ดร. ภาวัต กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด

อุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และถือว่ามีอยู่ในตลาดมากกว่า 200 บแรนด์ โดยแต่ละบแรนด์ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่ง และชื่อเสียงมายาวนาน “ฟอร์มูลา” สนทนาธุรกิจกับ ดร. ภาวัติ กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด

ฟอร์มูลา : บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ?   ดร. ภาวัต : บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนกับญี่ปุ่นอยู่คู่กับคนไทยมากว่า 50 ปี โดยปัจจุบันเป็นผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่นสำหรับอุตสาหกรรม MAINTENANCE OILS AND MACHINE OILS, METAL WORKING OILS, จาระบีอุตสาหกรรม, น้ำมันหล่อลื่น อเนกประสงค์, เครื่องอัดอากาศ, สเปรย์อเนกประสงค์, ผลิตจำหน่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์, เครื่องยนต์เบนซิน, เครื่องยนต์ดีเซล, รถจักรยานยนต์ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ ซินเธทิค 100 %, เซมิซินเธทิค IDEMITSU และ DAPHNE   ปัจจุบันมีโรงงานผลิตอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิที จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 80 ล้านลิตร/ปี โดยการผลิตนั้นยังสามารถขยายเพิ่มได้อีก เนื่องจากปัจจุบันผลิตเพียงแค่ 1 กะ ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานจะมีจำหน่ายในประเทศ และส่งออก รวมถึงมีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย   ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบาย และทิศทางของบริษัทฯ ไว้อย่างไร ?   ดร. ภาวัต : ปีนี้ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยก้าวสู่ปีที่ 51 โดย 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รุกเข้าสู่อุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นยานยนต์เพิ่มขึ้น จนถึงปัจจุบันแข็งแกร่งมากขึ้น ผลิตสินค้าป้อนให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นเกือบทุกบแรนด์   ปัจจุบัน บริษัทฯ ต้องการขยายตลาดให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างแก่ผู้ใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดไปในส่วนของตลาดน้ำมันหล่อลื่นทดแทน ซึ่งได้ขยายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นไปยังช่องทางการจัดจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ได้แก่ ศูนย์บริการรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และอู่ซ่อม   ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่ใช้เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภค ?   ดร. ภาวัต : บริษัทฯ ได้ทำการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง IDEMITSU มีคุณภาพมาตรฐานให้เหมาะกับรถยนต์ในประเทศไทย เพราะต้องการให้คนไทยได้รู้จักผลิตภัณฑ์อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาจะผลิตส่งให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้น พร้อมกันนี้ยังใช้นโยบาย สปอร์ทมาร์เกทิง เพื่อให้ผู้บริโภคคนไทยมั่นใจว่าบริษัทฯ มีความพร้อมที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม มานำเสนอให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างการรับรู้ในวงกว้างว่า IDEMITSU เป็นผลิตภัณฑ์ที่โรงงานผลิตรถยนต์เลือกใช้   นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าไปจัดกิจกรรมการตลาดส่วนของสปอร์ทมาร์เกทิง อย่างต่อเนื่อง เพราะยอมรับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเตรียมที่จะเข้าไปจัดกิจกรรมสนับสนุนกีฬาประเภทอื่น เช่น ฟุตบอล รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งการแพทย์ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการคืนกำไรให้แก่สังคม ซึ่งในแต่ละปีบริษัทฯ จะมีงบสนับสนุนการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ใช้งบการตลาดไปถึง 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ใช้งบไปกว่า 100 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2563 งบการตลาดน่าจะอยู่ที่ 100-150 ล้านบาท   ฟอร์มูลา : ปัจจุบันคุณมองว่า ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น IDEMITSU ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากน้อยเพียงใด ?   ดร. ภาวัต : จากผลสำรวจของ นิเคอิ ที่ทำการสำรวจในภูมิภาคเซาธ์อีสต์เอเชีย ผลิตภัณฑ์ IDEMITSU การรับรู้ของบแรนด์เติบโตมากที่สุด 17 % ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะบริษัทฯ ต้องการที่จะสร้างการรับรู้ให้แพร่หลาย และกว้างขวางมากกว่ายอดขาย เพราะว่าเมื่อการรับรู้ดี และมั่นคง ยอดขายก็จะเติบโตเพิ่มขึ้นตามมาด้วย ดังนั้น บริษัทฯ ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าก่อนที่จะลงทุนเพิ่มยอดขาย จะเห็นได้ชัดเจนว่าการสร้างการรับรู้ส่งผลดีต่อยอดขายอย่างมาก เพราะยอดขายของ IDEMITSU เติบโตแบบก้าวกระโดด   ฟอร์มูลา : วางเป้าหมายในอนาคตไว้อย่างไร ?   ดร. ภาวัต : จากในอดีตที่ผ่านมา ผู้บริโภคจะไม่รู้จัก APOLLO แต่วันนี้ เริ่มมีคนรู้จักว่า APOLLOเป็นบแรนด์น้ำมันเครื่อง จนถึงปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นบแรนด์ IDEMITSU และเป้าหมายสำคัญ คือ 5 ปี ภายภาคหน้า เมื่อลูกค้าเดินเข้าศูนย์บริการรถยนต์จะถามถึง บแรนด์ IDEMITSU   ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าเป็นเพราะอะไรลูกค้าจึงประทับใจในบแรนด์?   ดร. ภาวัต : IDEMITSU มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค ซึ่งจะว่าไปแล้ว คือ ของเหลวที่ใส่ในรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตั้งแต่เกรดสูงสุดจนถึงเกรดธรรมดา มีครบทุกประเภท นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับโรงงานทุกประเภท รวมถึงยังได้ขยายไลน์สินค้าเพิ่มขึ้นในส่วนของสเปรย์หล่อลื่น   ฟอร์มูลา : มีจำหน่ายในช่องทางใดบ้าง และมีแผนที่จะขยายช่องทางเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?   ดร. ภาวัต : ผลิตภัณฑ์น้ำมันอุตสาหกรรมบริษัทฯ ขายตรงโรงงาน อุตสาหกรรมเกษตร เหมือง รถประจำทาง รถแทกซี ส่วนน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ร้านซ่อมรถ ร้านอะไหล่ ค้าปลีกยานยนต์ รวมถึงช่องทางออนไลน์ ในอนาคตมีแผนที่จะขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เนื่องจากปัจจุบันยังขาดตัวแทนจำหน่ายในภาคใต้   ฟอร์มูลา : จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่เปิดตัวเพิ่มอีกหรือไม่ ?   ดร. ภาวัต : ผลิตภัณฑ์ IDEMITSU มีจำหน่ายทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยผลิตภัณฑ์บางสูตรจะมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งปีที่แล้ว IDEMITSU ได้เปลี่ยนสูตร แปลงโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมเพิ่มไลน์สินค้า ซึ่งเปลี่ยนได้ประมาณ 70 % คาดว่าปีนี้จะปรับโฉมครบทุกไลน์ พร้อมกันนี้ยังรุกผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบ รวมถึงสเปรย์หล่อลื่นให้ขยายฐานในวงกว้างมากยิ่งขึ้น   ฟอร์มูลา : ยอดขายในปีที่ผ่านมา และปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้อย่างไร ?   ดร. ภาวัต : ปี 2561 มีรายได้รวม 5,500 ล้านบาท หรือประมาณ 72 ล้านลิตร ส่วนปี 2562 สภาพเศรษฐกิจมีการชะลอตัวอย่างมาก ครึ่งปีแรกเติบโต 1-2 % อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าอุตสาหกกรรมยานยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้น แต่อาจจะมีอัตราลดลงตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านบาท หรือประมาณ 80 ล้านลิตร โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ประมาณ 10 % ติดอันดับ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทย   ฟอร์มูลา : คุณตั้งเป้าหมายการบริหารจัดการบริษัทฯ ไว้อย่างไร ?   ดร. ภาวัต : อยากเห็นการเติบโตของบริษัทฯ แบบก้าวกระโดด และให้มียอดขาย 10,000 ล้านบาท ซึ่งสิ่งที่จะก่อให้เกิดความสำเร็จตามเป้าหมายนั้น บริษัทฯ เตรียมรุกตลาดด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด โดยจะไม่หยุดอยู่แค่ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น เพราะ IDEMITSU เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นที่มีผลิตภัณฑ์มากมาย หากผลิตภัณฑ์ใดเหมาะสมกับประเทศไทย บริษัทฯ ก็จะนำมาทดลอง ทดสอบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และแนะนำออกสู่ตลาด และที่คาดว่าจะแนะนำในเร็วๆ นี้น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการล้างทำความสะอาดเครื่องยนต์