ไปดูกันสิว่า เราสามารถสร้างซูเพอร์คาร์ "บูกัตตี ชีรน" จำลอง ขนาดเท่าของจริง จากตัวต่อ เลโก ที่เป็นพลาสติคกว่าล้านชิ้นได้อย่างไร ?เลโก ประกาศว่าโมเดลระดับดีลักซ์ชิ้นถัดไป คือ รถยนต์ บูกัตตี ชีรน และได้เชิญเราไปเยี่ยมชมสถานที่ผลิตในประเทศเยอรมนี สิ่งที่เราเห็น คือ โมเดล บูกัตตี ชีรน ขนาดเท่าต้นแบบ ที่สร้างขึ้นจาก เลโก มากกว่าล้านชิ้น และสามารถขับได้จริง ! ด้วยน้ำหนักประมาณ 1,500 กก. รถยนต์คันนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยชิ้นส่วน เลโก เว้นแค่ส่วนที่จำเป็นต้องใช้อะไหล่จริง นั่นคือ โครงเหล็ก เพื่อรองรับน้ำหนักทั้งหมด ล้อ ซึ่งชิ้นส่วนเลโก ไม่สามารถทำได้ รวมทั้ง ระบบเบรค พวงมาลัยเพาเวอร์ โรลล์เคจ (เผื่อจำเป็นต้องใช้) และชิ้นส่วนที่เป็นกลไกอื่นๆ ที่ไม่สามารถใช้ชิ้นส่วนพลาสติคได้ โมเดลนี้เป็นผลงานขนาดใหญ่ชิ้นแรกของ เลโก ที่ต่อเข้าด้วยกัน โดยไม่ใช้กาว หมายความว่า เลโกต้องสร้างทุกส่วนจากชิ้นส่วน เลโก แบบเพียวๆ และที่น่าประทับใจ คือ ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกประกอบด้วยฝีมือคน เพราะรถยนต์มีความยุ่งยากในการประกอบอย่างมาก ดังนั้นระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการออกแบบโมเดลที่พวกเขาใช้กันเป็นประจำ จึงไม่สามารถนำมาใช้ในการออกแบบทุกส่วนของรถคันนี้ได้ พาเวล โวลนี วิศวกรเจ้าของพโรเจคท์เปิดเผยว่า ส่วนที่เป็นคานรับน้ำหนักชิ้นแรก ถูกสร้างขึ้นบนโต๊ะ เพื่อทดสอบ และดูว่าอะไรที่ทำให้มันรองรับน้ำหนักไว้ได้ เราสงสัยว่าทีมนี้สามารถรู้ได้อย่างไรว่าชิ้นส่วนต่างๆ จะประกอบเข้ากันได้อย่างดี และท้ายที่สุดหน้าตาจะออกมาเป็นเช่นไร ในเมื่อไม่มีโมเดลเสมือนจริงให้ดู เราแทบจะกิน นอน ด้วยกันเกือบ 3 เดือน เพื่อพูดคุยกันในขณะที่สร้างโมเดล เนื่องจากต้องมั่นใจว่าทุกคนในทีมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ในเวลาที่เหมาะสม โมเดลรถยนต์คันนี้ถูกสร้างจากชิ้นส่วน เลโก เท่านั้น วิธีสร้างจากจุดศูนย์กลางออกมาด้านนอกจึงค่อนข้างซับซ้อน โดยเริ่มต้นตัวรถ แต่ยังไม่ได้ยึดเข้ากับโครงเหล็ก เพียงแค่วางไว้รอบๆ โครงแบบการต่ออิฐ โดยอาศัยแรงโน้มถ่วง อุปสรรคที่ท้าทาย ในช่วงเริ่มต้นเราต้องตัดสินใจในหลายๆ ด้านกับทีมนักออกแบบ เพราะรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย ในการปรับแต่งสิ่งต่างๆ อย่างการเปลี่ยนชิ้นส่วนด้านใน แม้จะไม่แน่ใจในผลลัพธ์ แต่ทีมงานก็ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์มีระบบวิศวกรรมของตัวมันเอง โดยมีการติดตั้งขุมพลังที่สร้างจากชิ้นส่วนของ เลโก นั่นก็คือ มอเตอร์ POWER FUNCTIONS โดยปกติการสร้างระบบนี้จะใช้เพียงสายพานขนาด 2 ฟุต ขับเคลื่อนโมเดล แต่ครั้งนี้จะเป็นโมเดลขนาดเท่าของจริงที่สามารถขับได้ โดยใช้ชิ้นส่วน เลโก มอเตอร์ ราว 2,300 ชิ้น เชื่อมต่อเข้ากับบลอคเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งมอเตอร์ออกเป็น 24 ส่วน แต่ละส่วนประกอบด้วยมอเตอร์เดี่ยว 96 ชิ้น และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชิ้นส่วนเลโก 96,768 ชิ้น ที่คอยส่งพลังจากมอเตอร์ไปยังฟันเฟืองคาร์บอนไฟเบอร์ที่ผลิตจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับเพลา รถคันนี้มีพละกำลังสูงสุด 5.3 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 30 กม./ชม. ไม่ได้มีความเร็ว 400 กม./ชม. (จำกัดความเร็วสูงสุดแค่ 248 กม./ชม.) หรือพละกำลัง 1,479 แรงม้า เท่ากับ บูกัตตี ชีรน ตัวจริง ความจริงแล้ว เครื่องยนต์เป็นส่วนที่ท้าทายมากที่สุด ไม่ใช่แค่เพราะมีชิ้นส่วนเกือบ 100,000 ชิ้นเชื่อมต่อกันอย่างซับซ้อน โดยเวอร์ชันแรกที่ทำออกมา เกิดความร้อนจากการเสียดสีถึง 70 องศาเซลเซียส ทีมงานจึงต้องทดลองการลดแรงเสียดสี และผลสรุป คือ พวกเขาตัดสินใจใช้แหวนปะเก็นเทฟลอน และใช้ซิลิโคนหล่อลื่นชิ้นส่วนที่ต้องหมุน ซึ่งลดอุณหภูมิลงให้เหลือเพียง 32 องศาเซลเซียส แม้จะสามารถเอาชนะอุปสรรคเกี่ยวกับโครงสร้าง และเครื่องยนต์ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ยิ่งใหญ่อีกส่วนหนึ่ง นั่นคือ จะทำอย่างไรให้สามารถเลียนแบบส่วนโค้งของ ชีรน ให้เหมือนที่สุดโดยใช้ชิ้นส่วน เลโก ที่เป็นเหลี่ยม ในด้านของสี ไม่ใช่เรื่องยาก ชิ้นส่วน เลโก สามารถสร้างออกมาให้เหมือนกับสีของ ชีรน ได้ แต่ภาพลักษณ์ของชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อประกอบกันยังดูแข็งอยู่ พวกเขาหาทางออกของปัญหานี้ ด้วยการรังสรรค์เทคนิคพิเศษ LEGO FABRIC ขึ้นมาใช้ในส่วนที่สมจริงของพื้นผิวด้านนอกของตัวรถ โดยใช้ชิ้นส่วน เลโก ทรงสามเหลี่ยม ขนาดแตกต่างกัน 2 ขนาด ต่อเข้าด้วยกันเป็นตารางผืนเดียวเหมือนกับการทอผ้า ที่ตัวรถจะมีพแลทฟอร์ม พร้อมเสาค้ำที่เชื่อมต่อกัน ด้วยความสูงที่แตกต่างกัน ส่วนของพื้นผิวรถที่ยึดติดกับเสาค้ำเหล่านี้ ทำให้ส่วนโค้งเว้าดูเสมือนจริง ความสูงของเสาค้ำที่แตกต่างกันแต่ละต้น ขึ้นอยู่กับช่องว่างระหว่างผิวรถ และโครงรถ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถนั้นสวยเหมือนกับคันต้นแบบ โดยทุกส่วนจะถูกประกอบเข้าด้วยกันโดยใช้มือ ซึ่งมันอาจจะทำให้ข้อมือของพวกเขาบาดเจ็บได้ หากใช้สว่านปกติที่มีความรุนแรงเกินไป ดังนั้น ทีมงานจึงสร้างสว่านพิเศษขึ้นเพื่อใช้ในการนี้ การจะทำให้ส่วนที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์มีรูปลักษณ์เหมือนกับรถคันต้นแบบ เลโก ต้องสร้างชิ้นส่วนเฉพาะขึ้นมา โดยเฉพาะตรงไฟด้านหลัง จึงเป็นครั้งแรก ที่มีการผลิต เลโก แบบโปร่งใส มันเป็นงานยากในการสร้างส่วนที่เป็นไฟ ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าโดยตรงจากแอพพลิเคชัน ซึ่งทำงานร่วมกันกับตัวควบคุมสมาร์ทโฮม ที่ฝังอยู่ด้านใน ทำให้มันสว่างขึ้นด้วยวิธีเดียวกับ ชีรน จึงสามารถกะพริบไฟได้อย่างสมจริง ติดปีก รายละเอียดสุดท้าย คือ สปอยเลอร์ที่ด้านหลังของตัวรถ แม้รถยนต์ เลโก จะมีกำลังเพียง 5 แรงม้า แต่ไม่ได้หมายความว่า มันไม่ต้องการระบบแอร์เบรค เพราะถ้าไม่มีก็ไม่ใช่ ชีรน รถยนต์ เลโก มีปีกที่ใช้ระบบนิวเมทิคส์ ทำจากชิ้นส่วน เลโก เป็นแทงค์เก็บอากาศ 8 แทงค์ แค่กดสั่งการผ่านแอพพลิเคชันเพื่อยกปีกขึ้นเมื่อต้องการหยุดรถ สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด คือ วันที่เราเยี่ยมชมพโรเจคท์ บูกัตตี เป็นเพียงวันเดียวที่ฝนตกในช่วงหน้าร้อนนี้ ดังนั้น เราจึงพลาดโอกาสทดลองขับ แต่คาดว่ามันคงจะสนุกมาก หากได้ขับรถยนต์ระบบไฟฟ้าที่ทำจากพลาสติค สร้างสรรค์ได้ด้วยตัวคุณเอง แม้จะไม่สามารถเป็นเจ้าของ เลโก ขนาดเท่าของจริง แต่คุณก็สามารถสนุกไปกับ ชีรน คันนี้ที่มีส่วนประกอบมากถึง 3,599 ชิ้น เรื่องขำๆ หากจะต่อ BUGATTI CHIRON LEGO SET ราคา 329 ปอนด์คันนี้ คุณต้องใช้เวลาโดยประมาณ 18 เดือน ซึ่งนานกว่าระยะเวลาที่ทีมงานใช้ประกอบรถยนต์เท่าขนาดจริง ที่กินเวลาเพียง 12 เดือน ขนาดรถจำลองอยู่ที่ 1:8 เท่า (ความยาวประมาณ 24 นิ้ว เมื่อประกอบเสร็จ) ต้องประกอบเกียร์ 8 จังหวะ และคันเร่งที่ไม่ง่ายเลย แต่ผลลัพธ์จะทำให้คุณภูมิใจ โมเดลนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาใจแฟนรถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถมาช่วยกันประกอบได้ ชิ้นส่วน เลโก 96,768 ชิ้น ถูกนำมาใช้ถ่ายโอนกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2,304 ตัว ไปยังฟันเฟืองที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ นี่คือ รูปสเกทช์แรกๆ ของผิวด้านนอกตัวรถ ดูเหมือนเป็นการออกแบบ SPIDER-MOBILE ทีมงานเริ่มลงรายละเอียด และประกอบชิ้นส่วนพื้นผิวแต่ละชั้น ในระหว่างการประกอบโครงสร้างที่รวบรวมทุกชิ้นเข้าด้วยกัน รายละเอียดด้านในที่เหมือนจริงมาก แม้จะดูแปลกๆ เมื่อต่อ เลโก เป็นเส้นโค้ง รูปลักษณ์ดูดุดันเหมือนรถยนต์ต้นแบบ แต่พละกำลังเชื่องช้าเหมือนลาแก่