RANGE ROVER VELAR (เรนจ์ โรเวอร์ เวลาร์) รุ่นปี 2020 เป็นรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีหรู ทันสมัย แทรกกลางระหว่างรุ่น EVOQUE (อีโวค) น้องเล็ก และ RANGE ROVER SPORT (เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ท) ผู้พี่ ใช้โครงสร้างฐานล่างร่วมกับ JAGUAR F-PACE (แจกวาร์ เอฟ-เพศ) เอสยูวี ในเครือเดียวกัน โดย VELAR จะมีขนาดตัวใหญ่กว่า MERCEDES-BENZ GLC (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี) และ BMW X3 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3) อยู่เล็กน้อยการตกแต่งภายในถือว่าอยู่ในเกณฑ์เรียบๆ ไม่ถึงกับทันสมัย แต่เน้นการใช้วัสดุคุณภาพสูง ตามแนวขอบประตูด้านบน และล่าง มีให้ผู้ซื้อเลือกตกแต่งระหว่างไม้ และโลหะ การเก็บรายละเอียดภายในทั่วทั้งคัน ถือว่าทำได้ดีมาก โดยมีตัวเลือกในการตกแต่ง รวมไปถึงอุปกรณ์พิเศษให้แก่ลูกค้าหลากหลายรูปแบบ และจากการที่เป็นรถทรงกล่อง ช่วงที่ต่อจากล้อหลังได้รับการขยายส่วนออกไป มีผลทำให้ห้องเก็บ สัมภาระท้ายรถ สามารถวางกระเป๋าเดินทางได้ถึง 10 ใบ และเมื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มเป็น 23 ใบ สามารถบรรทุกได้อย่างจุใจทีเดียว แต่ในส่วนของพื้นที่ห้องโดยสาร ถือว่ามีพื้นที่วางขา และบริเวณเหนือศีรษะมาให้พอสมควร ไม่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกอึดอัด เมื่อคุณสตาร์ทเครื่องยนต์ ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ภายในรถที่ซ่อนอยู่บริเวณคอนโซลกลางจะเลื่อนขึ้นมา ติดตั้งจอดิสพเลย์แบบทัชสกรีน บนแผงหน้าปัด LAND ROVER (แลนด์ โรเวอร์) เรียกระบบอินโฟเทนเมนท์นี้ว่า IN CONTROL TOUCH PRO DUO ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ VELAR ทุกคัน รวมไปถึงระบบ โทรศัพท์แบบบลูทูธ, ระบบเชื่อมต่อออดิโอ, ระบบควบคุมคุณภาพเสียง, ลำโพง 8 ตัว, รองรับระบบ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO, พอร์ท USB 2 ช่อง, ระบบนำทาง และอื่นๆ ส่วนระบบวิทยุที่เชื่อมต่อกับระบบดาวเทียม เป็นอุปกรณ์พิเศษให้เลือกติดตั้ง LAND ROVER ติดตั้งระบบ DRIVER ASSISTANCE TECHNOLOGIES เช่น ระบบเบรคฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ, มอนิเตอร์สำหรับมองจุดบอด, ระบบเตือนให้วิ่งอยู่ในเลน, ระบบควบคุมความเร็วคงที่แปรผันตามความเร็วรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ฯลฯ โดยผ่านมาตรฐานการรับรองเรื่องความปลอดภัยจากหน่วยงาน THE NATIONAL HIGHWAY TRAFFIC SAFETY ADMINISTRATION และ THE INSURANCE INSTITUTE FOR HIGHWAY SAFETY เครื่องยนต์มีหลายขนาดให้เลือกใช้ เริ่มจาก 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 250 แรงม้า พละกำลังจัดจ้านพอสมควร 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 7.4 วินาที ให้พละกำลังในการลากจูงถึง 3,290 ปอนด์ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์ วี 6 สูบ 3.0 ลิตร ซูเพอร์ชาร์จ พละกำลัง 380 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 5.7 วินาที แต่เครื่องตัวนี้กินน้ำมันจุทีเดียว ในส่วนของอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ในรุ่น 4 สูบ เทอร์โบ ทำได้โดยเฉลี่ยในเมือง/นอกเมือง 8.9/11.4 กม./ลิตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ วี 6 สูบ ซูเพอร์ชาร์จ ทำได้ 7.7/10.2 กม./ลิตร โดยรถทั้ง 2 รุ่นจะติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ถ้ายังต้องการพละกำลังที่แรงขึ้นไปอีก ยังมีรุ่นพิเศษ คือ SV AUTOBIOGRAPHY (เอสวี ออโทไบโอกราฟี) ติดตั้งเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ซูเพอร์ชาร์จ 550 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที สมรรถนะสูงเหนือบรรดาคู่แข่ง PORSCHE MACAN TURBO (โพร์เช มาคัน เทอร์โบ), MERCEDES-AMG GLC (เมร์เซเดส- เอเอมจี จีแอลซี) และ ALFA ROMEO STELVIO QUADRIFOGLIO (อัลฟา โรเมโอ สเตลวีโอ กวาดริโฟกลีโอ) มีอัตราความสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย ในเมือง/นอกเมือง 6.4/8.5 กม./ลิตร VELAR มีการควบคุมบังคับแบบสปอร์ท เซทมาได้ค่อนข้างลงตัว ระบบรองรับแบบถุงลม สามารถควบคุมการให้ตัวของโครงสร้างตัวรถแบบเอสยูวีได้อย่างมั่นคง และนุ่มนวล สามารถปรับระดับตัวถังสูง/ต่ำได้ตามสภาพการใช้งาน โดยปกติใต้ท้องรถจะสูงจากพื้นประมาณ 213 มม. RANGE ROVER VELAR ถือเป็นครอสส์โอเวอร์เอสยูวีอเนกประสงค์ที่เหมาะกับการใช้งานได้ในทุกๆ วัน มีความสวยงาม หรูหรา ทั้งภายใน และภายนอก เครื่องยนต์มีหลายระดับความแรงให้เลือกใช้งาน นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์พิเศษให้เลือกติดตั้งอีกหลายหัวข้อทีเดียว เพียงแต่ว่าราคาจะค่อนข้างจะสูง เมื่อเทียบกับบรรดาคู่แข่งจากยุโรป โดยเน้นจุดขายที่มีตำนาน 70 กว่าปี ซึ่งในขณะนี้ LAND ROVER และ JAGUAR บริหารโดย TATA MOTORS (ทาทา มอเตอร์ส)
บทความแนะนำ