เปิดหัวมาดีทีเดียว

ปี 2561 นี่น่าจะเรียกได้ว่าเริ่มเป็นปีทองของอุตสาหกรรมรถยนต์บ้านเราก็ว่าได้ เพียงเดือนมกราคม เดือนแรกของปี ยอดการจำหน่ายรถยนต์ มีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.2 % ขายได้ 66,545 คัน ทำเอาบรรดานักการตลาดไม่ต้องออกมาคาดการณ์ตลาดโดยรวมของปีนี้กันทีเดียว

นี่ว่ากันเฉพาะตัวเลขกันก่อน ในเดือนมกราคม ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 45.7 ในเดือนธันวาคม 2560 มาอยู่ที่ระดับ 46.7 ในเดือนมกราคม 2561 จากแรงกดดันทางด้านค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ที่ลดลงค่อนข้างมาก   เหตุก็เพราะการปรับค่าจ้าง/เงินเดือนประจำปีของหน่วยงาน/องค์กร ที่ครัวเรือนสังกัด ประกอบกับสภาวะการจ้างงานภายในประเทศ เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะภาวะการจ้างงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล   แต่จากการสำรวจภาวะการจ้างงานในประเทศ ก็พบว่า เริ่มเห็นสัญญาณของการนำเครื่องจักร/หุ่นยนต์/ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ทดแทนแรงงานมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต อย่างอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอีเลคทรอนิคส์ รวมถึงอุตสาหกรรมเหล็ก   พนักงานเจ้าหน้าที่ในกิจการต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม ก็ต้องเตรียมปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ว่า เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงโดยธรรมชาติของเทคโนโลยีความก้าวหน้าในอุตสาหกรรม เป็นสาเหตุใหญ่   ขณะเดียวกัน ในเดือนมกราคม การส่งออกมีการเติบโตสูงสุดในรอบ 6 ปี อยู่ที่ 9.9 % และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้นโดยมีการขยายตัวอยู่ที่ 8.8 % ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนมกราคม อยู่ที่ระดับ 80 % ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 36 เดือน     ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (TISI: THAI INDUSTRIES SENTIMENT INDEX) ประจำเดือนมกราคม 2561 ซึ่งสำรวจจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจำนวน 1,045 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 91.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1   ตัวเลขที่ดีขึ้นในเดือนมกราคม นี้ เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น ประกอบกับยังคงมีการทยอยส่งมอบรถยนต์ที่จองไว้ในงาน MOTOR EXPO ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลในเชิงบวกกับตลาดรถยนต์ในเดือนมกราคม   ขณะเดียวกัน กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็เพิ่มประมาณการการผลิตรถจักรยานยนต์ ในปี 2561 ประมาณ 2,120,000 คัน มากกว่าปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 2,055,193 คัน เพิ่มขึ้น 64,807 คัน คิดเป็น 3.15 %   เพียงแค่นำเอาตัวเลขจากหลายสำนัก หลายการตรวจสอบในเดือนมกราคม มาประมวลไว้ด้วยกัน เท่านี้ก็น่าจะพอมองออกแล้วว่า สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย ในปี 2561 นี้ น่าจะไปได้ฉลุยแน่นอน รวมทั้งภาครัฐเอง ก็ได้มีความพยายามส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC โดยผ่านร่าง พรบ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC: EASTERN ECONOMIC CORRIDOR) เพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC สัมฤทธิ์ผลมาอย่างต่อเนื่อง   ไม่ว่าจะเป็น การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการขยายตัวทางด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 ท่าอากาศยาน โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด หรือการให้แรงจูงใจผ่านสิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ของ BOI เพิ่มเติม ผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และพรบ. ส่งเสริมการลงทุน ฉบับปรับปรุงแก้ไข พศ. 2560 ซึ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเป้าหมาย (CORE TECHNOLOGIES) อันจะตอบโจทย์การลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตบนพื้นที่ EEC   และสิ่งที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ น่าจะเป็น อุตสาหกรรมสนับสนุน (SUPPORTING INDUSTRIES) ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักลงทุนจากหลายประเทศ ทั้งเรื่องของ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ (NEXT-GENERATION AUTOMOTIVE) โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า (HYBRID) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (PLUG-IN HYBRID) ที่มีศักยภาพในการต่อยอดการผลิตของค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่น และเยอรมัน รวมถึงค่ายรถสัญชาติจีนที่เริ่มแสดงเจตจำนงลงทุนใน EEC   โหรหลังสถานทูตจีนแกบอกว่า อะไรก็ดีไปหมดยังงี้ อั๋วก็แย่อะซี ใครจะมานั่งให้อั๋วดูหมอให้อีกล่ะ เซ็งในอารมณ์