โตโยตา ปราโด
หันมาดูคู่ชกทางเมืองปลาดิบกันบ้าง เป็นรถเอสยูวีค่าย โตโยตา ปราโด สีขาว เจ้าของเน้นเรื่องคุณภาพเสียง พอๆ กับเรื่องของพลังเสียง จอทีวีขนาด 22” จำนวน 2 ตัว ติดตั้งบนตู้ซับวูเฟอร์ เวลาเปิดดูจอจะพับขึ้นมา ชุดเสียงทั้งหมดถูกติดตั้งอย่างสวยงามท้ายรถ จุดเด่นเป็นลำโพงซับวูเฟอร์ขนาด 12” 2 ตัว ติดตั้งแบบยิงย้อนเข้าตู้ โดยหันท้ายแม่เหล็กออกนอกตู้ เพื่อช่วยระบายความร้อนได้ด้วย ถ้ามองจากท้ายรถ มุมซ้าย/ขวาจะมองเห็นลำโพงกลาง/แหลม ขนาด 6" 4 ตัว และเสียงแหลมแบบฮอร์น 1 คู่ โดยมีแอมพ์แบบ 4 แชนแนล ของ ROCKFORD FOSGATE ขนาด 100 วัตต์x4 ป้อนวัตต์ให้ลำโพงกลาง/แหลมทั้งระบบ รวมถึงลำโพง COAXIAL แบบแกนร่วม จำนวน 6 ตัว ติดตั้งอยู่บนประตูที่ 5 ท้ายรถ โดยจะต้องเปิดขึ้น ตอนเปิดใช้งานเต็มระบบ เป็นชุดที่เน้นการฟังเพลงแบบ "คอนเสิร์ท" นอกรถ ส่วนการออกแบบและการติดตั้งจะเน้นแสง/สี/เสียง เป็นพิเศษ เพราะฟรอนท์เอนด์ของรถคันนี้เป็น ALPINE รุ่น F#1 ของชาวซามูไร และที่เรามองไม่เห็น คือ การติดแผ่นแดมพ์ให้กับโครงตัวรถ นักเลงเครื่องเสียงชาวตะวันตก และชาวเอเชีย มีจุดเหมือนที่แตกต่างกันพอสมควร ใครชอบแบบไหน เลือกไปจัดชุดกันได้นะครับ

เชฟโรเลต์ คาพไรศ์
ขอเปิดฉากเรื่องเครื่องเสียงรถยนต์ ด้วยรสนิยมของคนผิวสีแบบ STANCE ที่มีมานานในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราได้นำเสนอมาโดยตลอด ขณะเดียวกันก็ได้เปรียบเทียบกับแนวการตกแต่ง และจัดชุดของชาวเมืองปลาดิบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็มีจุดหมายของพลังเสียงดนตรีที่เหมือนกัน รูปแบบ STANCE ของสหรัฐอเมริกาเป็นรถค่าย เชฟโรเลต์ ปี 1973 รุ่น คาพไรศ์ แบบ 2 ประตู เจ้าของรถคันนี้เน้นเรื่อง "พละกำลัง" ทั้งของเครื่องยนต์ และพลังเสียงมากเป็นพิเศษ แต่ขณะเดียวกันก็รักษารูปแบบรถให้ดูแบบเดิมๆ เครื่องยนต์ขนาด 9,900 ซีซี อยู่ใต้ฝากระโปรง พร้อมด้วยฝูงม้าเกือบ 1,000 ตัว บวกกับกระทะล้อขนาด 26” ในส่วนของชุดเสียง ใครจะเชื่อว่าในรถคันนี้จะซ่อนลำโพงซับวูเฟอร์ขนาด 15” ของ KICKER จำนวน 6 ตัว เป็นรุ่น COMP VX พร้อมเพาเวอร์แอมพ์ขับเสียงเบสส์ ขนาด 3,000 วัตต์ 3 ตัว ส่วนลำโพงกลาง/แหลม ใช้ขนาด 6” จำนวน 12 ตัว ลำโพงวูเฟอร์ขนาด 8” จำนวน 4 ตัว และมีลำโพงซับวูเฟอร์ขนาด 10” จำนวน 4 ตัว แอมพ์ขับกลาง/แหลม ขนาด 2,200 วัตต์ 2 ตัว พร้อมฟรอนท์เอนด์ CLARION และมี EQS 746 รวมอยู่ด้วย

