ฟองสบู่รถไฟฟ้า

ผมเพิ่งเขียนไปในบทบก. ของนิตยสารรายปี “โลกรถยนต์” ซึ่ง “วางแผง” (คำคลาสสิคที่ไม่รู้จะได้ใช้กันอีกนานแค่ไหน ?) พร้อมๆ กับ “ฟอร์มูลา” ฉบับนี้ ว่าตั้งแต่ปีหน้า โลกรถยนต์จะเต็มไปด้วยความ “ปั่นป่วน” และ “เปลี่ยนแปลง”

สาเหตุของความปั่นป่วน และเปลี่ยนแปลงมีหลายปัจจัย ทั้งจากกรณีการโกงผลทดสอบค่าไอเสีย และอัตราสิ้นเปลืองของผู้ผลิตรายใหญ่ในเยอรมนี และญี่ปุ่น การใกล้สูญพันธุ์ของเครื่องยนต์ดีเซลในยุโรป บเรกซิท ของอังกฤษ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และญี่ปุ่นกับเกาหลี ตลอดจนการมาถึงของรถพลังไฟฟ้า ซึ่งมีจีนเป็นผู้นำ   โดยเฉพาะเรื่องรถไฟฟ้า กำลังเป็นที่จับตามองของนักสังเกตการณ์ว่า จริงๆ แล้วมันกำลังมีอนาคตที่สดใส หรือมืดมนกันแน่ เพราะล่าสุดพวกเขาออกมา “ฟันธง” ไปในทิศทางเดียวกันว่า อีกไม่นานตลาดรถไฟฟ้าสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งฟู่ฟ่ามาตลอด จะเกิดอาการ “ฟองสบู่แตก” !   พอได้ยินคำนี้ ใครที่โตทันทศวรรษ 2540 เป็นต้องเกิดอาการ “ขนลุกขนพอง” ทุกคน เพราะนั่นคือ ช่วงที่เศรษฐกิจบ้านเราตกต่ำติดดิน (จนเศรษฐีใหญ่ต้องไปเร่ขายแซนด์วิชข้างถนน) หลังจากลอยฟ่องเหมือนฟองสบู่ก่อนหน้านั้นไม่นาน   ตลาดรถไฟฟ้าของจีน ก็ดูเหมือนจะมาแนวเดียวกัน เนื่องจากมีความต้องการในตลาดสูง ประกอบกับรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะ “ใจร้อน” อยากครอบครองโลกรถยนต์ยุคใหม่แบบเบ็ดเสร็จ และครบวงจร ส่งผลให้เกิดผู้ผลิตรถไฟฟ้าระดับ “สตาร์ทอัพ” หรือรายเล็กรายน้อยขึ้นมากมายเกือบ 500 เจ้า   แรกๆ ทำมาค้าขายกันคึกคักดี แต่พอตลาดปรับตัวตามความต้องการแท้จริง ยอดขายก็เริ่มถดถอย แถมรัฐบาลยังประกาศลดเงินสนับสนุนลงอีก บรรดาสตาร์ทอัพรถไฟฟ้าเลยถึงคราวขาดทุนกันเป็นแถว ไม่เว้นแม้แต่ NIO ผู้ผลิตรถไฟฟ้าที่เคยได้รับสมญาว่า TESLA KILLER และเคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 11,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตอนนี้กลับมียอดขาดทุนสะสมกว่า 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าของบริษัทฯ ก็ลดลงเหลือแค่ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี   ระดับ TESLA KILLER ยังอาการหนักขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บรรดากระจิบกระจอกที่เกาะฟองสบู่ลอยลมขึ้นมา โดยไม่ได้อาศัยเรี่ยวแรงจากปีกของตัวเองจะเดือดร้อนขนาดไหน   ถ้าฟองสบู่รถไฟฟ้าจีนแตกจริงๆ ผมก็หวังว่ารัฐบาลจีนที่แสดงให้เห็นถึงความ “เขี้ยว” มาโดยตลอดจะ “เอาอยู่” ไม่ปล่อยให้เกิดผลกระทบลุกลามใหญ่โต   จะว่าไป เกิดเหตุแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน บางประเทศที่กำลังฝันเฟื่องเรื่องรถไฟฟ้าจะได้ตื่นขึ้นมาอยู่ในโลกแห่งความจริงเสียที !