เดือนแรกของครึ่งปีหลัง...ชักมีแผ่ว

[table]

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2016/2015

ตลาดโดยรวม,-0.4 % รถยนต์นั่ง,12.9 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),2.3 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-55.7 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,-5.5 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-47.1 % อื่นๆ,6.7 %

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2016/2015

ตลาดโดยรวม,-0.2 % รถยนต์นั่ง,-6.1 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),30.1 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-62.2 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,1.1 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-6.1 % อื่นๆ,-6.8 % [/table]     เพิ่งจะปิดบัญชีการจำหน่ายซื้อขายรถยนต์ใหม่ในประเทศช่วงครึ่งแรกของปี 2559 นี้ไปด้วยตัวเลขที่ปรับตัวลดน้อยลงกว่าช่วงระยะเดียวกันของปี 2558 เพียง 0.2 % ทำให้ความคาดหวังที่จะได้เห็นตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ปี 2559 ผ่านตัวเลขที่ 740,000 คัน ตามที่พี่ใหญ่ โตโยตา คาดการณ์เอาไว้มีความเป็นไปได้จริงมากขึ้น   แต่ยังไม่ทันไร เข้าเดือนที่ 7 ของปี หรือเดือนกรกฎาคม ดูท่าจะยังต้องลุ้นกันต่อไป เพราะไม่รู้ว่าคนขายยังเหน็ดเหนื่อยกับการทำยอดครึ่งปีแรกอยู่ หรือว่าผู้ซื้อส่วนหนึ่งชะลอการตัดสินใจซื้อรถใหม่ในเดือนนี้เอาไว้ก่อน ขอเข้าไปเยี่ยมชมงานบิกมอเตอร์เซลส์ ที่จัดขึ้นในช่วงกลางค่อนไปทางปลายเดือนสิงหาคมเสียก่อน ค่อยฟันธงอีกทีว่าจะขับรถใหม่ป้ายแดงรุ่นไหนอย่างไร   ซึ่งงานบิกมอเตอร์เซลส์ เป็นงานขายรถใหม่รายการใหญ่อีกงานหนึ่ง ที่มีผู้ใหญ่ใจดีจัดเวทีให้บริษัทรถยนต์พร้อมนำรถยนต์เข้าร่วมโชว์ ร่วมแสดง พร้อมกับการเปิดฉากการขายกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ โดยมีข้อแม้ว่าแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อจะต้องพิเศษจริงๆ ซึ่งบริษัทรถยนต์ต่างๆ ขานรับนโยบายนี้กันเป็นอย่างดี แถมปีนี้มีรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นนางกวักเรียกลูกค้าเข้าบูธ และเข้าโชว์รูมตัวแทนจำหน่ายได้เป็นอย่างดี มาสลัดผ้าผ่อนเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการหลายรุ่น อาทิ โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว รุ่นปรับปรุงใหม่ โตโยตา ซีเอนตา มีนีเอมพีวีโมเดลใหม่แกะกล่องสำหรับบ้านเรา เชฟโรเลต์ ทเรลบเลเซอร์ รุ่นบิกไมเนอร์เชนจ์ และฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นย่อยใหม่ เพิ่มเติมอีกหลายรุ่น เป็นต้น   ทำให้บรรยากาศของการสื่อสารการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ ในเดือนกรกฎาคมนี้ เน้นไปที่การนำเสนอสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างช่วงระยะเวลาการจัดงานบิกมอเตอร์เซลส์ ดังกล่าว   กลับมาว่ากันในเรื่องของเดือนกรกฎาคม 2559 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมดอยู่ที่ 60,635 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม ปีก่อน 0.4 % ตัวเลขยอดจำหน่ายที่ไม่เห็นได้บ่อยนัก คือ ยักษ์ใหญ่อย่าง มิตซูบิชิ และนิสสัน ทำยอดจำหน่ายไม่ติด 1 ใน 5 อันดับรถขายดีประจำเดือน โดยผู้มาแทนที่ คือ ฟอร์ด และมาซดา ส่วน โตโยตา อีซูซุ และฮอนดา ยังอยู่กันครบถ้วน โตโยตา จำหน่ายได้มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 20,058 คัน ส่วนแบ่งตลาด 33.1 % อันดับ 2 อีซูซุ 10,661 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.6 % อันดับ 3 ฮอนดา 9,101 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.0 % อันดับ 4 ฟอร์ด (ขึ้นจากอันดับ 5 ในเดือนมิถุนายน) 3,493 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.8 % และอันดับ 5 มาซดา (มาจากอันดับ 7) 3,474 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7 %   ยอดจำหน่ายรวม 7 เดือนของปี 2559 มีทั้งสิ้น 429,262 คัน ลดลง 0.2 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ยอดจำหน่ายสูงสุดยังเป็น โตโยตา ด้วยยอด 128,727 คัน เท่ากับ 30.0 % ของยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด ตามด้วย อีซูซุ 82,953 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19.3 % ฮอนดา 63,053 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.7 % มิตซูบิชิ 32,373 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.5 % และนิสสัน 26,322 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.1 % ส่วน มาซดา กับ ฟอร์ด ยังไม่สามารถเบียดขึ้นมา แต่เวลาที่เหลืออีก 5 เดือนไม่แน่     รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนกรกฎาคมมียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 23,564 คัน ออกอาการสะดุดอยู่เหมือนกัน เพราะลดลงจากเดือนที่ผ่านมา และลดลงจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 5.5 % แต่ก็เป็นอีกเดือนที่ โตโยตา กลับมาเป็นผู้นำความนิยม ถึงจะไม่เพียงพอให้อันดับในยอดจำหน่ายรวมตั้งแต่ต้นปีมาเปลี่ยนแปลงก็ตาม โดยเดือนกรกฎาคมนี้ โตโยตา จำหน่ายได้ 8,782 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.3 % อีซูซุ เป็นอันดับ 2 ยอดจำหน่าย 8,413 คัน ส่วนแบ่งตลาด 35.7 % อันดับ 3 กระแสความนิยมยังแรงดีไม่มีตก ฟอร์ด 2,109 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.0 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 1,243 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.3 % และอันดับ 5 นิสสัน 1,183 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.0 % ยอดจำหน่ายรวม 7 เดือน 173,169 คัน เพิ่มขึ้น 1.1 % อันดับ 1 อีซูซุ 67,877 คัน อันดับ 2 โตโยตา 56,306 คัน อันดับ 3 ฟอร์ด 13,898 คัน อันดับ 4 นิสสัน 10,827 คัน และอันดับ 5 มิตซูบิชิ 10,762 คัน   รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนกรกฏาคมจำหน่ายได้ 1,669 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม ปีก่อน 47.1 % ยอดจำหน่ายรวม 7 เดือนมีทั้งสิ้น 14,878 คัน จากที่ยอดสะสมมาจนถึงเดือนมิถุนายนเป็นบวกอยู่ มาเจอเดือนนี้กลับกลายเป็นยอดจำหน่ายที่ติดลบไป 6.1 % ซะงั้น อันดับ 1 โตโยตา 674 คัน ส่วนแบ่งตลาด 40.4 % (รวม 7 เดือน 8,014 คัน) อันดับ 2 อีซูซุ 360 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.5 %(ยอด 7 เดือน 2,842 คัน) อันดับ 3 ฟอร์ด 352 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.1 %(7 เดือน 2,024 คัน) อันดับ 4 มิตซูบิชิ 143 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.6 % (7 เดือน 1,372 คัน) และอันดับ 5 นิสสัน 75 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.5 % (7 เดือน 441 คัน)   รถเอสยูวี เดือนกรกฎาคมได้ไป 7,837 คัน เพิ่มขึ้น 2.3 % เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปี 2558 ฮอนดา ครองแชมพ์ยอดจำหน่ายอย่างเหนียวแน่น เดือนนี้จำหน่ายไปอีก 2,272 คัน ส่วนแบ่งตลาด 29.0 % ตามด้วย โตโยตา 2,038 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.0 % อันดับ 3 ฟอร์ด 932 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.9 % มิตซูบิชิ อยู่อันดับ 4 ด้วยยอด 751 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.6 % อันดับ 5 อีซูซุ 729 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.3 % รวม 7 เดือน ตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวม 64,855 คัน เพิ่มขึ้น 30.1 % ส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นของ ฮอนดา 27.0 % จากยอดจำหน่ายรวม 17,519 คัน ตามด้วย โตโยตา 16,852 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.0 % มิตซูบิชิ 10,616 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.4 % มาซดา 5,026 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.7 % และฟอร์ด 4,977 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.7 %   รถเอมพีวี เดือนกรกฎาคม 2559 จำหน่ายได้ 384 คัน ลดลง 55.7 % เมื่อเทียบกับกรกฎาคม ปี 2558 โตโยตา อยู่อันดับ 1 ด้วยยอด 152 คัน ส่วนแบ่งตลาด 39.6 % อันดับ 2 ฮอนดา 92 คัน ส่วนแบ่งตลาด 24.0 % ตามด้วยอันดับ 3 ซูซูกิ 59 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.4 % อันดับ 4 เกีย 32 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.3 % และอันดับ 5 ฮันเด 24 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.3 % ผ่านไป 7 เดือนตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวม 3,209 คัน ลดลง 62.2 % อันดับ 1 ถึง 5 ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็น โตโยตา 1,131 คัน ส่วนแบ่งตลาด 35.2 % ฮอนดา 758 คัน ส่วนแบ่งตลาด 23.6 % ซูซูกิ 509 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.9 % นิสสัน 319 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.9 % และเกีย 200 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.2 %   รถยนต์ประเภทอื่นๆ (ยกเว้นรถยนต์นั่ง) เดือนกรกฎาคม 3,009 คัน เพิ่มขึ้น 6.7 % รวม 7 เดือน 21,855 คัน ลดลง 6.8 %