• ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สคบ. ได้ประกาศปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งทำให้ผู้ซื้อรถเข้าใจผิดว่ามีการเปลี่ยนระบบการผ่อนชำระจากแบบ “เท่ากันทุกงวด” เป็นแบบ “ลดต้นลดดอก” เหมือนการผ่อนซื้อบ้าน • “ฟอร์มูลา” อาสาคลายข้อสงสัย โดยประมวลจากคำชี้แจงของสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย บริษัทไฟแนนศ์ และจากการสัมภาษณ์รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
บทสรุป จากการสัมภาษณ์ พิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับกระแสข่าวการคิดดอกเบี้ยแบบ “ลดต้นลดดอก”
“ประกาศของ สคบ. ไม่เคยกำหนดอัตราดอกเบี้ยของผู้เช่าซื้อแบบ “ลดต้นลดดอก” แต่เป็นเพียงกำหนดให้บริษัทไฟแนนศ์ต้องแสดงการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกแก่ผู้เช่าซื้อ เพื่อให้ทราบส่วนลดที่เหลือในการปิดบัญชี
นอกจากนี้กำหนดให้การทวงถามหนี้เป็นไปตาม พรบ. ทวงถามหนี้ ซึ่งไม่ให้บริษัทไฟแนนศ์เอาเปรียบผู้เช่าซื้อเหมือนที่ผ่านมา
กรณีผิดนัดชำระแล้วไฟแนนศ์ยึดรถ บริษัทไฟแนนศ์สามารถเรียกค่าดำเนินการยึดรถได้ตามจริงเท่านั้น
กรณีผู้เช่าซื้อปิดบัญชีการเช่าซื้อในคราวเดียว บริษัทไฟแนนศ์ต้องให้ส่วนลดดอกเบี้ยที่เหลือไม่น้อยกว่า 50 % และเมื่อผู้เช่าซื้อปิดบัญชีแล้ว บริษัทไฟแนนศ์ต้องดำเนินการจัดส่งเล่มทะเบียนภายใน 30 วัน และคิดค่าธรรมเนียมตามจริงเท่านั้น”
เมื่อตกลงเช่าซื้อรถยนต์ บริษัทไฟแนนศ์จะกำหนดค่าผ่อนชำระเป็นจำนวนเงินเท่ากันทุกงวด ซึ่งเป็นจำนวนที่รวมเงินต้นกับดอกเบี้ยอัตรา “คงที่” ไว้แล้ว แต่ในความเป็นจริง ค่าผ่อนชำระที่เท่ากันในแต่ละงวด ได้มาจากการคำนวณเงินต้นกับดอกเบี้ยแบบ “ลดต้นลดดอก” ในอัตราดอกเบี้ยที่ “สูงกว่า” อัตราคงที่ที่แจ้งแก่ผู้ซื้อ โดยการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เป็นการทำตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทไฟแนนศ์จะไม่แสดงรายละเอียดส่วนนี้ให้ผู้เช่าซื้อได้ทราบ แต่ผู้เช่าซื้อไม่ต้องเป็นห่วง เพราะสมาคมธุรกิจเช่าซื้อใหม่อ้างว่า อัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 แบบ จะถูกกำหนดให้สอดคล้องกัน เช่น อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดอายุสัญญา 2 % อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกจะกำหนดไว้ที่ 3.74 % ซึ่งถ้าคิดคำนวณจากยอดเช่าซื้อที่เท่ากันแล้ว ผลรวมของค่าดอกเบี้ยทั้งหมดจะเท่ากัน (อ่านคำชี้แจงเกี่ยวกับการคิดดอกเบี้ย ของสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย)
อีกเรื่องที่ต้องเข้าใจให้ตรงกัน คือ ตามกฎหมายใหม่ นอกจากจะต้องจ่ายค่างวดเท่ากันทุกงวดเหมือนเดิมแล้ว ผู้เช่าซื้อยังไม่สามารถ “โปะ” ค่างวด หรือจ่ายค่างวดบางงวดมากกว่าที่ระบุในสัญญา เพื่อหวังจะลดค่าดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อนได้ ซึ่งก็เหมือนกับกฎหมายเดิมนั่นเอง
จุดประสงค์หลักของการออกกฎหมายใหม่ครั้งนี้ คือ เพื่อให้ผู้เช่าซื้อได้รับความเป็นธรรมในการเช่าซื้อรถมากขึ้นจากข้อบังคับเดิม
แม้จะไม่สามารถผ่อนแบบลดต้นลดดอก หรือโปะค่างวดเพื่อลดดอกเบี้ยแบบผ่อนบ้านได้ แต่กฎหมายธุรกิจการเช่าซื้อใหม่ ก็มีการกำหนดกฎเกณฑ์เพิ่มเติมจากกฎข้อบังคับเดิม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้เช่าซื้อหลายประการ ดังนี้
บทความแนะนำ

