ซีรีส์ 4 คือ ซีรีส์ 3 เดิมที่เติบโตขึ้นอย่างได้สัดส่วน ลงตัว มีทรวดทรงองค์เอวเป็นแบบคูเป 4 ประตู แลดูเพรียว และสปอร์ทกว่ารุ่นพี่ ซีรีส์ 5ครั้งนี้เราเดินทางไป "บิลเบา" เมืองติดชายทะเลด้านเหนือของประเทศสเปน คณะเราเป็นสื่อมวลชนกลุ่มแรกๆ ที่มีโอกาสได้ลอง 2 รุ่นล่าสุดของ บีเอมดับเบิลยู คันหนึ่งเป็นซีดานคูเป ส่วนอีกคันหนึ่งเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งคูเป ทั้งคู่มีรหัสนำหน้าด้วยเลข 4 เหมือนกัน มิติของ ซีรีส์ 4 นั้นใกล้เคียงกับ ซีรีส์ 3 มาก โดยยืดความยาว และความกว้างออกด้านละ 14 มม. (เท่ากันพอดี) ปรับลดความสูงลง (40 มม.) ทั้ง 2 รุ่นนี้มีฐานล้อเท่ากัน (2,810 มม.) แล้วหากนำไปเปรียบเทียบกับ ซีรีส์ 4 คูเป จะพบว่ามิติตัวถัง ความยาว ความกว้าง และระยะฐานล้อเท่ากันพอดิบพอดี เพียงแต่มีความยาว และความสูงของส่วนหลังคามากกว่า (112 มม. และ 12 มม. ตามลำดับ) สำหรับผมแล้ว ตัวถังของ ซีรีส์ 4 กรัน คูเป ดูเข้าท่ากว่ารุ่น กรัน ตูริสโม ในตระกูลของ บีเอมดับเบิลยู เพราะมันสวยกว่ามาก ทั้งๆ ที่มีฝาท้ายเปิดขึ้นแบบเดียวกัน ประตูทั้ง 4 บาน มีหน้าต่างแบบ ไร้กรอบ สไตล์รถคูเปสมัยใหม่ เสาบี-พิลลาร์ สีดำเงา หนาและใหญ่เสริมความแข็งแรง ห้องโดยสารภายในตกแต่งในแบบฉบับ บีเอม ฯ แผงควบคุมด้านหน้าหันองศาเอนเข้าหาผู้ขับ ตำแหน่งเบาะหลังนั่งสบาย เพิ่มเนื้อที่ศีรษะ เบาะทรงสปอร์ทกระชับลำตัวทั้ง 4 ตำแหน่ง โดยเฉพาะคู่หลังเป็นหลุมตื้นๆ ทำให้ตำแหน่งที่นั่งตรงกลาง นั่งได้เพียงระยะทางสั้นๆ เท่านั้น (เรียกว่าที่นั่งแบบ 4+1) เบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 40:20:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ใหญ่กว่ารุ่น คูเป ถึง 35 ลิตร และเมื่อพับเบาะลงเพิ่มความจุได้ถึง 1,300 ลิตรเลยทีเดียว คูเป คันนี้ออกแบบได้ดี ที่นั่งด้านหลังเข้า/ออกได้สะดวก ไม่ติดศีรษะ แต่ข้อเสียที่พบ คือ ในห้องโดยสารไม่มีที่ยึดจับบริเวณหลังคามาให้ เครื่องยนต์ ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ มีทั้งเบนซิน และดีเซล ในรุ่นเบนซินมี 3 รุ่นย่อย 420 ไอ (4 สูบ 1,997 ซีซี 184 แรงม้า) 428 ไอ (4 สูบ 1,997 ซีซี 245 แรงม้า) 435 ไอ (6 สูบ 2,979 ซีซี 306 แรงม้า) โดย XDRIVE ระบบขับเคลื่อนพิเศษมีให้เลือกเฉพาะรุ่น 428 ไอ ส่วนรุ่นดีเซลนั้นมี 2 รุ่นย่อย 418 ดี (4 สูบ 1995 ซีซี 143 แรงม้า) 420 ดี (4 สูบ 1,995 ซีซี 184 แรงม้า) และ XDRIVE มีให้เลือกเฉพาะรุ่น 420 ดี ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติสเตพทรอนิค 8 จังหวะ คันที่เราได้ลองครั้งนี้ คือ 428 ไอ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ สามารถรีดพละกำลังได้ถึง 245 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รตน. แรงบิดสูงสุดที่ 35.7 กก.-ม. ที่ 1,250-4,800 รตน. อัตราเร่งออกตัว 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที อัตราสิ้นเปลืองที่โรงงานเขาแจ้งไว้ คือ 15.2 กม./ลิตร (6.6 ลิตร/100 กม.) และถ้าเลือกใช้เกียร์อัตโนมัติ สเตพทรอนิค 8 จังหวะ จะทำให้ความประหยัดขยับเป็น 15.9 กม./ลิตร (6.3 ลิตร/100 กม.) เลยทีเดียว เสียงเครื่องหวานเสนาะหู เมื่อคิคดาวน์ ทำให้รู้สึกถึงความรื่นรมย์ในการขับขี่ พวงมาลัย EPS (ELECTRIC POWER STEERING) ปรับความไวแปรผันตามความเร็ว ตอบสนองได้คม ละเอียด และควบคุมตำแหน่งล้อให้เป็นไปตามสั่ง เกียร์ 8 จังหวะปรับเปลี่ยนได้เร็ว ชิด ต่อเนื่อง และนุ่มนวลจนแทบจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ สามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ที่คันเกียร์ และแพดเดิล ชิฟท์ที่พวงมาลัย ตำแหน่งถนัดมือ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ค่อนไปกลาง ซุกเข้ามาในส่วนหน้าของห้องโดยสาร ผนวกกับโครงสร้างแข็งแรง น้ำหนักเบา ทำให้การกระจายน้ำหนักทำได้ดี เป็นกลาง ได้สัดส่วน ส่งผลให้การเข้าโค้งมั่นคง และแม่นยำ แถมยังได้ความนุ่มนวลจากช่วงล่างด้านหลังแกนยึด 5 แขน มั่นใจการวางตำแหน่งล้อ เข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเรื่องของความประหยัด วิศวกรเขาพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูง (เครื่องเล็กแต่แรง) เลือกใช้โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา และออกแบบให้ตัวรถมีอากาศพลศาสตร์ต่ำ นอกจากนั้นแล้วยังเสริมด้วยเทคโนโลยีอีกเพียบอย่างเช่น ระบบเบรคแบบชาร์จไฟกลับ ระบบสตาร์ทสตอพ ระบบเกียร์อัจฉริยะ และโหมดประหยัด ECO PRO ช่วงความเร็ว 50-160 กม. ขณะวิ่งไหลๆ ด้วยความเร็วคงที่ ระบบขับเคลื่อนจะถูกปลดออกชั่วขณะเมื่อคนขับยกเท้าออกจากคันเร่ง เพื่อลดแรงต้านที่สร้างภาระให้กับเครื่องยนต์ มันเหมือนการล่องเรือออกทะเลโดยใช้แรงเฉื่อยแทนกำลังขับจากเครื่องยนต์ ช่วยเสริมความประหยัด ลดความสิ้นเปลืองอีกแรง ซีรีส์ 4 กรัน คูเป นับเป็นการต่อยอดแนวคิดของ ซีรีส์ 6 กรัน คูเป ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้ได้อย่างลงตัว ปั้นให้เป็นสปอร์ท ขับสบาย เสียบกลางช่องว่างระหว่างรุ่น ภายนอกสวยงามจนผมอยากจะยกตำแหน่งคูเป 4 ประตู ที่สวยที่สุดให้ไปครองเลยทีเดียว
บทความแนะนำ