กิรดังได้ยินมา ตทากาเล...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว หญิงสาวลูกครึ่งคนหนึ่งเข้าพบแพทย์แถลงเรื่องสำคัญเป็นการส่วนตัว“หนูเองไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แต่สามีหนูสิคะเย็นชาตลอดปี ไม่สนใจหนู...” หมอยืนมึนอยู่ครู่ “หมอมียาอะไรบ้างไหมคะ ? เพื่อช่วยให้เขามีชีวิตชีวา...” นายแพทย์สะบัดความมึน เอื้อมมือไปหยิบขวดยามาขวดหนึ่ง กล่าวกับลูกครึ่งสาว “นี่เป็นอาหารสุนัข แต่มันช่วยให้ผู้ชายเป็นชาย มีชีวิตตามที่หนูปรารถนา” ลูกครึ่งมึนแทนที่แพทย์ “แต่หนูแกะเอาป้ายฉลากออก เขาก็จะไม่รู้เลยว่า นี่คืออาหารสำหรับสุนัข” ลูกครึ่งยิ้มออก คว้ายาขวดนั้นกลับบ้าน อีก 2 สัปดาห์ต่อมา หมอเรียกลูกครึ่งไปถามผลลัพธ์ “สามีหนูตายเสียแล้วค่ะหมอ” ลูกครึ่งรายงาน “แต่ไม่ใช่ความผิดของหมอนะคะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ ยาที่หมอให้ไปเกิดผลดีกับเขาเป็นอย่างยิ่ง แต่แล้วคืนนั้น เขาคอหักตายค่ะ” “อ้าว...ทำไมล่ะ ?” “ก็เป็นเพราะเขาเอี้ยวตัว เหมือนอย่างที่สุนัขชอบเอี่ยวตัวมาเลียน่ะสิคะ” อีกเรื่องหนึ่ง เป็นควันหลงจากคริสต์มาส ละแวกนั้นอนุศาสนาจารย์ผู้เคร่งประพฤติธรรมเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกวัดทั้งปวง คืนนั้น ลูกบ้านจัดงานบอลอย่างหรูหรา แต่ส่งเสียงดัง เดือดร้อนท่านอนุศาสนาจารย์ จนต้องมาเคาะประตู “มีอะไรกันรึ ประสก ?” “มีครับ เราจัดปาร์ตี้สนุกสนานกันเล็กน้อยครับ หลวงพ่อจะร่วมวงไหมครับ ?” “จะงามหรือ, ประสก ? เออ...ไอ้ที่บอกว่าสนุกน่ะ มันสนุกอย่างไร ?” “เราเล่มเกมครับ” ประสกตอบอย่างนอบน้อม “ผู้หญิงต้องผูกตาไล่จับผู้ชาย เมื่อสัมผัสจนรู้ว่าเป็นผู้ชายแน่แล้ว หล่อนจะต้องเอ่ยชื่อให้ถูก ใช่พ่อเจ้าประคุณสามีหล่อนหรือเปล่า ?” “ไม่งามนะ ประสก” อนุศาสนาจารย์อุทานอย่างอารมณ์เย็น “แล้วอย่างไร จึงคิดมาชวนให้อาตมาร่วมวงเล่นด้วยล่ะ ?” “เสียดายจัง...” ประสกรำพึงรำพัน “ท่านน่าจะร่วมวงกับพวกเรานะครับ” “ทำไมหรือ ?” “ก็พวกผู้หญิงน่ะสิครับ เอ่ยชื่อหลวงพ่อ 3 หนแล้วครับ...”