ชีวิตอิสระ
ดื่มด่ำทะเลสาบแก่งกระจาน
โครงการชั่งหัวมัน ชื่อนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็ดพระเจ้าอยู่หัว ในจังหวัดเพชรบุรี "ชีวิตอิสระ" ฉบับนี้ จะพาไปเยี่ยมชมบ้านไร่ของในหลวงโครงการ ฯ ล่าสุด พร้อมดื่มด่ำความงดงามยามเย็นของทะเลสาบแก่งกระจานเดินทางลงใต้ ตามถนนพระราม 2 โครงการชั่งหัวมัน อยู่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เราจึงมุ่งหน้าลงใต้ตามถนนพระราม 2 ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายตัดกับถนนเพชรเกษม (4) ที่แยกวังมะนาว เพื่อเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ครั้งนี้ เราเดินทางพร้อมเพื่อนใหม่จากแดนโสม ฮันเด ทูซอน ขับเคลื่อน 4 ล้อ รถเอสยูวีขนาดกำลังเหมาะรูปทรงเซกซี มีความโฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมขุมพลังดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีแรงม้าให้เรียกใช้ถึง 184 ตัว ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่เลือกปรับจังหวะเกียร์ได้แบบเกียร์ธรรมดา ดังนั้นไม่ว่าจะเปลี่ยนเลนเพื่อเร่งแซง หรือจะทำความเร็วในทางโค้ง ก็กลายเป็นเรื่องง่ายในทันที แถมยังประหยัดน้ำมันกว่า 14 กม./ลิตร ในการใช้งานทั่วไปอีกด้วย ผมเพลิดเพลินกับเครื่องยนต์ และระบบรองรับอีกระยะหนึ่ง ก็เข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรี พอเลยช่วง อำเภอเขาย้อย ให้เตรียมตัวเบี่ยงซ้ายเพื่อขึ้นสะพานไปทางขวา ตรงป้ายไปอำเภอหนองหญ้าปล้อง ตลอดเส้นทางไปโครงการชั่งหัวมัน จะมีป้ายบอกเป็นระยะ ยังไงก็ไม่หลงแน่นอน โครงการชั่งหัวมัน พลิกฟื้นสภาพดินเสื่อมโทรม พื้นที่ในบริเวณนี้แต่เดิมมีสภาพเป็นดินลูกรัง มีสภาพเสื่อมโทรม และกันดาร ชาวบ้านละแวกนี้จึงนิยมทำไร่อ้อย และปลูกต้นยูคาลิพทัส เพื่อตัดขายเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากไม่สามารถเพาะปลูกพันธุ์พืชชนิดอื่นได้ ด้วยความเอาพระทัยใส่ของพระองค์ท่าน ที่อยากเห็นราษฎรใช้ที่ดินของตัวเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองศ์ ซื้อที่ดินกว่า 250 ไร่ ที่มีสภาพเสื่อมโทรมต่อจากราษฎร และมีพระราชดำริให้ใช้พื้นที่เหล่านี้ เพื่อทดลองเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจต่างๆ ที่มีอยู่ในอำเภอท่ายาง และพื้นที่ใกล้เคียง และยังจัดสรรให้เป็นโครงการตัวอย่างด้านการเกษตร โดยให้ภาครัฐ และเอกชน รวมถึงชาวบ้านช่วยกันดูแล และแลกเปลี่ยนแนวคิดร่วมกันอย่างบูรณาการ โดยไม่พึ่งพาสารเคมีใดๆ ใช้เพียงจุลินทรีย์ชีวภาพ จากธรรมชาติเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชนที่สนใจ ได้เข้าชมอีกด้วย "ชั่งหัวมัน" ไม่ใช่ "ช่างหัวมัน" ในสมัยที่ตั้งโครงการ ฯ ขึ้นใหม่ ชาวบ้านมักแปลความหมายชื่อโครงการไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า "ช่างหัวมัน" หมายถึง ปล่อยวาง ตัดจากปัญหาต่างๆ แต่แท้จริงแล้วหมายถึง "ชั่งน้ำหนักหัวมันในตาชั่ง" นั่นเอง เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล ทรงมีพระราชประสงค์ให้นำหัวมันเทศที่ชาวบ้านมาถวาย ไปวางไว้บนตาชั่งแบบโบราณ แล้วพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพ ฯ ต่อมาเมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังพระราชวังไกลกังวลอีกครั้ง ก็พบว่า หัวมันที่วางไว้บนตาชั่ง แตกใบอ่อนขึ้นมา จึงรับสั่งให้นำหัวมันนั้น ไปปลูกใส่กระถางไว้ภายในพระราชวังไกลกังวล และโปรดเกล้า ฯ พระราชทานต้นมันเทศนี้มาปลูกขยายพันธุ์ในพื้นที่โครงการ ฯ จึงกลายมาเป็นที่มาของ "ชั่งหัวมัน" ที่พระราชทานให้แก่โครงการนี้ แปลงปลูกกว้างไกล สุดลูกหูลูกตา เนื้อที่สุดลูกหูลูกตาของโครงการ ฯ นี้ ถูกจัดสรรทำการเกษตรแบบผสมผสาน มีแปลงทดลองปลูกพืชเศรษฐกิจหลากหลายชนิด และยังจัดสรรพื้นที่อย่างสวยงาม กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้คนที่เยี่ยมชมโครงการ ฯ ได้เพลิดเพลินอีกด้วย พืชพันธุ์ที่ทดลองปลูก แยกได้เป็น 3 ประเภท คือ พืชผักสวนครัว ได้แก่ มะเขือเทศ มะเขือเปราะ พริก กะเพรา โหระพา มะนาวแป้น ผักชี ผลไม้ ได้แก่ สับปะรดปัตตาเวีย แก้วมังกร มะละกอแขกดำ มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวแกง ชมพู่เพชรสายรุ้ง กล้วยน้ำว้า กล้วยหักมุก พืชเศรษฐกิจ ได้แก่ อ้อยโรงงาน มันเทศญี่ปุ่น มันเทศออสเตรเลีย มันต่อเผือก มันปีนัง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวเหนียวพันธุ์ชิวแม่จัน ข้าวเจ้าพันธุ์ข้าวหอม ข้าวเจ้าพันธุ์ลีซอ ข้าวเจ้าพันธุ์ข้าวขาว ยางนา ยางพารา ชมพู่เพชร ผลผลิตที่ได้จากโครงการ ฯ ถูกจัดจำหน่ายโดยร้านโกลเดนเพลศ (GOLDEN PLACE) ของ บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ยังมีการปศุสัตว์ เช่น การเลี้ยงฟาร์มโคนม การเลี้ยงไก่ไข่ และสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจอื่นๆ รวมถึงการผลิตพลังงานสะอาด เช่น ทุ่งกังหันลม (WIND FARM) และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (SOLAR CELLS) ที่สามารถจัดจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นอีกหนึ่งรายได้จากธรรมชาติที่ยั่งยืน มาไม่ยาก มีป้ายบอกตลอดทาง โครงการชั่งหัวมัน ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 บ้านหนองคอไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี การมาโครงการ ฯ นี้ สามารถเข้าได้หลายทาง ถ้าเข้าทางถนนสายหลัก จะมีป้ายบอกทางอย่างละเอียด ภายในโครงการ ฯ เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชม วันอังคาร-วันอาทิตย์ ไม่เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 8.30-18.00 น. โดยมีรถนำชมขนาด 35 ที่นั่งคอยให้บริการ...ฟรี ! แต่ถ้าใครต้องการออกกำลังกาย ทางโครงการ ฯ มีรถจักรยานให้ยืมปั่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดีๆ ประจำวัน ที่จัดเตรียมไว้ให้ความรู้ด้านการเกษตรด้วย เช่น การเพาะเลี้ยงไส้เดือน การเลี้ยงโคนม หรือการปลูกพืชผักต่างๆ เป็นต้น ตามวันและเวลาที่เตรียมไว้ ทางโครงการ ฯ ได้ขอความร่วมมือในการเก็บค่าบริการเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 15 ปีขึ้นไป) คนละ 20 บาท นักเรียน นิสิต นักศึกษาในเครื่องแบบ คนละ 10 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 140 ซม.) 10 บาท ส่วนพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี นักบวช ผู้พิการ และเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ได้รับการยกเว้นค่าบริการ เดินทางสู่เขื่อนแก่งกระจาน สถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน หลังจากได้เรียนรู้โครงการชั่วหัวมัน ไปแล้ว เราเดินทางต่อ มีจุดหมายที่เขื่อนแก่งกระจาน สถานที่พักผ่อนของเราในคืนนี้ เขื่อนแก่งกระจาน ตั้งอยู่ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี 53 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน โดยมีความยาวของสันเขื่อน 760 เมตร กว้าง 8 เมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 106 เมตร บริเวณใต้เขื่อนติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง ขนาดกำลังผลิต 19,000 กิโลวัตต์ สร้างพลังงานเฉลี่ยประมาณ ปีละ 70 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง นอกจากนี้ยังจ่ายน้ำให้พื้นที่การเกษตรกว่า 174,000 ไร่ อีกด้วย รอบๆ บริเวณเขื่อนเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 45 ตารางกิโลเมตร มีเกาะกลางน้ำอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือชมทัศนียภาพรอบเกาะได้ โดยเฉพาะการชมฝูงลิงว่ายน้ำ ส่วนใครที่นิยมตกปลา ที่นี่ก็มีปลาน้ำจืดอยู่อย่างชุกชุมหลากหลายชนิด รับรองได้ว่า ต้องได้ปลากลับบ้านอย่างแน่นอน ขับรถลงชายหาด ดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็น บริเวณรอบๆ ทะเลสาบ ถ้ามาช่วงน้ำลดมากๆ เราสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวลงไปวิ่งเล่นริมชายหาดได้ บรรยากาศที่นี่สวยงามไม่แพ้ชายทะเล ยิ่งถ้ามาในช่วงเวลาเย็น จะเห็นพระอาทิตย์ตกเหนือกลุ่มภูเขา โดยมีน้ำจากทะเลสาบเป็นฟอร์กราวน์ด สะท้อนแสงระยิบระยับ สร้างบรรยากาศสุดโรแมนทิคได้อย่างไม่รู้ตัว นอกจากนี้บริเวณถนนสันเขื่อน ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามยาวกว่า 3 กิโลเมตร เหมาะมากสำหรับกิจกรรมออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิ่งเบาๆ หรือปั่นจักรยานก็เยื่ยมทั้งนั้น ถ้าหากออกกำลังกายจนเหนื่อยแล้ว บริเวณรอบๆ ทะเลสาบ ยังมีร้านอาหารน้อยใหญ่มากมาย ไว้คอยบริการ ร้านอาหารแถบนี้มักอยู่ติดริมน้ำ สามารถชมความงามของทะเลสาบจากโต๊ะทานข้าวได้เช่นกัน โดยเมนูอาหารของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นปลาน้ำจืด ที่หาได้จากที่นี่ รับประกันเรื่องความสด ที่กิน มาเยือนแก่งกระจานทั้งที ต้องหาร้านอาหารบรรยากาศดีๆ รสชาติอร่อย "วิโรจน์แก่งกระจานรสเด็ด" ตอบโจทย์ผมได้หมด เนื่องจากเป็นร้านที่อยู่ติดทะเลสาบ มีทิวทัศน์สวยงาม และขึ้นชื่อเรื่องความสด ผมสั่งปลานิลทอดราดพริก ต้มยำปลาคัง และผัดผักกูด รสชาติอาหารที่นี่กลมกล่อมดี มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง ที่นอน ที่พักบริเวณรอบๆ เขื่อนมีมากมาย แต่ผมเลือก "บ้านลุงแกะโฮมสเตย์" เนื่องจากอยู่ติดน้ำ โปร่งโล่ง ให้บรรยากาศที่ดี และมีความเป็นส่วนตัวสูง ห้องพักที่นี่ราคาประมาณ 1,000-1,500 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารเล็กๆ รวมถึงอุปกรณ์ทางน้ำให้เลือกเล่นอีกมากมาย ขอขอบคุณ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เอื้อเฟื้อพาหนะสำหรับการเดินทางในครั้งนี้
ABOUT THE AUTHOR
วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)