รายละเอียดของลำโพงรุ่นนี้ ประกอบด้วยลำโพงเสียงทุ้มขนาด 17 ซม. ทำงานร่วมกับลำโพงเสียงแหลม แบบซอฟท์โดม ขนาด 28 มม. ในกรณีที่ใช้เป็นลำโพงแยกชิ้น 2 ทาง สามารถตอบสนองความถี่ 25-35,000 HZ โดยมีความไววัดได้ 89 ดีบี (1 วัตต์/เมตร) รับกำลังขับโดยเฉลี่ย 50-150 วัตต์ มีกล่องวงจรแบ่งเสียง PASSIVE XOVER แบบ 2 ทาง ในลำโพงชุดนี้ให้มาด้วย ในกรณีที่เจ้าของรถต้องการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม PIONEER ก็ได้เพิ่มลำโพงเสียงกลาง มิดเรนจ์ ขนาด 66 มม. ที่ช่างติดตั้งสามารถจัดระบบลำโพงหน้าเป็นแบบ ACTIVE 3 ทาง โดยที่ลำโพงเสียงกลางจะถูกติดตั้งให้กับเสียงแหลมแรงขับได้สูง แบบไม่น่าเชื่อ ถ้าคุณติดตั้ง HIGH PASS ที่ 800 HZ และมีห้อง BACK CHAMBER และปรับลดลงที่ 400 HZ (12 DB/OCT) การรับแรงขับก็จะลดลงเป็น 60 วัตต์ พูดง่ายๆ คือ ลำโพง 3 ทางชุดนี้ ถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่มักจะเกิดขึ้นในกรณีที่คุณต้องการปรับตั้งจุดตัด และความดังตามความต้องการ เพื่อเรียกคะแนนจากกรรมการผู้ตัดสิน
แต่จากข้อมูลที่ทาง PIONEER ให้มา เจ้ามิดเรนจ์ตัวนี้สามารถตอบสนองความถี่ได้กว้างมากอย่างไม่น่าเชื่อ คือ ตัวเลขของความถี่ตอบสนองทำได้ 125-25,000 HZ คุณจะเห็นว่าย่านสูงไปได้ถึง 25,000 HZ แทบจะใช้แทนเสียงแหลมธรรมดาทั่วไปได้เลย ! ส่วนตัวเลขความไวบอกว่าวัดได้ 85 ดีบี/วัตต์/เมตร สาเหตุที่ลำโพงมิดเรนจ์ตัวนี้มีย่านการตอบสนองที่กว้างมาก เนื่องจากว่า กรวยของลำโพงมีโครงสร้างแบบ 2 ชั้นประกบกัน ทำจาก ARAMID FIBRE และ PULP ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง สามารถคงรูปทรงได้ทุกความถี่ตอบสนอง เป็นเทคนิคใหม่ๆ ที่วิศวกรนำมาใช้ เราเข้าใจว่า PIONEER ได้นำเทคนิค และวัสดุ ตลอดจนโครงสร้างใหม่ๆ ที่ค้นพบจากการค้นคว้า และพัฒนาลำโพงบ้านอย่างต่อเนื่องมาหลาย 10 ปีมาใช้ จึงไม่น่าประหลาดใจ ที่พอเราได้มีโอกาสฟังของจริง ทำให้เราต้องให้ลำโพงชุด 3 ทางของ PIONEER นี้เป็น "สิงห์สนามแข่งเครื่องเสียง" ตัวจริง เพื่อความชัดเจน ถ้าสนใจลองหาฟังของจริง จากร้านติดตั้งที่มีประสบการณ์ร่วมกับทีม PIONEER ที่ทำรถแข่ง คุณจะได้ความมั่นใจเต็มร้อย ก่อนการตัดสินใจครับ บทความแนะนำ

