ผมออกจะเห็นใจรัฐบาลอยู่ไม่น้อย ที่ต้องยอมเป็นฝ่ายถอยกรณีการห้ามนั่งในส่วนท้ายของรถกระบะที่เปิดโล่ง ทั้งๆ ที่มีเหตุผลเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง และยังเป็นกฎที่ผู้ใช้รถกระบะในประเทศพัฒนาแล้ว ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอย่างไรก็ตาม ถึงจะเห็นใจ แต่ก็ต้องโทษรัฐบาลที่ทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ แม้จะใช้อำนาจเด็ดขาดของ ลุงตู่ แล้วก็ตาม สิ่งที่รัฐบาลผิดพลาดอย่างมหันต์ คือ คิดช้า แต่ทำเร็ว อย่างที่ทราบกันดีว่า รถกระบะออกแบบมาเพื่อใช้บรรทุกสินค้า และกฎหมายห้ามคนโดยสารท้ายรถกระบะก็มีมานานแล้ว แต่ตำรวจปล่อยปละละเลยให้ทำผิดกันจนเคยชิน เราจึงเห็นการใช้รถกระบะผิดวัตถุประสงค์ได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกคนงาน ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหยุดยาวทั้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตมากมายบนท้องถนน คำถาม คือ เมื่อมีกฎหมายอยู่แล้ว ทำไมรัฐบาลไม่สั่งบังคับใช้อย่างเคร่งครัดตั้งแต่แรก ซึ่งท่านก็อาจจะแก้ตัวว่ามีเรื่องอื่นสำคัญกว่า เช่น การซื้อเรือดำน้ำ ฯลฯ แต่พอคิดจะทำขึ้นมา กลับต้องการให้เกิดผลในทันทีทันใดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งรู้ๆ กันอยู่ว่า เป็นช่วงที่มีการใช้รถกระบะมากที่สุด ทั้งเพื่อการเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นหมู่คณะ และเพื่อการฉลองสงกรานต์ ที่ไม่มีอะไรจะสนุกเมามันเท่ากับการทำสงครามน้ำบนท้ายรถกระบะอีกแล้ว เพราะคิดช้าทำเร็วแบบไม่ดูตาม้าตาเรือแท้ๆ แทนที่จะได้รับเสียงชื่นชม จึงกลับกลายเป็นเสียงด่าระงม ตั้งแต่เหนือจรดใต้ จนต้องแก้เกี้ยว ยอมให้นั่งในกระบะได้ แต่ห้ามนั่งขอบกระบะ เช่นเดียวกับใน CAB ซึ่งอนุญาตให้มีผู้โดยสาร โดยไม่ต้องเอาคนใส่กล่องอำพรางตัว หลังเสร็จสงกรานต์ เห็นท่านกลับมาขู่ฮึ่มๆ อีกว่า เอาแน่ ขณะที่เสียงคัดค้านเริ่มเบาลง เพราะฉะนั้นผมว่าควรถือโอกาสนี้ ประกาศใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเสียเลย ไม่ต้องรอให้ถึงหน้าเทศกาลอีก และไม่ต้องกลัวว่าบริษัทรถยนต์จะเดือดร้อน เพราะกระบะทุกค่ายมีให้เลือกทั้งแบบ 2 และ 4 ประตูอยู่แล้ว แต่ถ้ากลัวเสียคะแนน หรืออยากให้กฎหมายมันสอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบไทยๆ ก็กำหนดขอบเขตของการบังคับใช้ให้ชัดเจน เช่น ห้ามนั่งท้ายกระบะเฉพาะบนทางด่วน ในเมือง และบนทางหลวง เป็นต้น ส่วนใครที่จำเป็นต้องบรรทุกคนวิ่งในเรือกสวนไร่นา หรือตามหมู่บ้านก็ไม่ว่ากัน รวมถึงเรื่องห้ามนั่งใน CAB ด้วยนะครับ เพราะเป็นส่วนที่ออกแบบมาเพื่อวางสัมภาระ ไม่ใช่เพื่อโดยสาร สุดท้าย คือ อย่าหวั่นไหวกับเจ้าของรถที่ชอบอ้างเรื่องความยากจน เพราะในตลาดมีรถรองรับการใช้งานทุกรูปแบบ และผมเชื่อว่า ถ้าผ่อนกระบะ 2 ประตู แบบมี CAB ได้ ก็สามารถผ่อนกระบะ 4 ประตู ซึ่งราคาต่างกันเพียงแสนกว่าบาทได้แน่นอน