สนทนาธุรกิจ (formula)
สุดเขต จันทร์เฉลี่ย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด
ศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจร เหมาะสำหรับรถที่หมดระยะเวลารับประกันเข้าไปใช้บริการ ซึ่งในบ้านเรามีรถยนต์ประเภทนี้จำนวนมาก ทำให้ธุรกิจเกิดการแข่งขันสูง “ฟอร์มูลา” สนทนาธุรกิจ กับ สุดเขต จันทร์เฉลี่ย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MMS BOSCH CAR SERVICE & TIRE (เอมเอมเอส โบช คาร์ เซอร์วิศ แอนด์ ไทร์)ฟอร์มูลา : ศูนย์บริการ MMS BOSCH มี จุดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดอย่างไร ? สุดเขต : บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MMS BOSCH CAR SERVICE & TIRE (เอมเอมเอส โบช คาร์ เซอร์วิศ แอนด์ ไทร์) ภายใต้กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันก้าวสู่ปีที่ 13 โดย MMS BOSCH คือ ศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจร สำหรับรถญี่ปุ่น และยุโรปที่หมดระยะการรับประกัน รวมถึงเป็นผู้จำหน่ายยางรถยนต์ น้ำมันเครื่องแบทเตอรี อะไหล่ช่วงล่าง งานวิเคราะห์ งานซ่อมเครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ และล้างระบบแอร์ด้วยเครื่องมือทันสมัย โดยช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ TUNAP (ทูนัพ) จากประเทศเยอรมนี และยังมีบริการขายส่งอะไหล่ของผลิตภัณฑ์ BOSCH (โบช) ให้แก่ โออีเอม และร้านขายอะไหล่ทั่วไป ปัจจุบัน MMS BOSCH เปิดให้บริการแล้ว 15 สาขา ได้แก่ เกษตร-นวมินทร์, ประดิษฐ์มนูธรรม, พระราม 4, รามอินทรา, งามวงศ์วาน, สุขาภิบาล 3, สำโรง, เพชรเกษม, ราชพฤกษ์, ลำลูกกา, รังสิต, ระยอง, บางแสน, พัทยา และอุบลราชธานี ฟอร์มูลา : แผนขยายการลงทุนในปีนี้ และในอนาคต ? สุดเขต : บริษัทฯ มีนโยบายที่จะขยายสาขาปีละ 6-8 แห่ง แต่เนื่องจากปีนี้เกิดวิกฤตโรค COVID-19 ทำให้ต้องชะลอแผนงานออกไป โดยคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มเพียง 1 แห่ง ใช้เงินลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งหมด 40 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 30 สาขา และต่างจังหวัด 10 สาขา โดยมั่นใจว่าการขยายสาขาจะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้น เพื่อทำให้บแรนด์ MMS BOSCH เป็นที่รู้จักแพร่หลายกว่าเดิม ฟอร์มูลา : วิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ มากน้อยเพียงใด ? สุดเขต : ผลกระทบหนัก คือ ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ยอดรายได้ลดลง เนื่องจากลูกค้าพะวงเรื่องการออกจากบ้าน แต่หลังจากมีการปลดลอคเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เริ่มมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น แต่ถึงแม้ว่าจะเกิดวิกฤต MMS BOSCH ก็กระตุ้นตลาดด้วยการออกแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น ตัวอย่างเช่น บริการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ ฉีดพ่นด้วยน้ำร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคของ TUNAP ซึ่งมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 โดยจัดพโรโมชันพิเศษ ล้างแอร์รถญี่ปุ่น ราคาเพียง 1,290 บาท (ปกติ 1,890 บาท) และรถยุโรป 1,890 บาท (ปกติ 2,290 บาท) พร้อมบริการอบโอโซนให้ฟรี ! มูลค่า 600 บาท และพโรแกรม เกียร์ EXPERT ให้บริการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ด้วยพโรแกรมที่ถูกสร้างมาเพื่อบำรุงรักษาเกียร์โดยเฉพาะ โดยลูกค้าที่นำรถเข้ารับบริการในพโรแกรม เกียร์ EXPERT จะได้รับการรับประกันงานซ่อม 1 ปี หรือ 20,000 กม. ผ่อนชำระ 0 % นาน 6 เดือน ซึ่งใช้เวลาซ่อมไม่เกิน 3 วัน บริการล่าสุด คือ 1396 MMS CAR SERVICES ตอบโจทย์ให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อสอดรับกับนโยบายการบริหารธุรกิจแบบดิจิทอลเต็มรูปแบบในอนาคต ช่วยให้เกิดการติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว สามารถตอบข้อสงสัยให้แก่ลูกค้า รวมถึงแก้ปัญหาได้ทันใจ รองรับทั้งลูกค้าขายปลีก และขายส่งผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ โทรศัพท์, เวบไซท์, เฟศบุค, ไลน์, ยูทูบ และอินสตาแกรม อีกทั้งยังมีการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อนำมาเพิ่มประสิทธิภาพการบริการในอนาคต โดยลูกค้าสามารถโทรติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาได้ตลอด ถึงแม้ว่าจะ ไม่ได้เข้ามาใช้บริการก็ตาม ฟอร์มูลา : ปีนี้รายได้จะลดลงมากน้อยเพียงใด ? สุดเขต : บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 10-15 % โดยปีที่แล้วมียอดขายอยู่ที่ 450 ล้านบาท ในช่วง COVID-19 รายได้ตกลงประมาณ 40-50 % คาดว่าปีนี้รายได้จะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่คงไม่ตกมากนัก ช่วงครึ่งปีหลังตลาดจะกลับมาฟื้นตัวใหม่ ฟอร์มูลา : ครึ่งปีหลังวางกลยุทธ์การตลาดไว้อย่างไร ? สุดเขต : เน้นบริการเมนูพิเศษ ใช้แคมเปญส่งเสริมการขายที่แตกต่างในแต่ละเมนู เป็นการสร้างการรับรู้ รวมถึงเป็นทางเลือกให้ลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ ทั้งงานการบำรุงรักษา และงานซ่อม ปัจจุบันในส่วนการบำรุงรักษา บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ TUNAP จากประเทศเยอรมนี ที่ตอบโจทย์การบำรุงรักษารถยนต์แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ มีจุดเด่นด้านคุณภาพ และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การันตีด้วยรางวัล GOLD MEDAL FOR OUTSTANDING ENVIRONMENTAL STANDARDS จากสมาพันธ์ยานยนต์ของประเทศเซอร์เบีย โดยมี TUNAP 989/979 น้ำยาล้างทำความสะอาดหัวฉีดสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่ที่หัวฉีด ซึ่งเกิดจากการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่ได้มาตรฐาน และรถที่ผ่านการใช้งานมานานจนเครื่องยนต์สึกหรอ การล้างทำความสะอาดหัวฉีดช่วยให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณเขม่า และความสกปรกของไอเสียต่ำลง รวมถึงช่วยประหยัด เชื้อเพลิงแบบเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมี TUNAP 984/974 น้ำยาปกป้องหัวฉีด สำหรับเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ที่สามารถป้องกันไม่ให้หัวฉีดสกปรกและเพิ่มค่าซีเทน ช่วยให้เผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังลดมลพิษ และประหยัดเชื้อเพลิง TUNAP 957 น้ำยาทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์ ช่วยสลายสิ่งสกปรกในระบบหล่อลื่นของเครื่องยนต์ TUNAP 100 สเปรย์น้ำยาหล่อลื่นอเนกประสงค์ ป้องกันสนิม การกัดกร่อน และการสึกหรอ สามารถใช้กับทั้งเหล็กและพลาสติค เพื่อทำความสะอาดบนพื้นผิวต่างๆ ของรถยนต์, อุปกรณ์ภายในบ้าน, เครื่องมือช่าง ไม่ว่าจะเป็น ลอคประตู สกรู สลักเกลียว นอท และอื่นๆ TUNAP 115 สเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ โดยเฉพาะคราบน้ำมันต่างๆ และ TUNAP 931/932 น้ำยาทำความสะอาดระบบ DPF สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ ฟอร์มูลา : บริษัทฯ มีแผนที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือไม่ ? สุดเขต : บริษัทฯ มองผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับรถยนต์ไว้หลากหลาย เพื่อสร้างความแตกต่าง ส่วนศูนย์บริการ MMS BOSCH ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์ และการตลาด ซึ่งหากมีความพร้อมเมื่อไร บริษัทฯ จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าอย่างแน่นอน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า เพราะปัจจุบันศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจร มีการแข่งขันสูงมาก แต่เดิม ลูกค้าที่มีรถยนต์หมดระยะเวลารับประกันจะมี 2 ทางเลือก เข้าศูนย์บริการแบบครบวงจร และอู่ทั่วไป แต่ปัจจุบัน ศูนย์บริการรถยนต์ได้เข้ามาขยายธุรกิจส่วนนี้เพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันในตลาดทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งศูนย์บริการ MMS BOSCH มั่นใจว่าจะเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้ตรงจุด และสร้างทางเลือกใหม่ให้แตกต่างจากศูนย์บริการอื่นๆ โดยการเพิ่มบริการใหม่ และพโรโมชัน รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ฟอร์มูลา : อุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ? สุดเขต : ในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น รูปแบบการสื่อสารทางการตลาดเปลี่ยนไปมาก โดยมีระบบดิจิทอล เข้ามามีส่วนในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ เทคโนโลยีมีการพัฒนา ราคารถใหม่ถูกลง แต่ในทางกลับกัน เทคโนโลยีใหม่ก็จะมีปัญหาในระบบต่างๆ มากขึ้น จุดนี้ บริษัทฯ มองว่าเป็นโอกาสที่จะรองรับลูกค้า เพราะเครือข่ายของกลุ่ม เอมจีซี-เอเชีย ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ครอบคลุมในทุกเซกเมนท์ของรถยนต์ที่ทำตลาดในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ผมมองว่ารถยนต์ระบบสันดาปก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโต และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถไฟฟ้า ปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่องระยะในการเดินทางที่ได้เพียง 300-400 กม. เท่านั้น รวมถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่พร้อมสำหรับการเดินทางระยะไกล คาดว่าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 10 ปี ส่วนประเทศในยุโรป หรือ จีน ที่รถไฟฟ้าเติบโตนั้น เป็นเพราะการเพิ่มภาษีรถเก่า จึงทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : สายชล อรรถาเวชนิตยสาร 399 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2563
คอลัมน์ Online : สนทนาธุรกิจ (formula)