ทดลองขับต่างแดน
BMW จัดทริพสุดประทับใจ ชมและลองขับ จากเยอรมนีไปฝรั่งเศส
BMW Thailand จัดทริพสุดเอกซ์คลูซีฟ สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถ BMW M GTS หนึ่งในพโรแกรม BMW Ultimate Joy สัมผัสประสบการณ์ขับรถ BMW M Performance เกือบทุกรุ่น จากเยอรมนีไปฝรั่งเศส ชมวิวธรรมชาติตลอดทาง และร่วมเข้าคอร์สอบรม BMW M Intensive Training ที่สนาม Nurburgring สนามแข่งรถระดับตำนาน ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโลก โดยมีผู้ร่วมทริพทั้งหมด 6 ท่านวันแรก เป็นการเปิดทริพที่น่าประทับใจ เพราะแต่ละคนที่มาร่วมทริพ ต่างมีความชื่นชอบหลงใหลในบแรนด์ BMW เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว BMW Thailand จึงพาเข้าชม BMW Welt และ BMW Museum อย่างละเอียด ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนรัก BMW ไม่ควรพลาด โดยเริ่มจาก BMW Welt หรือ BMW World ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมแรกในโลกยุคใหม่แห่งการสื่อสาร สามารถสะท้อนความเป็น BMW ให้ลูกค้า และผู้ชมทั่วโลก เข้าถึงบแรนด์ได้อย่างชัดเจน แสดงความเป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่น ภายในอาคาร ตกแต่งอย่างสวยงามทันสมัย ใส่ใจในทุกรายละเอียด แบ่งออกเป็นหลายส่วน อาทิ BMW Exhibition แสดงรถยนต์ทุกรุ่นของ BMW ตั้งแต่ 1 Series ถึง 7 Series BMW M Exhibition แสดงตำนานแห่งตัวอักษร M ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวอักษรที่ทรงพลังที่สุดในโลก โดยจัดแสดงรถ BMW M Performance หลากหลายรุ่น BMW i Exhibition จัดแสดงเทคโนโลยีไฮบริด การทำงานของเครื่องยนต์ เทคโนโลยีการใช้วัสดุลดน้ำหนักตัวถัง และการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ให้ผู้ชมได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น มีทั้งรถยนต์ BMW i3 และ BMW i8 การตกแต่งพื้นที่ สะท้อนการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน MINI Exhibition ทันทีที่ก้าวเข้าสู่พื้นที่นี้ ก็สัมผัสได้ถึงความเป็น มีนี ที่ไม่สามารถมีใครเลียนแบบได้ แฝงอารมณ์มอเตอร์สปอร์ท ด้วยโซนของ John Cooper Works มีเกมให้เล่นสนุกสนาน และมีรถ MINI แสดงครบทุกรุ่น Rolls-Royce Motor Cars Exhibition ให้อารมณ์หรูหรา บ่งบอกความประนีต ใส่ใจรายละเอียด ทุกขั้นตอนการผลิต เหมาะสมกับราคา BMW Motorcycle Exhibition มุมโปรดของคนชื่นชอบรถจักรยานยนต์ มีรถแสดงครบทุกรุ่น ตกแต่งพื้นที่ตามคอนเซพท์เอาใจเหล่าไบเคอร์ Automobile Delivery พิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ BMW สถานที่แห่งนี้ นอกจากจะเป็นการสื่อสารเอกลักษณ์ความเป็น BMW และการจัดแสดงรถยนต์ทุกรุ่นของ BMW แล้ว ยังเป็นพื้นที่สำหรับการส่งมอบรถ ด้วยการบริการพิเศษ มีการให้ข้อมูลรถอย่างทันสมัย สร้างความประทับใจ และสัมผัสความรู้สึกที่แตกต่างเหนือระดับ แก่ผู้มารับรถ อีกมุมที่น่าสนใจคือ BMW Lifestyle Shop ถือว่าเป็นชอพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก รวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ทุกคอลเลคชันของ BMW และ MINI ไว้ให้เลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน ข้ามมาอีกฟากหนึ่งของ BMW Welt เป็นที่ตั้งของ BMW Museum สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1973 เป็นสถานที่รวบรวมรถสะสม รถและมอเตอร์ไซค์รุ่นสำคัญ และหายากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กว่า 100 ปี มีทั้งหมด 120 คัน มาดูกันว่า มีรถคันไหน ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของ BMW Museum บ้าง BMW R32 รถมอเตอร์ไซค์คันแรก ที่ BMW ผลิตเป็นต้นแบบของการใช้เครื่องยนต์แบบสูบนอน ประสบความสำเร็จด้านยอดขายเป็นอย่างมากในปี 1923 BMW 303 รถเก๋งขนาดเล็กของ BMW ที่ผลิดตั้งแต่ปี 1933-1934 เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญหลายอย่างของ BMW เช่น เป็นรถคันแรกที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง และกระจังหน้าไตคู่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ BMW มาจนถึงทุกวันนี้ และยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยีการใช้วัสดุน้ำหนักเบามาใช้อีกด้วย BMW 328 Roer ผลิตครั้งแรกในปี 1936 หลังจาก BMW เริ่มผลิตรถยนต์ได้เพียง 7 ปี มีแค่ 464 คัน แต่กลายเป็นหนึ่งในรถสปอร์ท 2 ที่นั่ง ที่แรงและหรูที่สุดในสมัยนั้น BMW 507 เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า BMW 507 เป็นรถสปอร์ทที่สวยที่สุดในตอนนั้น เนื่องจากว่า BMW ได้ดีไซจ์เนอร์ที่ชื่อว่า Albrecht Graf Goertz เป็นผู้ออกแบบให้ และได้ปรากฏตัวครั้งแรกในสายตาทั่วโลกที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท เดือนกันยายน ในปี 1955 และเป็นที่กล่าวขานในวงการสื่อมวลชนว่าเป็น “ความยิ่งใหญ่ของ BMW” แต่เนื่องจาก BMW 507 ราคาสูงไป จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก จึงผลิตเพียงแค่ 254 คันเท่านั้น ถือว่าเป็นรถคลาสิคที่น่าสะสมและมีค่ามากที่สุดในโลกคันหนึ่ง BMW Isetta 250 รถยนต์เล็กทรงไข่ รูปแบบสามล้อ เปิดประตูเข้าจากด้านหน้า เป็นรถที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 1950 ออกแบบโดยวิศวกรชาวอิตาลี จากบริษัท ISO Autoveicoli S.p.A. เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งต้นกำเนิดเป็นบริษัทผลิตตู้เย็น หลังจากที่ BMW ได้ซื้อลิขสิทธิ์รถ Isetta มา ก็ได้นำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ได้แปลงจากเครื่องยนต์ 2 จังหวะ สูบคู่ มาเป็นเครื่องยนต์ 250 ซีซี 4 จังหวะ สูบเดียว โดยนำเครื่องยนต์มาจากรถมอเตอร์ไซค์ R25/3 ส่วนการออกแบบภายนอก ปรับเปลี่ยนโดยนำไฟหน้ามาติดไว้ด้านข้างรถ และวางโลโก BMW ไว้ใต้กระจกหน้า BMW Isetta ได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1955 และในปี 1960 Isetta ก็ได้รับความนิยมน้อยลง เพราะมีคู่แข่งเข้ามาแย่งชิงตำแหน่งรถเน้นประหยัดในตลาดอีกมากมาย ในปัจจุบัน มี Isetta หลงเหลืออยู่ในโลกราว 1,000 คัน ถือเป็นรถสะสมที่มีค่าอีกคันหนึ่ง The new class BMW 1500 เผยโฉมครั้งแรกในปี 1961 ในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท รุ่นนี้ถือว่าเป็น BMW โฉมใหม่รุ่นแรก ที่สร้างยอดขายถล่มทลาย ช่วยกู้สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจของ BMW และต่อมาได้สร้างประวัติศาสตร์ในวงการแข่งรถ โดยชนะการแข่งขัน European Touring Car Championship ในปี 1966 ขับโดย Hubert Hahne และ BMW 1500 ได้ผลิตต่อเนื่อง เป็นจำนวน 350,000 คันจนถึงปี 1972 BMW Z1 ต้นกำเนิดโรดสเตอร์ของ BMW ออกแบบโดยทีม BMW Technik GmbH ในปี 1985 ในรูปแบบของรถยนต์ Prototype ต่อมา เปิดตัว BMW Z1 ครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ในปี 1987 และเริ่มผลิตในปี 1988 มีลักษณะที่โดดเด่น คือ ประตูข้างเปิดแบบขึ้นลง (vertical sliding) สะดุดสายตาผู้พบเห็นยิ่งนัก BMW Z1 มีจำนวนผลิตทั้งสิ้น 8,000 คัน สิ้นสุดสายการผลิตในปี 1991 เป็นต้นแบบของรถตระกูล Z ในรถ BMW ทั้งหมด วันที่สอง ออกเดินทางจาก Munich สู่เมือง Maisach ใช้เวลาเพียง 30 นาที ที่ตั้งของ BMW Driving Academy ซึ่งถูกดัดแปลงจากสนามบินเก่า ในพื้นที่ของทหาร กลายเป็นสถานที่ฝึกอบรมขับรถที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของเยอรมนี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2012 มีพื้นที่ประมาณ 700 กว่าไร่ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ทันสมัย กว้างขวาง เหมาะแก่การจัดอบรมการขับขี่เป็นอย่างมาก การอบรม เริ่มต้นด้วยการแนะนำท่านั่งและการหมุนพวงมาลัย ทำความคุ้นเคยกับตัวรถ และพาไปฝึกอบรมแบบฝึกหัดต่างๆ อาทิ การเบรคฉุกเฉินให้ระบบ ABS ทำงาน การหักหลบสิ่งกีดขวาง การแก้ไขอาการท้ายปัด หรือ Oversteering และการจับเวลา Slalom โดยใช้รถ BMW 430d การอบรมในช่วงครึ่งเช้านี้ เป็นการปูพื้นฐานการขับขี่เบื้องต้น และเตรียมความพร้อม ก่อนที่เราจะไปเข้าคอร์ส BMW M Intensive Training ซึ่งเป็นคอร์สที่ใช้ทักษะสูงขึ้น ช่วงบ่าย เราออกเดินทางจาก Maisach สู่เมือง Strasbourg ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. ทาง BMW ได้เตรียมรถไว้ทั้งหมด 5 คัน ประกอบด้วย BMW M4 Convert, BMW M5, BMW M6, BMW X5 M, BMW X6 M โดยให้เราทั้ง 6 คน ขับสลับกันไป มีครูฝึกขับนำและปิดท้ายตลอดขบวน ใช้ความเร็วบน Autobahn ได้เต็มที่ เนื่องจากบางจุดไม่มีกำหนดความเร็ว เลยวิ่งกันด้วยความเร็วเต็มที่ของรถ คือประมาณ 300 กว่า กม./ชม. จอดแวะพักตามจุดต่างๆ สลับกันขับจนครบทั้ง 5 คัน ผ่านวิวทิวทัศน์ ภูมิประเทศอันสวยงามของประเทศเยอรมนี และฝรั่งเศส จนถึงที่พักในตอนเย็น วันที่สาม ช่วงเช้าเป็นการล่องเรือ ชมเมือง Strasbough ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลก และออกเดินทางไปยัง Strasbourg เมือง 2 วัฒนธรรม คือ ฝรั่งเศส และเยอรมนี เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในยุคนั้น และที่สำคัญ ยังเป็นเมืองหลวงแห่งรัฐสภายุโรป อีกด้วย ช่วงบ่ายออกเดินทางจากเมือง Strasbough ไปยังเมือง Nurburg ที่ตั้งของสนามแข่งรถ Nurburgring สถานที่จัดอบรมของเรา มาถึงวันที่เรารอคอย การอบรม BMW M Intensive Training เป็นการฝึกฝนทักษะการควบคุมรถขั้นสูง รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้บนท้องถนน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ณ สนาม Grand-prix track ใน Nurburgring ซึ่งถือว่าเป็นสนามแข่งรถที่เร็วและปลอดภัยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง หลังจากที่เราทำความคุ้นเคยกับรถ ด้วยการขับวอร์มอัพรอบสนามแล้ว แบบฝึกหัดแรกที่เราเรียนกัน คือ การเบรคในโค้ง ใช้ความเร็วตั้งแต่ 80, 85, และ 90 กม./ชม. บนถนนเปียก เพื่อเรียนรู้การเบรครถ ขณะเข้าโค้ง และควบคุมพวงมาลัยในขณะระบบ ABS ทำงาน ต่อด้วยการจับเวลา Slalom ด้วยรูปแบบการวางไพลอนที่ต้องใช้ความเร็วสูงขึ้นกว่าการอบรมขั้นพื้นฐาน ก่อนอาหารกลางวัน มีอีก 1 แบบฝึกหัด คือ การแก้ไขอาการท้ายปัด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแบบฝึกหัดดริฟท์ในช่วงบ่าย โดยในช่วงเช้าทั้งหมด เราใช้รถ BMW M4 หลังจากมื้อเที่ยง แบบฝึกหัดต่อไป คือ การดริฟท์โดยใช้ BMW M2 ซึ่งเป็นรถที่ดริฟท์ง่าย และขับสนุก คันเร่งสั่งได้เวลาดริฟท์ ทำให้สามารถควบคุมคันเร่งได้ง่าย มีแรงเหลือเฟือ ปิดท้ายด้วยการขับ Pace lap ในสนาม โดยมีครูฝึกขับนำ ได้ลองประสิทธิภาพของ BMW M4 อย่างเต็มที่ เป็นรถที่แรง ขับสนุก แต่อาจจะต้องใช้ทักษะการขับขี่ ในการควบคุมรถ หากเราใช้สมรรถนะอย่างเต็มที่ เพราะถึงแม้จะมีระบบ DSC ช่วยควบคุมเสถียรภาพ ยังมีอาการท้ายปัด หากเราเร่งคันเร่งแรงเกินไป หรือกระชากรถแรงๆ สรุปได้ว่า BMW M4 เป็นรถที่ให้อารมณ์ดิบ เสียงดุดัน เร้าใจ การกระจายน้ำหนักดีมาก แต่ด้วยแรงม้าที่สูงมาก ก็อาจจะทำให้รถเสียอาการได้ทุกเมื่อ หากเราไม่ระวังเรื่องการกดคันเร่ง ไฮไลท์ของวัน เป็นการนั่ง Hot Lap โดย BMW Instructor ที่มีดีกรีเป็นนักแข่ง ขับให้เรานั่งรอบสนาม Nordschleife ใน Nurburgring ซึ่งสุดหิน และอันตรายที่สุดสนามหนึ่ง เนื่องจากเป็นทางที่เต็มไปด้วยทางแคบ โค้งหักศอก มีลักษณะเป็นหุบเขา ที่มีระยะทาง 20.823 กม. ประกอบไปด้วยโค้งอันตรายทั้งหมด 73 โค้ง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 8 นาที โดยตลอดทาง ผู้ขับต้องใช้ความชำนาญ ในการจำโค้งต่างๆ ความกว้างของ Track แคบมาก และเป็นทางขึ้นลงเขา ถือว่าเป็นสนามปราบเซียนสนามหนึ่งในโลกก็ว่าได้ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต ที่ได้นั่งรถบ้านธรรมดาอย่าง BMW M3 ที่ไม่ได้มีการตกแต่งช่วงล่าง หรือยางสำหรับแข่ง แต่ขับเร็วในสนามได้ขนาดนั้น สมกับชื่อเสียงที่ว่า เป็นรถแข่งที่ใช้ได้ทุกวัน ตลอดทั้ง 4 วัน เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจที่ไม่อาจลืม เพราะได้มีโอกาสขับรถ BMW M Performance เกือบทุกรุ่น ได้เข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มทักษะการขับขี่ โดยทีมครูฝึกมืออาชีพจากทาง BMW Germany ซึ่งการสอบเป็น Certified BMW Instructor นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องมีการสอบหลายขั้นตอน ผ่านด่านหลายอย่าง จึงจะสามารถเป็นครูฝึกได้ ดังนั้น คุณภาพและการสอนนั้น ถือว่าเป็นดีที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนีเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณทาง BMW Thailand ที่จัดทริพได้อย่างลงตัว และดูแลพวกเราอย่างดีตลอดการเดินทาง
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชไมพร ปภัสร์พงษ์
ภาพโดย : อิศเรศ จิราธิวัฒน์, VIJAIFOONคอลัมน์ Online : ทดลองขับต่างแดน
คำค้นหา