบ 5 ที่นั่ง 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ส่วนเครื่องยนต์เลือกได้ระหว่างเครื่องเทอร์โบเบนซิน 1.5 ลิตร 156 แรงม้า กับเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตรLESEE EV CONCEPT
ไม่มีการตัดสินอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่เชื่อว่าหากมี ตำแหน่งสุดยอดรถไฮเทคของงานนี้ก็สมควรยกให้แก่รถติดป้ายชื่อ เลซี อีวี คอนเซพท์ (LESEE EV CONCEPT) ผลงานชิ้นโบว์แดงของบริษัท LESEE ซึ่งแตกลูกมาอีกทอดหนึ่งจากบริษัท LEECO ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจทีวีผ่านระบบอินเตอร์เนทของเมืองมังกร เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถซีดานระดับ "ซูเพอร์คาร์" ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ และสามารถวิ่งได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้จับพวงมาลัยเพราะมีระบบขับอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า SEMI-AUTONOMOUS DRIVING ไม่มีการเผยแพร่รายละเอียดของระบบขับที่ว่านี้ ทราบแต่เพียงว่าทดสอบแล้วสามารถทำความเร็วสูงสุด 211 กม./ชม. และเป็นรถที่ค่ายนี้ตั้งใจจะทำขายแน่นอน ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ หน้าตาและรูปทรงองค์เอวของตัวถังที่ทำได้ดีมาก ที่สงสัยกันก็คือ เมื่อเปลี่ยนสภาพเป็นรถตลาดสมบูรณ์แบบแล้ว ประตูตู้กับข้าวอย่างที่เห็นในภาพใหญ่จะยังคงอยู่หรือไม่ ?HAWTAI XEV 260 SUV
อีกคันหนึ่งที่อวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ คือ เฮาไต เอกซ์อีวี 260 เอสยูวี (HAWTAI XEV 260 SUV) ผลงานใหม่เอี่ยมแกะกล่องของ HAWTAI MOTOR GROUP บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เอกชนซึ่งเริ่มกิจการเมื่อปี 2000 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่ง เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัดในตัวถัง 4.426x1.862x1683 ม. ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์แบบใดๆ เริ่มการจำหน่ายในเมืองมังกรแล้ว โดยแบ่งการตกแต่ง/อุปกรณ์เป็น 3 ระดับ กำกับด้วยรหัส COMFORT LUXURY HONOR ทุกระดับติดตั้งระบบขับที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 80 กิโลวัตต์ ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีเทอร์นารีลิเธียม (TERNARY LITHIUM) ขนาด 49.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมงเมื่อประจุไฟด้วยไฟบ้าน 220 โวลท์ ประจุไฟแต่ละครั้งจะวิ่งได้ไกลประมาณ 270 กม. และทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 130 กม./ชม.VENUCIA T90 SUV
รถตลาดสัญชาติจีนอีกคันหนึ่งซึ่งเพิ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ คือรถติดป้ายชื่อ เวนูเซีย ที 90 เอสยูวี (VENUCIA T90 SUV) ผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของ DONGFENG NISSAN PASSENGER VEHICLE ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ DONGFENG MOTOR COMPANY บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เอกชนทวิสัญชาติซึ่งเริ่มกิจการเมื่อปี 2003 โดยมีฝ่ายจีนและฝ่ายญี่ปุ่นถือหุ้นกันฝ่ายละครึ่ง เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลางซึ่งพัฒนามาอีกทอดหนึ่งจากรถแนวคิดติดป้ายชื่อ เวนูเซีย วาว (VENUCIA WOW) ซึ่งปรากฏตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2015 และได้ชิ้นส่วนหลายชิ้นจากรถ นิสสัน มูราโน (NISSAN MURANO) มีกำหนดออกตลาดในไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 และ จะมีระบบขับให้เลือก 2 แบบ คือ ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 186 แรงม้า และขับแบบไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟซึ่งให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้าDONGFENG FENGSHEN A9
ที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนของปีแพะบ้า ค่าย DFM หรือ DONGFENG MOTOR COMPANY นำรถแนวคิดคันหนึ่งออกอวดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" พร้อมกับป้ายชื่อ ตงฟง นัมเบอร์ วัน (DONGFENG NUMBER 1) ที่งานนี้รถหน้าตาเหมือนๆ กันปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มีฐานะเป็นรถตลาดสมบูรณ์แบบและเปลี่ยนป้ายชื่อเป็น ตงฟง เฟงเชน เอ 9 (DONGFENG FENGSHEN A9) เป็นรถเก๋งซีดานขนาดโตเต็มพิกัดในตัวถังขนาด 5.066x1.858x1.470 ม. ที่เพิ่งเริ่มการจำหน่ายในเมืองมังกรไม่กี่วันก่อนวันเปิดงานมหกรรมยานยนต์ปักกิ่งครั้งนี้ พร้อมกับป้ายค่าตัวซึ่งอยู่ระหว่าง 179,700-229,700 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 988,000-1,263,000 บาทไทย เป็นรถที่ออกแบบ/พัฒนาโดยได้ชิ้นส่วนหลายชิ้นจากค่าย เปอโฌต์/ซีตรอง ที่ผู้ผลิตรถยนต์จีนรายนี้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ รวมทั้งเครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 1.8 ลิตร 149 กิโลวัตต์/200 แรงม้าDONDFENG FENGXING SX6 MPV
เป็นรถตลาดที่เพิ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกเช่นกัน คือ ตงฟง เฟงซิง เอสเอกซ์ 6 เอมพีวี (DONGFENG FENGXING SX6 MPV) ผลงานใหม่เอี่ยมแกะกล่องอีกชิ้นหนึ่งของค่าย DFM หรือ DONGFENG MOTOR COMPANY เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด ในตัวถังขนาด 4.650x1.820x1.790 ม. ที่นั่งได้รวม 7 คน (2+2+3) เป็นรถแบบใหม่ที่ต้องรอจนถึงเดือนกรกฎาคมของปีวานรได้แก้วจึงจะเริ่มการจำหน่ายในเมืองมังกร โดยมีเครื่องยนต์ซึ่งได้จากค่าย เปอโฌต์/ซีตรอง ของฝรั่งเศสให้เลือกใช้ 2 ขนาด คือ เครื่องเบนซิน 1.6 ลิตร 87 กิโลวัตต์/117 แรงม้า กับเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร 102 กิโลวัตต์/138 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) สนนราคาค่าตัวประกาศแล้วว่าจะอยู่ระหว่าง 80,000-120,000 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 440,000-660,000 บาทไทยQIANTU K50 ROADSTER
แต้มเติมสีสันให้แก่งานนี้ได้ดีเยี่ยม คือ เฉียนตู เค 50 โรดสเตอร์ (QIANTU K50 ROADSTER) รถเพียงคันเดียวในบูธของ QIANTU MOTOR ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนซึ่งชื่อบริษัทแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า FUTURE MOTOR เป็นรถสปอร์ท "ซูเพอร์คาร์" ที่คาดว่าจะเริ่มการจำหน่ายได้ภายในปี 2017 ด้วยค่าตัวที่คาดหมายกันว่าน่าจะเริ่มต้นที่ระดับ 700,000 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 3.850 ล้านบาทไทย ตัวถังเปิดประทุนขนาด 4.628x2.064x1.254 ม. ที่มีโครงตัวถังทำจากอลูมิเนียม และเปลือกตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์แบบใดๆ แต่ใช้ระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าที่ค่ายนี้พัฒนาขึ้นเอง เป็นระบบขับทุกล้อซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ให้กำลังรวม 300 กิโลวัตต์/408 แรงม้า ทำงานร่วมกับแบทเตอรีขนาด 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาต่ำกว่า 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. และประจุไฟแต่ละครั้งจะวิ่งได้ไกล 300 กม.IAT KARLMANN KING
หน้าตาเหมือนเพิ่งหลุดจากหนังไซไฟเรื่องสตาร์วอร์ คือ ไอเอที คาร์ลมันน์ คิง (IAT KARLMANN KING) ผลงานหน้าตาน่าเกรงขามของ IAT AUTOMOBILE TECHNOLOGY สำนักออกแบบรถยนต์อิสระซึ่งเพิ่งก่อตั้งกิจการขึ้นในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2002 เป็นรถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่โตมโหระทึก ที่ตั้งใจจะทำขึ้นเพียง 10 คัน เพื่อเสนอขายทั่วโลกในราคาคันละ 12 ล้านหยวน หรือเท่ากับประมาณ 66 ล้านบาทไทย ออกแบบ/พัฒนาโดยขอหยิบขอยืมชิ้นส่วนหลายชิ้นจากรถพิคอัพขนาดใหญ่ ฟอร์ด เอฟ-450 ซูเพอร์ ดิวที (FORD F-450 SUPER DUTY) ตัวถังซึ่งยาวกว่า 6 เมตร แต่จัดห้องโดยสารให้นั่งได้เพียง 2 คน มีจุดสะดุดตาสะดุดใจอยู่มากมาย รวมทั้งหน้าต่างรูปเพชรและล้อยางขนาดมหึมา เครื่องยนต์ที่ใช้ก็ใหญ่โตโอ้โฮเฮ้ยสมกับขนาดตัวถัง คือ เครื่องเบนซิน วี 10 สูบ 6.8 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุด 268 กิโลวัตต์/362 แรงม้าGEELY EMGRAND GS SUV
ในบูธของค่าย GEELY AUTO บริษัทรถยนต์สัญชาติจีนซึ่งปัจจุบันเป็นต้นสังกัดของผู้ผลิตรถยนต์รายสำคัญอีก 2 ราย คือ VOLVO CAR GROUP ของสวีเดน กับ THE LONDON TAXI COMPANY ของอังกฤษ มีผลงานที่สมควรนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังเพียงชิ้นเดียว คือ รถติดป้ายชื่อ กีลี เอมกแรนด์ จีเอส เอสยูวี (GEELY EMGRAND GS SUV) เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกะทัดรัด ซึ่งมีกำหนดออกโชว์รูมในเดือนมิถุนายน 2016 และจะมีรถให้เลือก 2 โมเดลหลัก คือ GEELY EMGRAND GS กับ GEELY EMGRAND GS SPORT ทั้งสองโมเดลจะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือเครื่องเทอร์โบเบนซิน 1.3 ลิตร 99 กิโลวัตต์/133 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ และเครื่องเบนซิน 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ราคาค่าตัวจะอยู่ระหว่าง 80,000-120,000 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 440,000-660,000 บาทHAVAL H7 SUV
อวดตัวเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์กวางโจวเมื่อปลายปีแพะบ้า แต่ยังดึงดูดความสนใจได้อย่างดีเมื่อฉายซ้ำอีกครั้งในงานนี้ คือ ฮาวัล เอช 7 เอสยูวี (HAVAL H7 SUV) รถกิจกรรมกลางแจ้งแบบใหม่ล่าสุดของ GREAT WALL MOTORS COMPANY LIMITED ผู้ผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้งรายใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นรถขนาดกลางซึ่งมีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ ตัวถังขนาด 4.700x1.925x1.718 ม. กับตัวถังขนาด 4.900x1.925x1.785 ม. ซึ่งมีช่วงฐานล้อยาว 2.850 ม. เท่ากัน ทั้งสองตัวถังติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกัน คือ เครื่องเทอร์โบเบนซิน 4 สูบเรียง 1,967 ซีซี ซึ่งปรับแต่งเป็น 2 แบบ คือ แบบให้กำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์/230 แรงม้า กับแบบให้กำลังสูงสุด 240 กิโลวัตต์/324 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์มีแบบเดียว คือ เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ ออกจำหน่ายแล้วพร้อมกับป้ายค่าตัวซึ่งเริ่มต้นที่ 125,000 หยวน หรือประมาณ 688,000 บาทไทยTRUMPCHI GS8 SUV
GAC GROUP บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของรัฐบาลจีนซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองกวางโจวในมณฑลกวางตุ้ง เป็นอีกรายหนึ่งที่นำผลงานใหม่ออกแสดงในงานนี้เป็นกองทัพ เลือกคันที่น่าสนใจที่สุดมาให้ชื่นชมกันเพียง 3 คัน คันแรก คือ รถตลาดติดป้ายชื่อ ทรุมพ์ชิ จีเอส 8 เอสยูวี (TRUMPCHI GS8 SUV) รถกิจกรรมกลางแจ้งออกแบบให้นั่งได้รวม 7 คน ซึ่งต้องรอจนถึงเดือนกันยายนของปีวอกหลอกเจ้าจึงจะเริ่มออกโชว์รูมในเมืองมังกร พร้อมกับป้ายราคาค่าตัวซึ่งจะอยู่ระหว่าง 150,000-200,000 หยวน หรือประมาณ 825,000-1,100,000 บาทไทย ตัวถังซึ่งดูบึกบึนและทรงพลังเป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานซึ่งมี ซางฟัน (ZHANG FAN) นักออกแบบชาวจีนเป็นผู้นำ มีจุดเด่นสะดุดตา คือ ดวงโคมไฟหน้าซึ่งเป็นไฟแอลอีดี กับแผงกระจังหน้าขนาดโตสะใจ ส่วนขุมพลังที่ใช้เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 2.0 ลิตร 139 กิโลวัตต์/188 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะTRUMPCHI GA8
ออกแบบ/พัฒนามาพร้อมๆ กัน และใช้สถาปัตยกรรมหลักเดียวกันกับรถกิจกรรมกลางแจ้ง ทรัมพ์ชิ จีเอส 8 เอสยูวี (TRUMPCHI GS8 SUV) ที่เพิ่งผ่านตาไป คือ ทรุมพ์ชิ จีเอ 8 (TRUMPCHI GA8) ซึ่งก็เป็นรถใหม่อีกแบบหนึ่งซึ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถเก๋งซีดานขนาดใหญ่ และเป็นรถธงในสายการผลิต ที่เริ่มออกโชว์รูมในเมืองมังกรไปแล้วพร้อมๆ กับการเปิดตัวในงานนี้ มีรถให้เลือก 2 โมเดลหลัก คือ TRUMPCHI GA8 270T กับ TRUMPCHI GA8 300T โดยที่โมเดลติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 1.8 ลิตร 131 กิโลวัตต์/177 แรงม้า ส่วนโมเดลหลังติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 2.0 ลิตร 139 กิโลวัตต์/188 แรงม้า และทั้ง 2 โมเดลใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ เป็นการตั้งชื่อรุ่นของรถเพื่อให้โดนใจผู้คนในเมืองมังกร เพราะตัวเลข 270 กับ 300 ทำให้เกิดความรู้สึกในความยิ่งใหญ่กว่าขนาดเครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตรTRUMPCHI EV COUPE CONCEPT
ผลงานชิ้นสุดท้ายของค่าย GAC GROUP ที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง คือรถติดป้ายชื่อ ทรุมพ์ชิ อีวี คูเป คอนเซพท์ (TRUMPCHI EV COUPE CONCEPT) ซึ่งปรากฏตัวเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์กวางโจวเมื่อปลายปีแพะบ้า แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจได้ดีเมื่อฉายซ้ำอีกครั้งในงานนี้ เป็นรถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์สไตล์เดียวกับรถ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 4 (BMW X4) ที่ค่ายนี้ตั้งใจจะทำขายในเวลาที่ไม่เนิ่นนานจนเกินรอ แม้ว่ายังได้ไม่ระบุอย่างชัดเจนว่าเมื่อไร ? นิตยสารรถยนต์ฉบับหนึ่งของเมืองจีนซึ่งเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษระบุว่า ในสภาพของรถตลาดสมบูรณ์แบบรถใหม่รุ่นนี้จะมีระบบขับให้เลือก 2 แบบ คือ ขับด้วยเครื่องยนต์เบนซิน กับขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งประจุไฟแต่ละครั้งจะวิ่งได้ไกลประมาณ 240 กม. สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.HONGQI H7 PHEV
ผู้ผลิตรถยนต์รายเก่าแก่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ FAW CAR COMPANY ซึ่งประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 1958 นำรถหรูติดป้ายยี่ห้อ หงฉี (HONGQI) หรือ "ธงแดง" ออกอวดตัวในงานนี้หลายคน คันแรกที่เลือกมาให้ชื่นชมกัน คือ รถพลังงานทางเลือกใหม่ หงฉี เอช 7 พีเอชอีวี (HONGQI H7 PHEV) ซึ่งเพิ่งปรากฏตัวให้ผู้คนได้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกที่งานนี้ ไม่ใช่รถที่ทำขึ้นใหม่ทั้งคัน หากแต่พัฒนามาอีกทอดหนึ่งจากรถเก๋งซีดานสุดหรู หงฉี เอช 7 (HONGQI H7) รุ่นล่าสุด และจุดใหญ่ใจความของการพัฒนาที่ว่านี้ คือ การเปลี่ยนระบบขับ จากขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินอย่างเดียว เป็นขับแบบไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 145 กิโลวัตต์/195 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 55 กิโลวัตต์/74 แรงม้า และแบทเตอรีขนาด 14.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถทำความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. และวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 51 กม.HONGQI S-CONCEPT
ค่าย "ธงแดง" นำรถแนวคิด 2 คัน ออกอวดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" พร้อมๆ กันในงานนี้ คันแรก คือ หงฉี เอส-คอนเซพท์ (HONGQI S-CONCEPT) ในภาพเล็กซ้ายมือ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง ที่ออกแบบและพัฒนาโดยใช้รถขนาดเดียวกันคือ เอาดี คิว 5 (AUDI Q5) ซึ่งผลิตในจีนโดยโรงงานที่ค่ายนี้ร่วมกันลงทุนกับฝ่ายเยอรมันเป็นพื้นฐาน ตัวถังซึ่งให้ความรู้สึกในความแกร่งกล้าและเปี่ยมพลัง มีจุดเด่นสะดุดตาตรงคู่ดวงโคมไฟหน้าซึ่งเป็นไฟแอลอีดีกับแผงกระจังหน้าขนาดโตที่ดูกล้าแกร่ง และพร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ส่วนที่มองไม่เห็นในภาพแต่น่าจะคาดเดาได้จากที่จับเปิดประตู คือ ประตูข้างที่เปิดแยกจากกันโดยไม่มีเสาค้ำยันกลาง อย่างที่เรียกกันว่าประตูตู้กับข้าวหรือประตูฆ่าตัวตาย เป็นรถแนวคิดที่เชื่อกันในเมืองมังกรว่า มีโอกาสสูงมากที่จะเปลี่ยนสภาพเป็นรถตลาดสมบูรณ์แบบHONDQI B-CONCEPT
รถแนวคิดอีกคันหนึ่งของค่าย "ธงแดง" และเป็นรถสายพันธุ์มังกรแบบสุดท้ายที่เลือกมานำเสนอในรายงานนี้ คือ หงฉี บี-คอนเซพท์ (HONGQI B-CONCEPT) ซึ่งก็เป็นรถประตูตู้กับข้าวอีกคันหนึ่งในบรรดารถติดตั้งประตูตู้กับข้าวหลายๆ คันที่ปรากฏตัวให้เห็นในงานนี้ เป็นรถที่ออกแบบ/พัฒนามาพร้อมๆ กับรถ หงฉี เอส-คอนเซพท์ (HONGQI S-CONCEPT) ที่เพิ่งผ่านตาไป และเป็นต้นแบบของรถเก๋งซีดานระดับหรูขนาดใหญ่ที่ค่ายนี้จะผลิตจำหน่าย โดยวางตำแหน่งแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างรถซีดาน 2 อนุกรมา ที่มีจำหน่ายขณะนี้ คือ หงฉี เอช 7 (HONGQI H7) กับ หงฉี แอล 5 (HONGQI L5) เป็นรถที่ออกแบบ/พัฒนาโดยใช้รถ เอาดี เอ 6 แอล (AUDI A6L) ซึ่งฝ่ายจีนและฝ่ายเยอรมันร่วมกันผลิตในจีนเป็นพื้นฐาน แต่รายละเอียดของตัวถังบางจุด วิจารณ์กันในเมืองมังกรว่า เห็นได้ชัดน่าจะออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถหรูบางรุ่นของค่าย ลินคอล์น (LINCOLN)NISSAN TIIDA
ยักษ์รองเมืองยุ่นนำรถตลาดรุ่นสำคัญออกอวดตัวในงานนี้พร้อมกัน 2 รุ่น รุ่นแรกซึ่งเป็นการอวดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" คือ นิสสัน ทิอิดา (NISSAN TIIDA) รถเก๋งแฮทช์แบคขนาดเล็กกะทัดรัดที่ผู้ใช้รถในบ้านเราคงคุ้นเคยกันดี เป็นรถรุ่นใหม่ซึ่งยังไม่มีขายในญี่ปุ่น แต่กำลังจะออกจำหน่ายในเมืองมังกรโดยติดป้ายค่าตัว 100,000-140,000 หยวน หรือประมาณ 550,000-770,000 บาทไทย นับเป็นคู่ฝาคู่แฝดกับรถที่มีจำหน่ายแล้วในตลาดยุโรปโดยติดป้ายชื่อ นิสสัน พัลซาร์ (NISSAN PULSAR) ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือ แผงกระจังหน้าและกันชนหน้า เป็นรถที่ผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยโรงงานของค่าย DONGFENG-NISSAN และจะมีเครื่องยนต์เพียงขนาดเดียว คือ เครื่องเบนซิน 1.6 ลิตร 93 กิโลวัตต์/126 แรงม้า ซึ่งวิจารณ์กันในเมืองจีนว่าเก่าแก่เหลือเกิน ส่วนระบบเกียร์มี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะกับเกียร์ CVTNISSAN MAXIMA
รถตลาดรุ่นใหม่อีกรุ่นหนึ่งของยักษ์รองเมืองยุ่น ซึ่งอวดตัวแบบ ASIAN PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในทวีปเอเชีย" ที่งานมหกรรมยานยนต์กวางโจวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015 และฉายซ้ำอีกครั้งที่งานนี้ คือ นิสสัน แมกซิมา (NISSAN MAXIMA) รถเก๋งซีดานขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ซึ่งในช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีขายแต่ในทวีปอเมริกาเหนือไม่มีขายในญี่ปุ่น ตัวถังขนาด 4.903x1.860x1.436 ม. ผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีนโดย DFL-PV หรือ DONGFENG NISSAN PASSENGER VEHICLE COMPANY ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ฝ่ายจีนและฝ่ายญี่ปุ่นร่วมกันลงทุน มีกำหนดออกตลาดในเมืองมังกรภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 โดยมีเครื่องยนต์เพียงขนาดเดียว เป็นเครื่องเบนซิน 4 สูบเรียง 2.5 ลิตร ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) ค่าตัวเริ่มต้นที่ 234,800 หยวน หรือประมาณ 1,290,000 บาทINFINITI QX SPORT INSPIRATION
อินฟินิที (INFINITI) ผู้ผลิตรถยนต์ระกับ "พรีเมียม" ซึ่งอยู่ภายใต้ร่มเงาของค่าย นิสสันแต่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเกาะฮ่องกง ใช้รถติดป้ายชื่อ อินฟินิที คิวเอกซ์ สปอร์ท อินสไปเรชัน (INFINITI QX SPORT INSPIRATION) ซึ่งอวดตัวในงานนี้แบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" เป็นนางกวักเรียกสื่อมวลชนและผู้คนเข้าสู่บูธ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของ PREMIUM MID-SIZED CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดกลาง และเป็นต้นแบบของรถรุ่นใหม่ที่ค่ายนี้ตั้งใจจะนำออกสู่ตลาดในปี 2017 เพื่อสู้กับรถ โพร์เช มากัน (PORSCHE MACAN) ของค่ายเยอรมัน ตัวถังขนาด 4.600x1.900x1.650 ม. เป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานใน 3 ประเทศ คือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน หน้าตาและรูปทรงองค์เอวของตัวถัง ผู้รังสรรค์บอกว่า เป็นผลลัพธ์ของการออกแบบที่ก้าวล้ำนำสมัย และผลิตได้จริงACURA CDX
ผู้ผลิตรถระดับ "พรีเมียม" อีกรายหนึ่งของเมืองยุ่น คือ อคูรา (ACURA) ก็ไม่ยอมน้อยหน้า มีนางกวักเรียกผู้คนเข้าสู่บูธเช่นกัน เป็นแมวนางกวักมะเนะกิเนะโกะที่ซ่อนตัวอยู่ในรถตลาดติดป้ายชื่อ อคูรา ซีดีเอกซ์ (ACURA CDX) ซึ่งเป็นรถสายพันธุ์ยุ่นอีกแบบหนึ่งที่ใช้งานนี้เป็นที่ปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" เป็นรถติดป้ายยี่ห้อ อคูรา แบบแรกที่จะมีการผลิตในแผ่นดินจีน โดยบริษัทรถยนต์ทวิสัญชาติ GUANGQI HONDA AUTOMOBILE ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างฝ่ายจีนกับฝ่ายญี่ปุ่น และเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกะทัดรัดในตัวถัง 4.495x1.840x1.600 ม. ที่ต้องรอจนถึงเดือนกันยายน 2016 จึงจะเริ่มการจำหน่ายในเมืองจีน พร้อมกับป้ายราคา 250,000-300,000 หยวน หรือประมาณ 1,375,000-1,650,000 บาทไทย และเครื่องยนต์ที่เลือกไม่ได้เพราะมีเพียงขนาดเดียว คือ เครื่องเทอร์โบเบนซิน 1.5 ลิตร 135 กิโลวัตต์/182 แรงม้าHONDA AVANCIER
ปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" เช่นกัน คือ ฮอนดา อวันซิเอร์ (HONDA AVANCIER) รถนางกวักในบูธของยักษ์รองเมืองยุ่น เป็นรถแบบใหม่ในชื่อเก่า (เคยมีรถชื่อนี้จำหน่ายในญี่ปุ่นมารุ่นหนึ่งแล้วในช่วงปี 1999-2003 แต่เป็นรถอเนกประสงค์) และเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ ที่พัฒนาอีกทอดหนึ่งจากรถแนวคิดติดป้ายชื่อ ฮอนดา คอนเซพท์ ดี (HONDA CONCEPT D) ซึ่งปรากฏตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2015 เป็นรถผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีกำหนดออกโชว์รูมก่อนสิ้นปีลิงได้แก้ว และยังไม่มีแผนที่จะส่งออกจำหน่ายในประเทศอื่น ในระยะแรกจะมีเครื่องยนต์เพียงขนาดเดียว คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินความจุ 2.0 ลิตร ซึ่งทำงานร่วมกันกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ส่วนที่เชื่อกันว่าจะตามมาในภายหลัง คือ เครื่องเบนซินไม่อัดอากาศความจุ 2.4 ลิตร กับระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟMAZDA CX-4
หากตั้งคำถามว่ารถตลาดสายพันธุ์ญี่ปุ่นแบบใหม่ที่เรียกความสนใจได้มากที่สุดในงานนี้คือรถอะไร ? คำตอบก็น่าจะเป็น มาซดา ซีเอกซ์-4 (MAZDA CX-4) ซึ่งก็เป็นรถใหม่อีกแบบหนึ่งซึ่งเลือกใช้งานนี้เป็นที่อวดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลางที่พัฒนาจากรถแนวคิดติดป้ายชื่อ มาซดา โคเอะรุ (MAZDA KOERU) ซึ่งปรากฏตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2015 ตัวถังขนาด 4.633x1.840x1.535 ม. ผลิตในเมืองมังกรโดยโรงงานซึ่งเป็นการร่วมทุนกับฝ่ายจีน คือ FAW CAR COMPANY รูปทรงองค์เอวตัวถังมองในบางมุมดูดีมากแต่ในบางมุมก็ยังงั้นยังงั้น มีกำหนดออกตลาดในเดือนมิถุนายน 2016 พร้อมกับป้ายราคา 159,800-198,900 หยวน หรือประมาณ 879,000-1,094,000 บาทไทย และจะมีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ เครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร 158 แรงม้า กับ 2.5 ลิตร 192 แรงม้าMITSUBISHI ASX
ข่าวคราวค่อนข้างจะเงียบเหงาทั้งๆ ที่เป็นการปรากฏตัวแบบ ASIAN PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในทวีปเอเชีย" คือ มิตซูบิชิ เอเอสเอกซ์ (MITSUBISHI ASX) รถตลาดรุ่นใหม่ของยักษ์เล็กเมืองยุ่นซึ่งกำลังซวดเซเพราะปัญหาอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจนมีข่าวว่าต้องรวมกิจการกับค่ายยักษ์รอง เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัด ในตัวถังขนาด 4.355x1.810x1.625 ม. ซึ่งผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยบริษัทรถยนต์ร่วมทุนทวิสัญชาติ GAC MITSUBISHI MOTORS เริ่มจำหน่ายแล้วไม่กี่วันหลังการเปิดตัวในงานนี้ โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 2 ขนาด คือ เครื่องเบนซินความจุ 1.6 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ กับเครื่องเบนซินความจุ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) ในเมืองแม่ คือ ญี่ปุ่น รถแบบนี้จำหน่ายในชื่อ มิตซูบิชิ อาร์วีอาร์ (MITSUBISHI RVR)BMW X1 L
ค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" มีทั้งรถตลาดและรถแนวคิดเป็นนางกวักเรียกผู้คนเข้าสู่บูธ นางกวักซึ่งเป็นรถตลาด คือ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 แอล (BMW X1 L) รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัดซึ่งไม่มีขายในเมืองแม่ เพราะเป็นรถผลิตในเมืองจีนซึ่งจะมีขายแต่ในตลาดจีนเท่านั้น ไม่ใช่รถอนุกรมใหม่ แต่เป็นรถ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 (BMW X1) รุ่นที่สอง ซึ่งเริ่มจำหน่ายในเมืองเบียร์เมื่อกลางปี 2015 ที่ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในบางจุด เพื่อสนองรสนิยมของผู้ใช้รถเมืองมังกร ซึ่งรังเกียจการนั่งไปในรถที่ยืดแข้งยืดขาไม่ค่อยได้ และหัวใจของการปรับปรุงที่ว่า คือ การยืดช่วงฐานล้อให้ยาวขึ้นประมาณ 8 ซม. ซึ่งก็ส่งผลให้ตัวถังยาวขึ้นประมาณ 8 ซม. ตามไปด้วย มีกำหนดออกตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีลิง โดยมีรถให้เลือก 4 โมเดล คือ BMW X1 SDRIVE 18LI-BMW X1 SDRIVE 20LI-BMW X1 XDRIVE 20LI-BMW X1 XDRIVE 25LIBMW CONCEPT COMPACT SEDAN
ส่วนนางกวักของค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้า" ซึ่งเป็นรถแนวคิด ก็คือ รถติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ คอมแพคท์ ซีดาน (BMW CONCEPT COMPACT SEDAN) ซึ่งอวดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์กวางโจวเมื่อปลายปี 2015 และยังเป็นที่สนใจเมื่อฉายซ้ำอีกครั้งที่งานนี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถเก๋งซีดานขนาดเล็กกะทัดรัด และเป็นต้นแบบของรถตลาด บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 ซีดาน (BMW 1-SERIES SEDAN) ที่ค่ายนี้ตั้งใจจะทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับตลาดจีน ไม่มีจำหน่ายในประเทศอื่นๆ แม้แต่ในเมืองแม่ คือ เยอรมนี หน้าตาและรูปทรงองค์เอวตัวถังซึ่งดูธรรมดาธรรมดาไม่มีจุเด่นสะดุดตาอะไร เป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานในเยอรมนี ซึ่งมี อาดเรียน ฟาน ฮุยดงค์ (ADRIAN VAN HOOYDONK) นักออกแบบชาวดัทช์เป็นผู้กำกับดูแล ได้รับเอกสารบรรยายสรรพคุณมาหลายหน้า แต่อ่านแล้วก็รู้สึกงั้นๆ ไว้รอดูตัวจริงน่าจะดีกว่าMERCEDES-BENZ E-CLASS L
ค่าย "ดาวสามแฉก" ก็ใช้รถที่ทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับตลาดจีนเป็นนางกวักเรียกผู้คนเข้าสู่บูธเช่นกัน คือ รถเก๋งสุดหรูติดป้ายชื่อ เมร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสส์ แอล (MERCEDES-BENZ E-CLASS L) ซึ่งปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เห็นรหัส L คนรักรถก็คงคาดเดากันได้ว่าต้องมีอะไรแน่นอนที่เกี่ยวข้องกับความยาว ก็เป็นอย่างที่เข้าใจนั่นแหละ เพราะนี่คือ เมร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสส์ รุ่นล่าสุดที่มีการเปลี่ยนแปลงในบางจุด เพื่อให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ใช้รถในเมืองมังกร จุดสำคัญที่สุดของการเปลี่ยนและแปลงที่ว่านี้ คือ การยืดความยาวของช่วงฐานล้อจาก 2.939 ม. เป็น 3.079 ม. คือ ยาวขึ้น 14.0 ซม. ซึ่งก็ส่งผลให้ความยาวของตัวถังเพิ่มจาก 4.923 ม. เป็น 5.063 ม. คือ ยาวขึ้น 14.0 ซม. เหมือนกัน ส่วนความกว้างและความสูงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเริ่มจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปีลิง โดยมีรถเพียงโมเดลเดียว คือ MERCEDES-BENZ E320 LAUDI TT RS
บูธของค่าย "สี่ห่วง" ดูจะเป็นพื้นที่ที่ประชาชนชาวจีนดูจะสนอกสนใจกันเหลือเกิน รถใหม่บางคันผู้คนกลุ้มรุมกันจนหามุมดีๆ เพื่อถ่ายภาพแทบไม่ได้เลย ค่ายนี้มีผลงานใหม่หลายชิ้น แต่เนื้อที่หน้ากระดาษกำลังจะหมดแล้วจึงกัดฟันเลือกไว้เพียงชิ้นเดียว คือ รถสปอร์ทคูเปติด ป้ายชื่อ เอาดี ทีที อาร์เอส (AUDI TT RS) ซึ่งอวดโฉมแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานนี้ นับเป็นโมเดลหัวกะทิและโมเดลใหม่ล่าสุดของรถ เอาดี ทีที (AUDI TT) รุ่นใหม่ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 3 และเพิ่งเริ่มจำหน่ายในเมืองแม่เมื่อกลางปีแพะบ้า รถโมเดลนี้มีทั้งตัวถังคูเปอย่างที่เห็นในภาพและตัวถังโรดสเตอร์ซึ่งติดตั้งประทุนหลังคาแบบอ่อนเปิด/ปิดโดยการกดปุ่ม ทั้ง 2 ตัวถังติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 5 สูบเรียง 2.5 ลิตร 294 กิโลวัตต์/400 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ สามารถทำความเร็วสูงสุด 285 กม./ชม.PORSCHE 718 CAYMAN
งานแสดงรถยนต์ระดับ "อินเตอร์" ทุกๆ งาน ค่าย โพร์เช ต้องมีรถรุ่นใหม่ซึ่งปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลเข้าสู่บูธ งานนี้แม้มิอาจเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มลิ้นว่าเป็นงาน "อินเตอร์" แต่ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทของเมืองเบียร์ก็ยังทำอย่างที่เคยทำ คือ นำรถติดป้ายชื่อ โพร์เช 718 เคย์แมน (PORSCHE 718 CAYMAN) ออกอวดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" เห็นชื่อรุ่นแล้วก็อย่าหลงเข้าใจผิดว่าเป็นรถแบบใหม่ เพราะที่จริงแล้วนี่คือ โพร์เช เคย์แมน (PORSCHE CAYMAN) รุ่นที่สาม ซึ่งเริ่มจำหน่ายในเมืองแม่เมื่อต้นปี 2013 และเพิ่งได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ "ยกหน้า" พร้อมกับการเปลี่ยนชื่อรุ่น หาเหตุผลอยู่นานว่าทำไมต้องเปลี่ยน ? จนบัดนี้ก็ยังหาไม่พบ ในเมืองมังกรรถรุ่นนี้จะเริ่มการจำหน่ายในเดือนสุดท้ายของปีลิงวอกหลอกเจ้า และจะมีรถให้เลือก 2 โมเดล คือ PORSCHE 718 CAYMAN กับ PORSCHE 718 CAYMAN SVOLKSWAGEN MAGOTAN
โฟล์คสวาเกน ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องประหลาดใจอะไรเมื่อเราจะรายงานท่านว่า มีรถใหม่อยู่ในบูธของค่ายนี้เป็นกองทัพ แต่เหลือหน้ากระดาษอยู่หน้าเดียวจึงคัดมาได้เพียง 3 คัน คันแรกเป็นรถเก๋งซีดานขนาดกลางติดป้ายชื่อ โฟล์คสวาเกน มาโกทัน (VOLKSWAGEN MAGOTAN) ชื่อที่ไม่ต้องไปหาในประเทศอื่นซึ่งไม่ใช่ประเทศจีน และหลายท่านคงถึงบางอ๋อเมื่อทราบว่า ไม่ใช่รถที่แปลกประหลาดหรือพิสดารอะไร ? แต่กล่าวอย่างตรงเผงไม่มีอ้อมมีค้อม เมื่อจำหน่ายในเยอรมนีรถแบบนี้จะติดป้ายชื่อ โฟล์คสวาเกน พาสสัท (VOLKSWAGEN PASSAT) ที่เห็นในงานเป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุด ผลิตในเมืองจีน และมีกำหนดออกตลาดในเดือนกรกฎาคมของปีลิง ในตัวถังที่หน้าตาแทบไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากรถที่จำหน่ายอยู่ในเยอรมนีVOLKSWAGEN PHIDEON
รถตลาดแบบใหม่อีกแบบหนึ่งที่ยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์นำออกอวดตัวในงานนี้ คือ โฟล์คสวาเกน ฟิเดออน (VOLKSWAGEN PHIDEON) ซึ่งอวดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ไปก่อนแล้วที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่เพิ่งผ่านพ้นไป เป็นรถเก๋งซีดานขนาดโตเต็มพิกัดที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับตลาดจีน และจะไม่มีจำหน่ายในประเทศอื่นใด ตัวถังขนาด 5.050x1.870x1.480 ม. ผลิตที่นครเซี่ยงไฮ้โดยโรงงานซึ่งเกิดจากการร่วม ทุนของฝ่ายเยอรมันกับฝ่ายจีน คือ SAIC MOTOR ต้องอดใจรอจนถึงเดือนกันยายนของปีลิงจึงจะเริ่มการจำหน่ายพร้อมกับป้ายราคา 320,000-360,000 หยวน หรือเท่ากับประมาณ 1,760,000-1,980,000 บาทไทย เป็นรถขับทุกล้อที่จะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 184 กิโลวัตต์/250 แรงม้า กับเครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 6 สูบ 3.0 ลิตร 221 กิโลวัตต์/300 แรงม้าVOLKSWAGEN T-PRIME CONCEPT GTE
ผลงานชิ้นสุดท้ายของยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์ที่เลือกมาให้ชื่นชมกันไม่ใช่รถที่มีขายในตลาด แต่เป็นรถแนวคิดติดป้ายชื่อ โฟล์คสวาเกน ที-พไรม์ คอนเซพท์ จีทีอี (VOLKSWAGEN T-PRIME CONCEPT GTE) ซึ่งก็เป็นรถใหม่อีกคันหนึ่งซึ่งปรากฏตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานนี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่โตมโหระทึก รวมทั้งเชื่อกันด้วยว่าเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้ง 7 ที่นั่ง ที่ค่ายนี้ตั้งใจจะทำขาย โดยใช้โรงงานในสหรัฐอเมริกา และในสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นที่ผลิต ขณะที่ยังอยู่ในฐานะของรถแนวคิด รถคันนี้มีเก้าอี้ที่นั่งเพียง 4 ตัว และติดตั้งระบบขับไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรงความจุ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟ้า ได้กำลังสุทธิสูงสุด 276 กิโลวัตต์/375 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. และวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลประมาณ 50 กม.CITROEN C6
ปิดท้ายรายงานข่าวมหกรรมยานยนต์ปักกิ่งครั้งล่าสุดด้วยรถเก๋งซีดานขนาดโตเต็มพิกัดติดป้ายชื่อ ซีตรอง เซซิซ (CITROEN C6) ซึ่งก็เป็นรถตลาดอีกแบบหนึ่งซึ่งปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานนี้ เป็นคู่ฝาคู่แฝดและผลิตจากโรงงานเดียวกันกับรถ ตงฟง เฟงเชน เอ 9 (DONGFENG FENGSHEN A9) ที่เพิ่งผ่านตาไป คือ โรงงานของค่าย DFM ผู้ผลิตรถยนต์ติดอันดับ "บิกธรี" ของเมืองมังกร และขณะนี้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของค่าย เปอโฌต์/ซีตรอง เครื่องยนต์กลไกก็ใช้ชุดเดียวกันกับรถคู่แฝด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 1.8 ลิตร 149 กิโลวัตต์/200 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สนนราคาค่าตัวคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 200,000-300,000 หยวน หรือประมาณ 1,100,000-1,650,000 บาท วิจารณ์กันว่าเมื่อเทียบกันแล้ว ครึ่งหน้ารถของ ซีตรอง ดูดีกว่า แต่ส่วนท้ายรถจีนเป็นต่อนิดๆABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา, บริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ