ตลาดโดยรวม | -1.1 % |
รถยนต์นั่ง | -1.7 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | -9.4 % |
รถอเนกประสงค์ (MPV) | +65.8 % |
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ | -0.3 % |
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ | -10.7 % |
อื่นๆ | +0.5 % |
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าปี 2562 นับว่าเป็นปีแห่งความผันผวน สำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี ยอดขายรถยนต์ได้รับปัจจัยบวกจากการเร่งปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้ยอดขายช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันในปีก่อนกว่า 7.1 % ทว่าพอผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี สถาบันการเงินเริ่มมีความเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสุดท้ายแล้วยอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งปี 2562 อาจหดตัวลงประมาณ 2.5 % จากปี 2561 และปิดที่ตัวเลขประมาณ 1,015,000 คันสำหรับปี 2563 ยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะจากแรงกดดันของความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงมีทิศทางชะลอตัวจากแรงกดดันของสงครามการค้าโลก ทำให้มีโอกาสที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2563 จะปิดตลาดที่ 960,000-1,015,000 คัน ทรงตัวจากปี 2562 อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดตัวอีโคคาร์หลายรุ่นที่น่าสนใจช่วงปลายปี 2562 รวมถึงมีโอกาสที่รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ น่าจะมีการเปิดตัวเพิ่มอีก ซึ่งน่าจะช่วยพยุงให้บรรยากาศของตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2563 คึกคักขึ้นบ้าง แม้สถานการณ์โดยรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2563 จะไม่เอื้อต่อการเติบโตของตลาดนักจากปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ แต่ถึงกระนั้น ค่ายรถต่างก็พยายามใช้กลยุทธ์ต่างๆ กระตุ้นตลาด โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่ามีอยู่ 2 กลุ่มด้วยกัน คือ อีโคคาร์ และรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีประเด็นที่น่าสนใจในแต่ละกลุ่มดังนี้อีโคคาร์ ค่ายรถต่างเร่งนำเสนอรุ่นใหม่ออกมาพร้อมกันหลายค่ายในช่วงปลายปี 2562 โดยได้มีการปรับโฉมทั้งไมเนอร์เชนจ์ และเมเจอร์เชนจ์ ซึ่งลูกเล่นใหม่ที่คาดว่าอาจจะเป็นตัวแปรดึงตลาดอีโคคาร์ที่หดตัวในปี 2562 ให้พลิกกลับมาเป็นบวกได้ในปี 2563 คือ การที่ค่ายรถเลือกใช้วิธีลดขนาดเครื่องยนต์ให้เล็กลง แต่เสริมแรงสมรรถนะเครื่องยนต์ให้ดีขึ้น เพื่อให้สามารถคงประสิทธิภาพการใช้งาน และประหยัดน้ำมันได้ตามเกณฑ์มาตรฐานอีโคคาร์