X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Apr 2014
ทางไกลในชีวิต
ข้าพเจ้าเคยซึ้งถ้อยคำของนักเขียนบางคนที่ว่า ชีวิตคือการเดินทาง และคิดว่าชีวิตของข้าพเจ้าช่างเป็นการเดินทางที่ไกลเสียเหลือเกิน ทั้งด้วยเวลา และระยะทาง... เมื่อจบประถม 4 ที่โรงเรียนประชาบาลที่บ้านนอก มองไม่เห็นทางเดินของตนว่าจะไปทางไหน ต้องเดินวนเวียนเป็นเด็กเลี้ยงควายให้พี่ชายคนที่ 2 อยู่ 1 ปี แล้ว พี่ชายคนโตซึ่งเป็นตำรวจแค่ชั้นจ่า อุตส่าห์เดินทางจากอำเภอมุกดาหาร มาเอาข้าพเจ้า ข้ามจากบ้านคำพอก ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน ซึ่งอยู่ห่างกันรวม 100 กิโลเมตร แม้จะอยู่ในจังหวัดนครพนมเดียวกัน จากเด็กกำพร้าพ่อ ก่อนเข้าโรงเรียนชั้นประถม แถมเป็นลูกคนเล็กของแม่ ต้องจากแม่ไปเรียนไกลเมื่ออายุ 13 ปี ไปอยู่ห่างแม่จนกว่าถึงเวลาโรงเรียนหยุดเทอม ภาวนาให้พี่อนุญาตให้กลับบ้าน แต่การกลับนั้น ต้องจับรถหลายต่อ ข้าพเจ้านั่งภาวนาไปตลอดทางอย่าให้รถเป็นอะไร เพราะสมัยโน้น รถเสียบ่อย หรือบางทีสะพานขาด หรือเพราะน้ำท่วม ที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว การดินทางของข้าพเจ้านั้น พี่จะอาศัยความเป็นตำรวจฝากไปกับรถโดยสารระหว่างอำเภอนั้น ถ้าต้องเปลี่ยนรถหลายทอด หรือรถไปต่อไม่ได้ ข้าพเจ้าจะทำอย่างไร เพราะค่ารถค่ากินก็ไม่มีติดตัว ผ่านวิกฤตตอนนั้นเพราะโรงเรียนราษฎร์ที่เรียนอยู่ที่มุกดาหาร มีแค่ชั้นมัธยม 3 แม่ต้องพาไปฝากหลวงปู่ที่วัดในจังหวัด รอดชีวิตจากเรือดที่แฝงตัวในรอยแตกของพื้นไม้กระดานเก่าๆ ของกุฏิก็แย่แล้ว แถมยังยุงที่ยอดชุม เพราะวัดอยู่กลางทุ่งนา รอบบริเวณวัดก็เป็นนาและป่าที่อุดมสมบูรณ์ มียุงตัวโตๆ และแสนฉลาดในการพลิกชายมุ้งจิกที่เก่าและขาดอีก จำเป็นต้องทำบาปด้วยการแอบเอาน้ำร้อนเทราดพื้นกระดาน (ซึ่งต้องแอบทำไม่ให้ใครแพร่งพรายถึงหลวงปู่) ตอนนี้อายุ 15-17 ปี แล้ว การเดินทางจากจังหวัดถึงบ้านก็ไกล้แม่หน่อย คือ ประมาณ 75 กิโลเมตร แต่ก็กลั้นใจตลอดทาง ยิ่งในหน้าฝน รถอาจไปติดหล่มจมโคลน ก็จะช่วยกันหาไม้มาสอดใต้ล้อหรือช่วยกันเข็นจนโคลนสาดใส่หน้าตาเสื้อผ้าเลอะเทอะก็ต้องทน จบจากนั้น โชคดีได้ทุนเรียนต่อโรงเรียนฝึกหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยาที่ฝั่งธนบุรี และต่อคณะอักษรศาสตร์จุฬา ฯ อีก 4 ปี กว่าจะเดินทางไปกลับ ต้องเริ่มจากบ้านถึงอำเภอ 8 กิโลเมตร ต้องรอรถซึ่งบางวันอาจไม่มีเลยสักเที่ยว หรือต้องคอยเงี่ยหูฟังว่าจะมีเสียงกำปั่นหรือเรือยนต์ เข้าอำเภอไหม แล้วจะต้องค้างคืนที่อำเภอ หรือโชคดีมีรถต่อถึงจังหวัด และจากจังหวัดจะมีรถโดยสารถึงอุดรธานี ทันก่อนเวลารถไฟจากอุดรธานี เข้ากรุงเทพ ฯ ค้างคืนบนรถไฟถึงหัวลำโพงยามเช้าหรือสายๆ นั่นเป็นการเดินทางในช่วงเสี้ยวแรกของศตวรรษแห่งชีวิต คิดเป็นระยะทางไป/กลับหลายปี ก็นับว่าเป็นทางไกล แต่ถ้าคิดถึงระยะเวลาในการเดินทางผ่านอุปสรรคชีวิตมากมายที่ไม่อยากบรรยายมาก เกรงคนอ่านจะเบื่อ แต่เมื่อคิดขึ้นมาครั้งใด ก็อดใจหายไม่ได้ เช่น เมื่อข้าพเจ้าเรียนจบ แล้วกลับไปเป็นครูอยู่ที่จังหวัดนครพนม แม้จะเป็นโรงเรียนเก่า อาจารย์ใหญ่คนเก่าที่ข้าพเจ้ารักและเคารพเหมือนพ่อ เพราะท่านรักพวกเราเหมือนลูก ที่สำคัญข้าพเจ้าเป็นเพื่อนรักกับลูกชายคนเล็กของท่าน (คนที่ข้าพเจ้าเคยเล่าแล้วว่าเขาเรียนเก่งกว่าข้าพเจ้าทุกวิชา จนตอนจบมัธยมปีที่ 6 เขาได้รับทุนฟุลไบรท์ไปเรียนเตรียมที่กรุงเทพคริสเตียน แล้วข้าพเจ้าต้องไปสมัครชิงทุนได้ไปเรียนฝึกหัดครู) แม้ที่โรงเรียนมีอาจารย์เก่าๆ และมิตรร่วมโรงเรียนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง พอมีความอบอุ่น สนุกสนาน ปี 2503 แต่เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้าน เกิดแรงสะเทือนใจได้กลอนบทหนึ่งชื่อ กลับบ้าน ? ดังนี้ กลับมาย่านบ้านเก่าดูเหงาเงียบ เย็นยะเยียบเหมือนมิใช่ชวนให้หลง ไม้เลื้อยครึ้มคลุมหลังคาดั่งป่าดง ดูทรวดทรงเรือนทรุดถึงนอกชาน เหมือนบ้านร้างไร้ผู้อยู่อาศัย มดมอดไชมองแล้วเศร้าเหลือร้าวฉาน หลังคาโหว่คราบน้ำด่างหว่างเพดาน หยากไย่พานพาดขวางทุกช่วงเรือน" เมื่อสิ้นแม่แผ่บุญอบอุ่นลูก พี่ชายถูกทิ้งไว้เหมือนไร้เพื่อน พี่หญิงย้ายไปแม้ไม่แชเชือน ก็เสมือนทิ้งพี่ชายไว้ดายเดียว ทั้งข้าวปลาสารพัดจะขัดสน ทั้งความจนยากไร้ใครแลเหลียว ยังเจ็บป่วยมิได้เว้นตัวเป็นเกลียว แสนเปล่าเปลี่ยวว้าเหว่เอกากาย บ้านที่อยู่ดูยะเยียบเปรียบบ้านร้าง จะสุขอย่างอดีตนั้นอย่าพลันหมาย หมู่ไม้ดอกไม้ผลยืนต้นตาย คิดแล้วคล้ายคนเฝ้าเหลือร้าวรอน" เมื่อเราเด็กเล็กอยู่ดูอบอุ่น ความรักกรุ่นกำจายไม่ถ่ายถอน สนามหญ้าหน้าบ้านเคยคลานนอน ภาพความหลังครั้งก่อนมาหลอนใจ เราพี่น้องท้องเดียวเกลียวรักรัด ทั้งห้าพลัดกันพรากจากไปไหน ที่ปีกกล้าขาแข็งทิ้งแหล่งไป ทอดทิ้งให้พี่พิการเฝ้าบ้านร้าง เมื่อสิ้นพ่อยังมีแม่ช่วยแก้ทุกข์ เรายังสุขสนุกใจกันได้บ้าง เมื่อสิ้นแม่แพแตกต้องแยกทาง ยิ่งอ้างว้างตัวเป็นน้องเที่ยวล่องลอย กลับบ้านเก่าคราวนี้ยิ่งมีทุกข์ เห็นความสุขไกลเกินกว่าจะคว้าสอย สิ้นบุญแม่ผู้เคยหวังตั้งตาคอย ลูกบุญน้อยนี่บากหน้ามาหาใคร...? @
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/18010
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Dec 2017
ทบทวนเรื่องเกี่ยวกับวันภาษาไทยแห่งชาติ (1)
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Nov 2017
รำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Oct 2017
ตามรอยพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ