นับตั้งแต่ปี 1990 (พศ. 2533) จนถึงปี 2020 (พศ. 2563) เป็นระยะเวลา 3 ทศวรรษ ที่โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย ในทุกๆ วงการวงการรถยนต์เปลี่ยนโฉมหน้าไปจนจำแทบไม่ได้ ทั้งการผลิต การขาย เทคโนโลยี รวมถึงรูปลักษณ์ของตัวรถ ฯลฯ รถที่ผลิตตั้งแต่ปลายยุค 80 จนถึงต้นยุค 90 ถ้านับเฉพาะอายุอย่างเดียว ตอนนี้ก็ถือว่ายกระดับเป็นรถคลาสสิคกันแล้ว ตามการแบ่งประเภทของสมาพันธ์ยานยนต์โบราณโลก ส่วนจะได้รับการยกย่องว่าคลาสสิคจริง และมีคนเสาะหาเพื่อบูรณะสะสมกันหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ต่างจากคนเราที่มีคนสูงอายุประเภท “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” อยู่เต็มบ้าน เต็มเมือง 30 ปี ไม่ใช่ระยะเวลาสั้นๆ มันสามารถเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างให้ดีขึ้น และเลวลงได้ เหมือนกับที่เปลี่ยนของใหม่ให้เป็นของหมดสภาพ หรือของสะสม ในโลกรถยนต์ และเปลี่ยนจาก DOUBTER เป็น BELIVER ในโลกของฟุตบอล เริ่มคุ้นๆ แล้วละสิ ใช่ครับ... ผมกำลังพูดถึงทีมลิเวอร์พูลซึ่งครองแชมพ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ประจำฤดูกาล 2019-2020 ในขณะที่ “เธอะ คอพ” (THE KOP) จำนวนมากที่เกิดไม่ทันยุค 70-80 เริ่มสงสัย หรือไม่เชื่อแล้วว่า ทีมจะกลับมาเป็นแชมพ์ได้อีก ก่อนหน้านี้ 3 ทศวรรษ ลิเวอร์-พูลเป็นแชมพ์ลีกสูงสุดของอังกฤษมาแล้ว 18 สมัย นะครับ มากกว่าทุกทีม โดยคว้าแชมพ์ครั้งสุดท้าย ในปี 1990 หลังจากนั้นลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ก็เปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชัน 1 เป็นพรีเมียร์ลีก และลิเวอร์พูลที่คนไทยตั้งสมญาว่า “หงส์แดง” ทั้งที่สัญลักษณ์ของทีม คือ นก “ไลเวอร์เบิร์ด” ก็ไม่เคยสัมผัสตำแหน่งแชมพ์ถ้วยนี้อีกเลยเป็นเวลา 30 ปีเต็มๆ ฉะนั้น จะนับว่า นี่เป็นแชมพ์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกของทีมก็ได้ แต่จริงๆ แล้วมัน คือ แชมพ์ลีกสูงสุดของประเทศ ครั้งที่ 19 ไม่ว่าจะนับอย่างไร ก็เป็นแชมพ์ที่ยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยสถิติใหม่ๆ ที่พวกเขาสร้างขึ้น การรอคอยอันยาวนานนี้สิ้น-สุดลงได้ ด้วยฝีมือผู้จัดการทีมที่ชื่อ จือร์เกน คโลพพ์ เจ้าของประโยค “WE HAVE TO CHANGE FROM DOUBTERS TO BELIVERS” ซึ่งเขาได้พูดกับสาวกหงส์แดงทั่วโลก ในวันที่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทาง-การเมื่อปี 2015 สุดท้ายที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ คือ แชมพ์ของลิเวอร์พูลปีนี้ เป็นเรื่องเดียวในโลกที่ COVID-19 ไม่สามารถหยุดยั้งได้